แด่มีดและหิน...ด้วยรัก
.
สวัสดียามเช้าวันอากาศเปลี่ยนๆไปมามืดๆแจ้งๆมัวๆซัวๆครับผม แต่ฝนก็ยังไม่ตก วันนี้วันดีมีเรื่องรักๆมาฝากพี่น้องนักนิยมมีดทุกท่าน
.
เรื่องรักในวันนี้หมายถึงต้นรัก หรือยางรัก ไม้รักเขา ทางเหนือเรียกว่าไม้ฮัก เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางนะครับ จัดว่าต้นใหญ่อยู่เหมือนกันที่เห็นในป่าก็ต้นนึงเป็นโอบๆ แต่ถ้าปลูกแถวๆบ้านก็ต้นไม่ใหญ่นัก ผิดดินผิดอากาศ
.
มีดเล่มที่เห็นนี่ด้ามทำจากไม้รักครับผม หรือไม้ฮักนี่แหละ ส่วนหินลับมีดก็เคลือบขอบด้วยยางรักเหมือนกัน แต่ที่ผมใช้นี่คือยางรักสำเร็จ ไม่ได้เป็นยางรักสด ต้นที่อยู่หลังบ้านผมนี่ยังแก่ไม่พอที่จะให้ยาง แต่มันก็มีนิดๆหน่อยๆนะครับ ผมเคยเจาะยางหรือกรีดดูบ้างเหมือนกัน
.
การเคลือบขอบหินลับมีดธรรมชาติด้วยยางรัก หรือไข่ขาว หรือยางไม้อื่นๆ รวมไปถึงสารเคมีทางวิทยาศาสตร์เช่นแล็กเกอร์ เชลแล็ก เรซิน อีป็อกซี่ต่างๆ ก็เคลือบเพื่อลดหรือถ่วงอัตราการกินน้ำและคายน้ำของหิน หินลับมีดบางประเภทถ้าแห้งมานานแล้วเอาจุ่มน้ำหรือแช่น้ำ ถ้าเอาขึ้นมาผึ่งลมหรือตากแดดมันจะแตกทันทีครับหรือร้าวไม่ก็จุดใดจุดหนึ่ง
.
การลงเคลือบขอบทั้งสี่หรือทั้งห้าของหินลับก็เพื่อให้มันกินน้ำช้าๆคือกินได้หน้าเดียวคือด้านที่ใช้ลับมีด และคายน้ำช้าๆคือหน้าที่เปิดไว้นั่นแหละ มันมีส่วนช่วยให้หินลับมีดธรรมชาติมีอายุยาวนานขึ้นกว่าก้อนที่ไม่เคลือบ ก้อนที่เห็นนี่เคลือบด้วยยางรัก ก้อนนี้ตัดออกไปส่วนนึงเพราะว่าแตกร้าว และก้อนนี้ก็มีแตกร้าวเหมือนกันครับ แต่หลังจากเคลือบแล้วไม่มีรอยร้าวเพิ่ม คือใช้งานได้ดีเหมือนปรกติ
.
ยางรักที่เห็นเป็นกระป๋องนี้เค้าก็ทำมาจากยางรักดิบนะครับแต่เอาไปต้มและเพิ่มสารเคมีนิดหน่อยเพื่อให้มันคงสภาพได้ เพราะยางรักสดๆถ้าเจาะไว้ใหม่ๆจะเป็นสีขาว และเมื่อผ่านไปซักวันนึงก็จะเป็นสีดำ ถ้าไม่ต้มหรือปรุงให้สำเร็จมันก็จะหนืดขึ้นเรื่อยๆและแข็งตัว
.
ผมใช้ไม้ฮักทำด้ามมีดด้ามค้อน ด้ามขวานอยู่เสมอๆครับ ที่ชอบเพราะมันเหนียวดี ไม่ใช่ว่าแข็งนะครับคือมันเหนียวถึงเอามาทำด้ามค้อนได้ ที่ชอบอีกอย่างคือสีมันแดงดีครับ บางชิ้นสีแดงส้มเหมือนเปลวไฟก็มี
.
หลังบ้านผมมีต้นรักอยู่สองต้น ก็ต้นที่ผมถ่ายรูปให้ดูนี่แหละครับอาจจะชัดบ้างไม่ชัดบ้างต้องขออภัย แสงไม่ค่อยดีและผมถ่ายรูปไม่ค่อยจะเป็น ข้อควรระวังอีกอย่างคือต้นรักเป็นไม้พิษนะครับ ท่านใดที่แพ้ต้นรักแม้แต่ไปยืนใต้ต้นก็ไม่ได้ครับผมจะเกิดอาการแพ้เป็นผื่นคันจากละอองของใบรัก ดอกของต้นฮักเป็นเหมือนลูกยางครับคือมีเมล็ดและปีกกังหันให้มันหมุนปลิวไปตามสายลม
.
แถวหลังบ้านผมมีต้นไม้มาก ผมปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้นคือเป็นป่ากึ่งธรรมชาติ ไว้ให้นกหนูกระรอกกระแตได้อยู่อาศัย จัดการแค่กวาดหรือถางด้านล่างไม่ให้งูเข้ามาอยู่แค่นั้น นอกนั้นข้างบนบางช่วงเวลาแสงแดดแทบส่องไม่ถึงพื้น เป็นระบบนิเวศน์เล็กๆสำหรับสัตว์ผู้ยากได้มาพักอาศัย เท่าที่ดูมันเป็นเขตป่าเขตสุดท้ายในหมู่บ้านนี้แล้ว ผมไม่ใช้สารเคมีทางการเกษตร ยาฆ่าแมลงห๋าหญ้าอะไรไม่ใช้ทั้งนั้นครับ ในดินใต้ต้นไม้ก็เป็นเขตเพาะพันธุ์ด้วงและจั๊กจั่น ซึ่งมันขึ้นมาขยายพันธุ์ทุกปี
.
เสียงสายลมหวีดหวิวล้อกิ่งไผ่ผสมเสียงนกตัวเล็กตัวน้อย มีให้ฟังตลอดทั้งปี มีเสียงจั๊กจั่นกรีดปีกดังระงมเซ็งแซ่ เสียงค้อนกระแทกเหล็กแดงๆบนทั่งเก่าสนิมเกรอะ ผมเองได้ยินอยู่เสมอๆ เงี่ยหูฟัง รอการได้ยิน ถ้าไม่ได้ยินเสียงอะไรผมจะฟังเสียงความเงียบ บางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ส่งเสียงร่ำร้องอยู่ในจิตวิญญาณ มันอยู่ที่นั่นเสมอ แต่มีเพียงบางช่วงเวลาที่เราจะได้ยิน ช่วงเวลาที่หัวใจเงียบสงัดเย็นยะเยือก หรือพลังสร้างสรรค์ต้องการหนทาง นั่งเงียบๆหลับตาคอยฟังเสียงจากใจของตัวเอง มันดังแผ่วๆแต่ชัดเจนในการรับรู้
.
ชีวิตนี้น้อยนัก เราเกิดมาได้ไม่กี่ปีก็ต้องตาย ควรใช้เวลากับบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เรารู้สึกเป็นสุข เรื่องไหนเป็นทุกข์ก็อย่าให้เวลาหรือความสำคัญกับมันมากนัก แต่ชีวิตก็คือชีวิต มันเต็มไปด้วยทุกข์ จนบางทีก็ไม่รู้จะหลีกหนีมันยังไง อารมณ์หรืออาการของจิตเกิดดับอยู่ตลอดเวลา พิจารณาตามให้รู้แล้วก็วาง เรื่องไหนทำให้ใจเป็นทุกข์ก็รีบๆวางหน่อย เรื่องไหนทำให้ใจเป็นสุข ก็อ้อยอิ่งสัมผัสรสชาติหอมหวานที่คิดปรุงขึ้นมาแล้วก็วาง บริหารเวลาของชีวิตให้คุ้มค่า
.
สายฝนมาแล้วก็ต้องไป คนก็เหมือนกัน ชีวิตนี้ยังมีเรื่องให้ทำอีกหลายอย่างเมื่อลุกไปจากที่นี่ ขยับไปใช้ชีวิตที่ต่างจากตรงนี้ เหมือนกาแฟอุ่นที่เราจ้องมองมัน คุณค่าของมันอยู่ตรงไหน ตอนกำลังชง ตอนกำลังรอให้มันอุ่นได้ที่ ตอนกำลังมองเงาตัวเองสะท้อนสั่นไหวอยู่ในแก้ว หรือตอนกำลังดื่ม ดื่มคำแรกกับคำสุดท้ายมีความสุขเท่ากันไหม ตอนกาแฟในแก้วหายไป เราเหลืออะไร หรือได้อะไรมาจากแก้วว่างเปล่านั่น หน้าที่หรือชีวิตของกาแฟถ้วยนึงเป็นแบบนั้น มันมีคุณค่าสูงสุดเมื่อมันหายไป อยู่ในที่ที่ควรอยู่ และไปในที่ที่ควรจะต้องไป
.
เราอยู่ในที่ที่ควรอยู่หรือไม่ หรือที่ที่เราจะไปเป็นที่ที่ควรหรือไม่ควร เวลาที่เราพอมีเหลือเราจะใช้มันเพื่อสิ่งใด เป็นคำถามสั้นๆที่หลายคนไม่อาจค้นพบคำตอบในระยะเวลาอันสั้นหรือไม่กล้าพอแม้แต่จะถาม ข้อคิดเห็นอันยิ่งใหญ่ที่เราตอบกับตัวเองซึ่งบางทีก็ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เมื่อคิดให้ลึกด้วยความหวังว่าจะพบคำตอบ สิ่งที่พบกลับกลายเป็นคำถามที่กว้างขวางและลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม สิ่งที่พอจะทำได้คือการยอมรับว่าเราหาคำตอบไม่ได้และจะหมั่นทบทวนมัน
.
ฝนเริ่มตกลงมาแล้ว อากาศเป็นไปในทางค่อนข้างหนาว บรรยากาศดูคล้ายๆมีความอ้างว้างเจือปนอยู่หน่อยๆ ไม่มากนักแผ่วๆแต่ก็พอให้คิดถึงความหลัง สิ่งที่ผ่านมาแล้วเป็นเรื่องแปลกบางทีไม่ได้คิดถึงหลายปี ราวกับไม่มีที่จัดเก็บในสมอง เหมือนมันไม่เคยเกิดขึ้น แต่บางทีมันก็มา คล้ายๆวางอยู่ตรงหน้า เห็นชัดปานนั้น ความไม่รู้ก่อให้เกิดความคิดปรุง มโนวิญญาณหยิบเอาสัญญาอารมณ์เก่าขึ้นมาคิดปรุง หลอกจิตอีกที
.
มันดี มันไม่ดี มันผ่านไปแล้ว หรือมันยังอยู่ ความสุข ความเศร้า ความประทับใจ หรือแรงบันดาลใจดั้งเดิมของชีวิต ความทุกข์ที่อยู่รายรอบและความสุขที่ซ่อนอยู่ตามส่วนต่างๆของชีวิตที่เราพยายามซอกซอนเข้าไปค้นหา สิ่งที่ทนทานได้ง่ายมักจะถูกขวางกั้นหรือร้อยรัดด้วยสิ่งที่ทนทานได้ยาก ในสามแดนโลกธาตุมันมีธรรมดาของมันเป็นอย่างนี้
.
มันเป็นเช่นที่มันเป็น มีแค่ความยึดมั่นถือมั่นและความคิดปรุงของเราที่พยายามขีดเส้นหรือตีกรอบให้มันเป็นไปตามความต้องการ มันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ มีหน้าที่และทำหน้าที่ของมัน นอกเหนือจากนั้นมันยังเป็นสิ่งสวยงาม
.
ชีวิตเต็มไปด้วยทุกข์แต่ก็เป็นสิ่งสวยงาม
.
ชีวิตเป็นสิ่งสวยงาม
.
ความรักเองก็เป็นสิ่งสวยงาม
.
ด้วยรัก