ถาม – ตอนนี้ชีวิตผมพบวิบากกรรมไม่ดีมาให้ผลหลายเรื่อง เหมือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก อยู่เฉยๆ ก็มีเรื่องเข้ามาตลอด ผมจะสติแตกอยู่แล้วครับ เรื่องนี้ยังไม่จบ เรื่องนั้นมาอีกแล้ว ต้องกินยานอนหลับมานานแล้ว สุขภาพก็แย่ลงอีก จะภาวนาอย่างไรดี มีวิธีชะลอการให้ผลของกรรมไหม รู้สึกว่าจะรับไม่ไหวแล้วครับ
(ตอบ)
ก็อย่างที่น้องว่านั่นแหละนะ
ช่วงที่เราโชคร้ายนี่มันดูเหมือนไม่มีอะไรดีเลย
ขอให้ระลึกว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้งของดวงดาว
แล้วก็ไม่ใช่จะมีวิญญาณดวงไหน อสูรร้าย
หรือเปรตดิบที่ไหนนะ มาทำอันตรายเราได้
ถ้าปราศจากวิบากกรรมของเราเอง
คือถ้าเมื่อไหร่ที่บาปหรืออกุศลเก่าที่เราเคยทำไว้
มันงอกเงย มันจะได้เวลาเผล็ดผล
ไม่ว่าใครที่ไหนนะ
ต่อให้เทวดาก็ต้องตกสวรรค์
เราเป็นใครถึงจะสามารถจะพ้นจากวิบากกรรมของตัวเองได้
ถ้าเรามองอย่างนี้ว่าเรากำลังเข้าตาจน
วิบากกำลังบีบให้เรารู้สึกแย่ที่สุด ไม่มีอะไรดีเลย
ก็ขอให้มีสตินะ
ระลึกได้ขึ้นมาสักนิดหนึ่งก็แล้วกันว่า
ช่วงที่ดวงตกสุดขีด
สติไม่ตกตามไปด้วย
เราจะยังไม่ตกถึงที่สุด
อย่างน้อยที่สุด
เราจะมีดีบางอย่างไว้ช้อนไว้รองไว้รับ
เหมือนกับล้มบนฟูก
อาการของคนล้มบนฟูกจริงๆนะ
ของแท้ของจริงเลย
เราจะเจอทุกข์หนักหรือว่าสถานการณ์ยั่วยุ
ให้จิตใจวุ่นวายกระสับกระส่ายแค่ไหนก็ตาม
ถ้าเรายังเป็นลูกศิษย์พระตถาคตอยู่
ยังเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าอยู่ ยังเป็นสาวกของท่านอยู่
สิ่งที่เราต้องทำก็คือมีสติเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวสุดท้าย
เป็นที่พึ่งเป็นสรณะสุดท้าย
เมื่อมีสตินะ อย่างน้อยที่สุด เราจะระลึกได้ว่า
ที่พึ่งอื่นไม่มี นอกเหนือจากพระพุทธเจ้า
ที่พึ่งอื่นไม่มี นอกจากพระธรรมที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนไว้ เปิดเผยไว้
ที่พึ่งอื่นไม่มี นอกจากอริยสงฆ์อริยเจ้าที่ท่านมีความเมตตากรุณา
แล้วก็มีสง่าราศีพอที่จะทำให้จิตใจของเราเกิดความเบิกบานได้
เพียงด้วยการดู
เพียงด้วยการกราบไหว้รูปเคารพของท่าน
สติที่สามารถระลึกถึงสิ่งดีๆ
สติที่สามารถระลึกถึงกุศลธรรมได้
จะเป็นเหมือนกับฟูกรองรับการล้มตัวของเราได้ทุกเมื่อ
แต่ถ้าเมื่อไหร่เรารู้สึกแย่
แล้วมีโทสะมาเป็นเจ้าเรือน
มีโทสะมาครอบงำจิตใจ
ก่อให้เกิดโมหะ คิดว่า เออ ตายๆ ไปซะดีกว่า
แล้วมันตายไปในขณะที่จิตกำลังย่ำแย่อยู่นี่นะ
มันเท่ากับซ้ำเติมตัวเองที่แย่อยู่แล้ว
ที่ดวงตกอยู่แล้ว
มันโดนตัวเองกระทืบซ้ำเข้าไปอีก
ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากตัวเองเข้าไปเลย
ขอให้น้องระลึกอย่างนี้ก็แล้วกัน
สิ่งที่เราจะทำได้ดีที่สุดตอนดวงตก
ก็คือมีสติระลึกถึงกุศลธรรมไว้นะครับ
ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน
วันหนึ่งมันจะผ่านไป
ไม่มีวิบากไหน
ที่จะแสดงความตั้งมั่นอยู่เป็นอมตะ
ทุกวิบากกรรม
กำลังแสดงความเป็นอนิจจังเสมอ
แต่ว่าบางอนิจจังมันอาจกินช่วงเวลายาวนิดหนึ่ง
มันเห็นยากนิดหนึ่ง
แต่ในที่สุดพอถึงวันนะครับ
มันจะต้องผ่านไป
บทความบางส่วนจาก
ดังตฤณวิสัชชนา
http://www.dlitemag.com/index.php?option=com_content&view=article&id=1261&Itemid=1
ดวงตกกรรมรุมเร้า ธรรมะช่วยได้จริงมั้ย?
(ตอบ)
ก็อย่างที่น้องว่านั่นแหละนะ
ช่วงที่เราโชคร้ายนี่มันดูเหมือนไม่มีอะไรดีเลย
ขอให้ระลึกว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้งของดวงดาว
แล้วก็ไม่ใช่จะมีวิญญาณดวงไหน อสูรร้าย
หรือเปรตดิบที่ไหนนะ มาทำอันตรายเราได้
ถ้าปราศจากวิบากกรรมของเราเอง
คือถ้าเมื่อไหร่ที่บาปหรืออกุศลเก่าที่เราเคยทำไว้
มันงอกเงย มันจะได้เวลาเผล็ดผล
ไม่ว่าใครที่ไหนนะ
ต่อให้เทวดาก็ต้องตกสวรรค์
เราเป็นใครถึงจะสามารถจะพ้นจากวิบากกรรมของตัวเองได้
ถ้าเรามองอย่างนี้ว่าเรากำลังเข้าตาจน
วิบากกำลังบีบให้เรารู้สึกแย่ที่สุด ไม่มีอะไรดีเลย
ก็ขอให้มีสตินะ
ระลึกได้ขึ้นมาสักนิดหนึ่งก็แล้วกันว่า
ช่วงที่ดวงตกสุดขีด
สติไม่ตกตามไปด้วย
เราจะยังไม่ตกถึงที่สุด
อย่างน้อยที่สุด
เราจะมีดีบางอย่างไว้ช้อนไว้รองไว้รับ
เหมือนกับล้มบนฟูก
อาการของคนล้มบนฟูกจริงๆนะ
ของแท้ของจริงเลย
เราจะเจอทุกข์หนักหรือว่าสถานการณ์ยั่วยุ
ให้จิตใจวุ่นวายกระสับกระส่ายแค่ไหนก็ตาม
ถ้าเรายังเป็นลูกศิษย์พระตถาคตอยู่
ยังเป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าอยู่ ยังเป็นสาวกของท่านอยู่
สิ่งที่เราต้องทำก็คือมีสติเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวสุดท้าย
เป็นที่พึ่งเป็นสรณะสุดท้าย
เมื่อมีสตินะ อย่างน้อยที่สุด เราจะระลึกได้ว่า
ที่พึ่งอื่นไม่มี นอกเหนือจากพระพุทธเจ้า
ที่พึ่งอื่นไม่มี นอกจากพระธรรมที่พระพุทธเจ้าสั่งสอนไว้ เปิดเผยไว้
ที่พึ่งอื่นไม่มี นอกจากอริยสงฆ์อริยเจ้าที่ท่านมีความเมตตากรุณา
แล้วก็มีสง่าราศีพอที่จะทำให้จิตใจของเราเกิดความเบิกบานได้
เพียงด้วยการดู
เพียงด้วยการกราบไหว้รูปเคารพของท่าน
สติที่สามารถระลึกถึงสิ่งดีๆ
สติที่สามารถระลึกถึงกุศลธรรมได้
จะเป็นเหมือนกับฟูกรองรับการล้มตัวของเราได้ทุกเมื่อ
แต่ถ้าเมื่อไหร่เรารู้สึกแย่
แล้วมีโทสะมาเป็นเจ้าเรือน
มีโทสะมาครอบงำจิตใจ
ก่อให้เกิดโมหะ คิดว่า เออ ตายๆ ไปซะดีกว่า
แล้วมันตายไปในขณะที่จิตกำลังย่ำแย่อยู่นี่นะ
มันเท่ากับซ้ำเติมตัวเองที่แย่อยู่แล้ว
ที่ดวงตกอยู่แล้ว
มันโดนตัวเองกระทืบซ้ำเข้าไปอีก
ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากตัวเองเข้าไปเลย
ขอให้น้องระลึกอย่างนี้ก็แล้วกัน
สิ่งที่เราจะทำได้ดีที่สุดตอนดวงตก
ก็คือมีสติระลึกถึงกุศลธรรมไว้นะครับ
ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน
วันหนึ่งมันจะผ่านไป
ไม่มีวิบากไหน
ที่จะแสดงความตั้งมั่นอยู่เป็นอมตะ
ทุกวิบากกรรม
กำลังแสดงความเป็นอนิจจังเสมอ
แต่ว่าบางอนิจจังมันอาจกินช่วงเวลายาวนิดหนึ่ง
มันเห็นยากนิดหนึ่ง
แต่ในที่สุดพอถึงวันนะครับ
มันจะต้องผ่านไป
บทความบางส่วนจาก
ดังตฤณวิสัชชนา
http://www.dlitemag.com/index.php?option=com_content&view=article&id=1261&Itemid=1