อันนี้เป็นข่าวของประเทศจีน แต่ในฐานะผู้บริโภคเราก็ควรตระหนักไว้นะครับ…
ขอบคุณที่มา:
https://mgronline.com/china/detail/9680000025097?tbref=hp
สถานีโทรทัศน์ CCTV เปิดโปงว่าอุตสาหกรรมกุ้งแช่แข็งจำนวนมากมีการใช้สารอุ้มน้ำ หรือฟอสเฟต (Phosphate) เกินมาตรฐาน เพื่อเพิ่มน้ำหนักและทำให้เนื้อกุ้งดูเด้งกรอบกว่าปกติ โดยพบว่าบางโรงงานใช้กุ้ง 100 กิโลกรัม แต่เมื่อนำไปแช่สารและผ่านกระบวนการต่างๆ น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 124 กิโลกรัม
ฟอสเฟตเป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อช่วยรักษาความสดของอาหารทะเลแช่แข็ง ทำให้เนื้อกุ้งดูเต่งตึง คงความชุ่มชื้น และยืดอายุการเก็บรักษา อย่างไรก็ตาม กฎหมายจีนกำหนดให้สารฟอสเฟตในกุ้งแช่แข็งต้องไม่เกิน 5 กรัมต่อกิโลกรัม แต่ผลการตรวจสอบพบว่า มีบางโรงงานใช้เกินมาตรฐานถึง 145% ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง
นอกจากการแช่สารฟอสเฟตแล้ว อีกหนึ่งเทคนิคที่ใช้โกงน้ำหนักกุ้งแช่แข็งคือ “การเคลือบน้ำแข็ง” หรือที่เรียกว่า "glazing" ซึ่งเป็นการพ่นน้ำหรือแช่กุ้งในน้ำเย็นจัดให้เกิดชั้นน้ำแข็งเคลือบตัวกุ้งก่อนนำไปแช่แข็ง วิธีนี้ช่วยให้กุ้งดูใหญ่ขึ้นและเพิ่มน้ำหนักโดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนวัตถุดิบ ในบางกรณี กุ้งแช่แข็ง 1 กิโลกรัม เมื่อนำไปละลายน้ำแล้วเหลือเนื้อกุ้งจริงๆ เพียง 3 ขีดเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าผู้บริโภคกำลังจ่ายเงินซื้อ “น้ำแข็ง” มากกว่ากุ้งโดยไม่รู้ตัว
การบริโภคฟอสเฟตเกินมาตรฐานเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับไตและกระดูก ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ การทำให้ร่างกายเสียสมดุลของแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะกระดูกพรุนในระยะยาว นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อระบบย่อยอาหารและการทำงานของไต โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง อีกทั้งยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดแข็งตัวได้
แม้กุ้งแช่แข็งเหล่านี้จะถูกโฆษณาว่า “สด เด้ง อร่อย” แต่คนงานในโรงงานกลับเปิดเผยว่า “เราไม่กล้ากินเอง เพราะรู้ดีว่าใส่อะไรลงไปบ้าง” นอกจากนี้ พนักงานในโรงงานบางแห่งยังยอมรับว่า ปริมาณสารอุ้มน้ำที่ใส่ลงไปนั้นขึ้นอยู่กับราคาของกุ้ง หากเป็นกุ้งราคาถูก มักจะใช้สารอุ้มน้ำมากขึ้นเพื่อให้ดูใหญ่ขึ้นและขายได้ราคาดี ขณะที่กุ้งราคาแพงอาจใช้สารอุ้มน้ำน้อยลงเพื่อรักษาคุณภาพ อย่างไรก็ตาม แม้แต่กุ้งที่มีราคาสูงก็ยังมีโอกาสปนเปื้อนสารเหล่านี้ได้ เพราะในฉลากสินค้ามักไม่มีการระบุว่ามีการใช้ฟอสเฟต
โรงงานหลายแห่งไม่ได้ระบุในฉลากสินค้าว่ามีการใช้ฟอสเฟต ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดคิดว่ากำลังกินกุ้งสดคุณภาพดี ทั้งที่ความจริงอาจเป็นเพียง "กุ้งแช่ฟอสเฟต + น้ำแข็ง 70%" ซึ่งการขาดข้อมูลที่ถูกต้องบนฉลากสินค้านี้ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับฟอสเฟตเกินมาตรฐาน ผู้บริโภคควรระมัดระวังและเลือกซื้อกุ้งแช่แข็งอย่างรอบคอบ วิธีหนึ่งคือ ทดลองละลายน้ำแข็งก่อนปรุงอาหาร หากพบว่าน้ำออกมามากผิดปกติ แสดงว่ากุ้งอาจถูกเพิ่มน้ำหนักด้วยน้ำแข็งและสารอุ้มน้ำมากเกินไป และสุดท้าย ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจว่ากุ้งที่ซื้อมานั้นปลอดภัยต่อสุขภาพ
CCTV แฉวงการ ”กุ้งแช่แข็ง“ แช่สารเพิ่มน้ำหนัก พนง.บอกตัวเองยังไม่กล้ากิน
ขอบคุณที่มา: https://mgronline.com/china/detail/9680000025097?tbref=hp
สถานีโทรทัศน์ CCTV เปิดโปงว่าอุตสาหกรรมกุ้งแช่แข็งจำนวนมากมีการใช้สารอุ้มน้ำ หรือฟอสเฟต (Phosphate) เกินมาตรฐาน เพื่อเพิ่มน้ำหนักและทำให้เนื้อกุ้งดูเด้งกรอบกว่าปกติ โดยพบว่าบางโรงงานใช้กุ้ง 100 กิโลกรัม แต่เมื่อนำไปแช่สารและผ่านกระบวนการต่างๆ น้ำหนักเพิ่มขึ้นเป็น 124 กิโลกรัม
ฟอสเฟตเป็นสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อช่วยรักษาความสดของอาหารทะเลแช่แข็ง ทำให้เนื้อกุ้งดูเต่งตึง คงความชุ่มชื้น และยืดอายุการเก็บรักษา อย่างไรก็ตาม กฎหมายจีนกำหนดให้สารฟอสเฟตในกุ้งแช่แข็งต้องไม่เกิน 5 กรัมต่อกิโลกรัม แต่ผลการตรวจสอบพบว่า มีบางโรงงานใช้เกินมาตรฐานถึง 145% ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคโดยตรง
นอกจากการแช่สารฟอสเฟตแล้ว อีกหนึ่งเทคนิคที่ใช้โกงน้ำหนักกุ้งแช่แข็งคือ “การเคลือบน้ำแข็ง” หรือที่เรียกว่า "glazing" ซึ่งเป็นการพ่นน้ำหรือแช่กุ้งในน้ำเย็นจัดให้เกิดชั้นน้ำแข็งเคลือบตัวกุ้งก่อนนำไปแช่แข็ง วิธีนี้ช่วยให้กุ้งดูใหญ่ขึ้นและเพิ่มน้ำหนักโดยไม่ต้องเพิ่มต้นทุนวัตถุดิบ ในบางกรณี กุ้งแช่แข็ง 1 กิโลกรัม เมื่อนำไปละลายน้ำแล้วเหลือเนื้อกุ้งจริงๆ เพียง 3 ขีดเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าผู้บริโภคกำลังจ่ายเงินซื้อ “น้ำแข็ง” มากกว่ากุ้งโดยไม่รู้ตัว
การบริโภคฟอสเฟตเกินมาตรฐานเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับไตและกระดูก ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ การทำให้ร่างกายเสียสมดุลของแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะกระดูกพรุนในระยะยาว นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อระบบย่อยอาหารและการทำงานของไต โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง อีกทั้งยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดแข็งตัวได้
แม้กุ้งแช่แข็งเหล่านี้จะถูกโฆษณาว่า “สด เด้ง อร่อย” แต่คนงานในโรงงานกลับเปิดเผยว่า “เราไม่กล้ากินเอง เพราะรู้ดีว่าใส่อะไรลงไปบ้าง” นอกจากนี้ พนักงานในโรงงานบางแห่งยังยอมรับว่า ปริมาณสารอุ้มน้ำที่ใส่ลงไปนั้นขึ้นอยู่กับราคาของกุ้ง หากเป็นกุ้งราคาถูก มักจะใช้สารอุ้มน้ำมากขึ้นเพื่อให้ดูใหญ่ขึ้นและขายได้ราคาดี ขณะที่กุ้งราคาแพงอาจใช้สารอุ้มน้ำน้อยลงเพื่อรักษาคุณภาพ อย่างไรก็ตาม แม้แต่กุ้งที่มีราคาสูงก็ยังมีโอกาสปนเปื้อนสารเหล่านี้ได้ เพราะในฉลากสินค้ามักไม่มีการระบุว่ามีการใช้ฟอสเฟต
โรงงานหลายแห่งไม่ได้ระบุในฉลากสินค้าว่ามีการใช้ฟอสเฟต ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดคิดว่ากำลังกินกุ้งสดคุณภาพดี ทั้งที่ความจริงอาจเป็นเพียง "กุ้งแช่ฟอสเฟต + น้ำแข็ง 70%" ซึ่งการขาดข้อมูลที่ถูกต้องบนฉลากสินค้านี้ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถตัดสินใจเลือกซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับฟอสเฟตเกินมาตรฐาน ผู้บริโภคควรระมัดระวังและเลือกซื้อกุ้งแช่แข็งอย่างรอบคอบ วิธีหนึ่งคือ ทดลองละลายน้ำแข็งก่อนปรุงอาหาร หากพบว่าน้ำออกมามากผิดปกติ แสดงว่ากุ้งอาจถูกเพิ่มน้ำหนักด้วยน้ำแข็งและสารอุ้มน้ำมากเกินไป และสุดท้าย ควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจว่ากุ้งที่ซื้อมานั้นปลอดภัยต่อสุขภาพ