ท่านผู้ที่พอจะมีปัญญาบ้าง..
ท่านควรพิจารณา..นะ
(ส่วนผู้อื่น..ผมไม่ได้หวัง..นะ)
ว่า..ทำไม?
พระศาสดาในศาสนานี้..จึงให้เอา
" อัตตา..เป็นเกาะ อัตตา..เป็นที่พึ่ง "
ถ้า..อัตตามันไม่มี..แล้วละก็
...พระดำรัสของพระศาสดา..ก็จะเป็นหมัน..
...ปฏิบัติไม่ได้...เพราะอัตตามันไม่มี..
อย่างที่ผมบอก..
" อัตตามันมี...แต่เป็นอัตตา..ที่ไม่เที่ยง
...และ...อัตตานั้น..มันไม่ใช่เรา "
แล้ว..อัตตา..ที่พระศาสดาให้เอามาเป็นพึ่ง..นั้น
คือ..อะไร..และ..พึ่งอย่างไร..รู้ไหม!!
(...คือ..ขันธ์๕..นี่หละ)
ให้ดูพระดำรัส..นี้👉
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จกฺกวตฺติสุตฺตํ
[๓๓] เอวมฺเม สุตํ ฯ
(...ข้าพเจ้า(อานนท์)ได้ฟังมาว่า..)
เอกํ สมยํ ภควา มคเธสุ วิหรติ มาตุลายํ ฯ
(..สมัยหนึ่ง..พระผู้มีพระภาคทรงประทับอยู่ที่..มาตุลายัง..ในมคธ..)
ตตฺร โข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ภิกฺขโวติ ฯ
(..ณ.ที่นี้นแล..พระผู้มีพระภาคทรงตักเตือนเหล่าภิกษุให้ตั้งใจ..)
ภทนฺเตติ เต ภิกฺขู ภควโต ปจฺจสฺโสสํ ฯ
(..เมื่อเหล่าภิกษุ..ตอบรับพระผู้มีพระภาคแล้ว..)
ภควา เอตทโวจ
(..พระผู้มีพระภาคจึงทรงกล่าวว่า..)
อตฺตทีปา ภิกฺขเว วิหรถ อตฺตสรณา อนญฺญสรณา
(..ภิกษุ ท! (จงเอา)..อัตตาเป็นเกาะอยู่..อัตตาเป็นที่พึ่ง..ไม่พึ่งสิ่งอื่น..)
ธมฺมทีปา ธมฺมสรณา อนญฺญสรณา ฯ
(..(จงเอา)..ธรรมทั้งหลายเป็นเกาะ..ธรรมทั้งหลายเป็นที่พึ่ง..ไม่พึ่งสิ่งอื่น..)
กถญฺจ ปน ภิกฺขเว ภิกฺขุ
(..ภิกษุ ท! ก็อย่างไรเล่า..การที่ภิกษุผู้หนึ่ง..)
อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนญฺญสรโณ
(..(จะเอา)..อัตตาเป็นเกาะอยู่..อัตตาเป็นที่พึ่ง..ไม่พึ่งสิ่งอื่น..)
ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนญฺญสรโณ ฯ
(..(จะเอา)..ธรรมทั้งหลายเกาะอยู่..ธรรมทั้งหลายเป็นที่พึ่ง..ไม่พึ่งสิ่งอื่น..)
(อันนี้..อัตตา)
👇
อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขุ กาเย กายานุปสฺสี วิหรติ
(...ภิกษุ ท! ในกรณีนี้..คือ..ภิกษุผู้นั้น..ที่กาย, ตามเห็นอยู่..ซึ่งกาย..)
อาตาปี สมฺปชาโน สติมา วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ ฯ
(..มีความเพียร - รู้สึกตัว - มีสติ..ขจัดออกซึ่งความอยากได้อยากมีอยากเป็น..ในโลก..)
เวทนาสุ เวทนานุปสฺสี ฯ👈👈อัตตา
(..ที่เวทนา..ตามเห็นซึ่งเวทนา..)
จิตฺเต จิตฺตานุปสฺสี ฯ 👈👈อัตตา (..ที่จิต..ตามเห็นซึ่งจิต..)
(อันนี้..ธรรมทั้งหลาย)
👇
ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
(...ที่ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่..ซึ่งธรรมทั้งหลาย..)
อาตาปี สมฺปชาโน สติมา
วิเนยฺย โลเก อภิชฺฌาโทมนสฺสํ ฯ
(..มีความเพียร - รู้สึกตัว - มีสติ..ขจัดออกซึ่งความอยากได้อยากมีอยากเป็น..ในโลก..)
เอวํ โข ภิกฺขเว ภิกฺขุ
(..ภิกษุ ท! อย่างนี้แล..คือ..การที่ภิกษุผู้หนึ่ง..)
อตฺตทีโป วิหรติ อตฺตสรโณ อนญฺญสรโณ
(..(เอา)....อัตตาเป็นเกาะอยู่..อัตตาเป็นที่พึ่ง..ไม่พึ่งสิ่งอื่น..)
ธมฺมทีโป ธมฺมสรโณ อนญฺญสรโณ ฯ
(..(เอา)..ธรรมทั้งหลายเป็นเกาะ..ธรรมทั้งหลายเป็นที่พึ่ง..ไม่พึ่งสิ่งอื่น..)
โคจเร ภิกฺขเว จรถ สเก เปตฺติเก
วิสเย ฯ
(...ภิกษุ ท! (จง)เที่ยวไป..ในวิสัยการไปของบิดาตน(พระศาสดา)..)
โคจเร ภิกฺขเว จรตํ สเก เปตฺติเก วิสเย
((...ภิกษุ ท! เมื่อเที่ยวไป..ในวิสัยการไปของบิดาตน(พระศาสดา)..)
น ลจฺฉติ มาโร โอตารํ
น ลจฺฉติ มาโร อารมฺมณํ ฯ
(...มารจะไมได้..โอกาศ..
...มารจะไม่ได้...ที่ตั้ง..)
กุสลานํ ภิกฺขเว ธมฺมานํ สมาทานเหตุ เอวมิทํ ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ ฯ
(...ภิกษุ ท! ธรรมอันเป็นกุศล..อันสมาทาน(ทำให้เกิด)...อย่างนี้..ทำให้บุญเจริญเติบโต...)
สรุป..พระดำรัสให้ฟัง..ดังนี้
1. อัตตา..ก็คือ กาย - เวทนา - จิต
ซึ่งก็คือ..ขันธ์๕..ที่เราไปยึดถือในมันนั่นหละ..
2. การพึ่งก็ให้ไปตาม..รู้เห็นถึงความไม่เที่ยงของ..มัน
ตามรู้เห็น..ความไม่เที่ยงของ..อัตตา..อันนี้
การตามดูตามรู้ตามเห็น..มีชื่อว่า " สติปัฏฐาน "..
จึงเป็น..
- กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
- เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
- จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน
3. เพื่อ...ละอัตตา..ให้ได้
เพื่อ..คลายกำหนัดจาก..อัตตาที่ไม่เที่ยง..ที่มีจริงโดยแท้
อันนี้..ให้ได้
.
.
.
.
สัตว์:..ตอนที่ 161 : พระพุทธเจ้าให้เอา..อัตตา..เป็นที่พึ่ง ถ้าอัตตา.ไม่มีแล้ว..จะปฏิบัติตามพนัดำรัจขอพระองค์ได้อย่างไร?
ท่านควรพิจารณา..นะ
(ส่วนผู้อื่น..ผมไม่ได้หวัง..นะ)
ว่า..ทำไม?
พระศาสดาในศาสนานี้..จึงให้เอา
" อัตตา..เป็นเกาะ อัตตา..เป็นที่พึ่ง "
ถ้า..อัตตามันไม่มี..แล้วละก็
...พระดำรัสของพระศาสดา..ก็จะเป็นหมัน..
...ปฏิบัติไม่ได้...เพราะอัตตามันไม่มี..
อย่างที่ผมบอก..
" อัตตามันมี...แต่เป็นอัตตา..ที่ไม่เที่ยง
...และ...อัตตานั้น..มันไม่ใช่เรา "
แล้ว..อัตตา..ที่พระศาสดาให้เอามาเป็นพึ่ง..นั้น
คือ..อะไร..และ..พึ่งอย่างไร..รู้ไหม!!
(...คือ..ขันธ์๕..นี่หละ)
ให้ดูพระดำรัส..นี้👉[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุป..พระดำรัสให้ฟัง..ดังนี้
1. อัตตา..ก็คือ กาย - เวทนา - จิต
ซึ่งก็คือ..ขันธ์๕..ที่เราไปยึดถือในมันนั่นหละ..
2. การพึ่งก็ให้ไปตาม..รู้เห็นถึงความไม่เที่ยงของ..มัน
ตามรู้เห็น..ความไม่เที่ยงของ..อัตตา..อันนี้
การตามดูตามรู้ตามเห็น..มีชื่อว่า " สติปัฏฐาน "..
จึงเป็น..
- กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
- เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
- จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน
3. เพื่อ...ละอัตตา..ให้ได้
เพื่อ..คลายกำหนัดจาก..อัตตาที่ไม่เที่ยง..ที่มีจริงโดยแท้
อันนี้..ให้ได้
.
.
.
.