"บรรพชิตไม่พึงเสพ คือ...
กามสุขัลลิกา และอัตตกิลมถา
กามสุขัลลิกา เป็นส่วนแห่งความรัก
อัตตกิลมถา เป็นส่วนแห่งความชัง
ผู้บำเพ็ญตบะธรรมทั้งหลาย โดยอยู่...
ซึ่งส่วนทั้งสองนี้ ชื่อว่า...ยังไม่เข้าทางกลาง
ความดีใจ ก็เป็นราคะ
ความเสียใจ ก็เป็นโทสะ
ความไม่รู้เท่าในราคะ โทสะ ทั้งสองนี้
เป็นโมหะ
พระองค์มาดำเนินทางกลาง ทำจิตอยู่...
ภายใต้ร่มโพธิพฤกษ์
ได้ญาณ ๒ ในสองยามเบื้องต้นในราตรี
ได้ญาณที่ ๓ กล่าวคืออาสวักขยญาณ
ในยามใกล้รุ่ง จึงได้ถูกทางกลางอันแท้จริง
พ้นจากสมมติโคตร สมมติชาติ สมมติวาส สมมติวงศ์ และสมมติประเพณี ถึงความเป็น อริยโคตร อริยชาติ อริยวาส อริยวงศ์ และอริยประเพณี
ส่วนเราผู้ปฏิบัติ...
เมื่อยังมีดีใจ เสียใจ ในการบำเพ็ญบุญกุศล อยู่...ก็ตกอยู่ในโลกธรรม
จึงเป็นผู้หวั่นไหว เพราะความดีใจ เสียใจ
นั่นแหละ ชื่อว่า...ความหวั่นไหว
เครื่องแก้ ก็มีมรรค ๘ แก้โลกธรรม ๘
ผู้มีใจพ้นจากส่วนทั้ง ๒ (ความรัก ความชัง) แล้ว ก็ไม่หวั่นไหว หมดธุลี
เกษมจากโยคะ ไม่มาก่อธาตุของโลกอีกแล."
หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถร
กามสุขัลลิการ์กับ แัตตกิลมถา ไม่ควรเสพ
กามสุขัลลิกา และอัตตกิลมถา
กามสุขัลลิกา เป็นส่วนแห่งความรัก
อัตตกิลมถา เป็นส่วนแห่งความชัง
ผู้บำเพ็ญตบะธรรมทั้งหลาย โดยอยู่...
ซึ่งส่วนทั้งสองนี้ ชื่อว่า...ยังไม่เข้าทางกลาง
ความดีใจ ก็เป็นราคะ
ความเสียใจ ก็เป็นโทสะ
ความไม่รู้เท่าในราคะ โทสะ ทั้งสองนี้
เป็นโมหะ
พระองค์มาดำเนินทางกลาง ทำจิตอยู่...
ภายใต้ร่มโพธิพฤกษ์
ได้ญาณ ๒ ในสองยามเบื้องต้นในราตรี
ได้ญาณที่ ๓ กล่าวคืออาสวักขยญาณ
ในยามใกล้รุ่ง จึงได้ถูกทางกลางอันแท้จริง
พ้นจากสมมติโคตร สมมติชาติ สมมติวาส สมมติวงศ์ และสมมติประเพณี ถึงความเป็น อริยโคตร อริยชาติ อริยวาส อริยวงศ์ และอริยประเพณี
ส่วนเราผู้ปฏิบัติ...
เมื่อยังมีดีใจ เสียใจ ในการบำเพ็ญบุญกุศล อยู่...ก็ตกอยู่ในโลกธรรม
จึงเป็นผู้หวั่นไหว เพราะความดีใจ เสียใจ
นั่นแหละ ชื่อว่า...ความหวั่นไหว
เครื่องแก้ ก็มีมรรค ๘ แก้โลกธรรม ๘
ผู้มีใจพ้นจากส่วนทั้ง ๒ (ความรัก ความชัง) แล้ว ก็ไม่หวั่นไหว หมดธุลี
เกษมจากโยคะ ไม่มาก่อธาตุของโลกอีกแล."
หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถร