หุ้นตก ดันคนไทยแห่ฝากเงินนอก 5 ปีบัญชี FCD โตพุ่ง 1,469%

คนไทยแห่ฝากเงินตราต่างประเทศ เดือนม.ค. บัญชี FCD เปิดใหม่กว่า 2.8 ล้านบัญชี ยอดคงค้างแตะ 26,059 ล้านดอลลาร์ พบ 5ปี เงินฝากเงินตราต่างประเทศโตพุ่ง 1,469%
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานจำนวนบัญชีและยอดคงค้างบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) ของคนไทยในเดือนม.ค.68 มีจำนวนบัญชีรวม 2,865,977 บัญชี เพิ่มขึ้น 341.6% จาก 648,942 บัญชีเทียบช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา และยอดคงค้างรวม 26,059.21 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22.8% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วอยู่ที่ 21,219.73 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
เมื่อแยกตามสกุลเงินพบว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐมียอดคงค้าง 22,563 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.2% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วอยู่ที่ 18,170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามมาด้วยสกุลเงินยูโร 1,255 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 24.2% จาก 1,011ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เงินเยน 1,219 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 4.99% จาก 1,283 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เงินหยวน 705 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 37.4% จาก 514 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์สเตอร์ลิง 134 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 85.3% จาก 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และอื่นๆ 183 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 7.9% จาก 169 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 
สำหรับจำนวนบัญชี 2.86 ล้านบัญชีและยอดคงค้างบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศของคนไทยรวม 26.059 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น แยกเป็น
บุคคลธรรมดา 2.78 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 373% จาก 5.88 แสนบัญชี และยอดคงค้าง 2,518 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 88.7% จาก 1,334 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นิติบุคคล 80,182 บัญชีเพิ่มขึ้น 32.8% จาก 60,344 บัญชี ยอดคงค้าง 23,430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.5% จาก 19,774 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สถาบันการเงิน 309 บัญชีเพิ่มขึ้น 11.9% จาก 276 บัญชี มียอดคงค้าง 111 ล้านดอลลาร์สหรัฐปรับลดลง 0.08%
ที่ผ่านมา ธปท.ได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์การทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากการออกมาตรการ ( เมื่อ 20 พ.ย.63) ได้แก่
เปิดให้ฝากเงินตราต่างประเทศ(FCD)ได้เสรี  
ปรับหลักเกณฑ์และกระบวนการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ  
ลงทะเบียนแสดงตัวตนเพื่อซื้อขายตราสารหนี้ (Bond Investor Registration)  
ถัดมาธปท.ได้ผ่อนคลายให้นิติบุคคลต่างประเทศสามารถทำธุรกรรมเงินบาทกับสถาบันการเงินในประเทศ (โครงการ Non-resident Qualified Company (NRQC) โดยนิติบุคคลต่างประเทศต้องมีภาระการรับหรือจ่ายเงินบาทจากการค้าและการลงทุนโดยตรงในประเทศไทย และไม่ประกอบธุรกิจด้านการเงินและทองคำ( เมื่อ 5ม.ค.64)
และต่อมา(เมื่อ 18 เม.ย.65) ธปท.ได้ผ่อนคลายการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศของคนไทยทั้งในมิติการโอนเงินออกนอกประเทศและการชำระระหว่างกันในประเทศ การให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ในขอบเขตที่กว้างขึ้นจากเดิมที่ต้องขออนุญาตเป็นรายกรณี
รวมถึงลดภาระการแสดงเอกสารในการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ โดยลูกค้าที่ผ่านกระบวนการ KnowYour Business ของธนาคารพาณิชย์ ไม่ต้องแสดงเอกสารประกอบการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ
มาตการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ (FX ecosystem) ที่กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และ ธปท. ผลักดันร่วมกันแบบองค์รวม เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนไทยอย่างยั่งยืน
ส่งผลให้ย้อนหลัง 5ปีพบว่า การใช้บัญชี FCD เพิ่มขึ้น ทั้งจำนวนบัญชีและยอดคงค้าง โดยจำนวนบัญชีเพิ่มขึ้น 1,469% จาก 1.82 แสนบีญชี(พ.ย.63) เป็น 2.86 ล้านบัญชี (ม.ค.68)  และยอดเงินคงค้างเพิ่มขึ้น 88.24% จาก 13,843 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น 26,059 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน โดยบัญชีบุคคลธรรมดาเพิ่มขึ้น 1,809% และ นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 118%
เมื่อแยกตามสกุลเงินย้อนหลัง 5ปีพบว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 88.3% ตามมาด้วยสกุลเงินยูโร เพิ่มขึ้น 90% เงินเยน เพิ่มขึ้น 46.2 % เงินหยวน เพิ่มขึ้น 397.8% ปอนด์สเตอร์ลิง เพิ่มขึ้น 34.7% และอื่นๆ เพิ่มขึ้น 39.2%
ส่วนยอดคงค้างเงินลงทุนในต่างประเทศ แยกเป็น
ผู้ลงทุนรายย่อยลงทุนผ่านตัวแทนเพิ่มขึ้น 55.0% จาก 1,959,898 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(พ.ย.63) เป็น 3,038,130 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ม.ค.68)
ผู้ลงทุนกองทุนรวมมียอดคงค้างเงินลงทุนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 27.7% เป็น 54,149,080 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก 42,409,894 ล้านดอลลาร์สหรัฐณเดือน(พ.ย.63)
ส่วนประเภทสินทรัพย์ที่ไปลงทุนหลากหลาย ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ บัญชีเงินฝาก หน่วยลงทุนและอื่นๆ  
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ยังคงเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอย่างต่อเนื่อง อาทิ ธนาคารกรุงไทยสนับสนุนลูกค้าวางแผนการเงิน และบริหารสกุลเงินต่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐ (USD) ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของโลก ด้วย บัญชีฝากประจำเงินตราต่างประเทศ (FCD) สกุลเงิน ดอลลาร์สหรัฐ (USD) รับอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 4.56% ต่อปี 
ตอบโจทย์การออมเงินระยะสั้น สร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงต่อเนื่อง เลือกฝากประจำ ได้ตั้งแต่ 1 เดือน 2 เดือน และ 3 เดือน โดยไม่มียอดฝากขั้นต่ำ เมื่อฝากครบกำหนด สามารถต่อยอดความมั่งคั่งด้วยการออมเงินผ่าน บัญชีออมทรัพย์สกุลเงินต่างประเทศ Global Savings รับอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 2.5% ต่อปี พร้อมบริการที่ครอบคลุมทุกมิติของการทำธุรกรรมต่างประเทศที่หลากหลาย ทั้งออม โอน ลงทุน และใช้จ่ายที่ต่างประเทศ 
ส่วนทีทีบี เสนอทางเลือกสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่เปิดบัญชี FCD e-Saving ใหม่ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐหรือ USD รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษสูงถึง 4.20% ต่อปี และหรือ สกุลเงินปอนด์ (GBP) รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษสูงถึง 2.60% ต่อปี เพียงเปิดบัญชีใหม่ผ่านแอป ttb touch ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค.68 รับดอกเบี้ยพิเศษถึงวันที่ 30 เม.ย.68 
พร้อมเสนอทางเลือกการออมเงินที่ให้ดอกเบี้ยสูงกับบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ประเภทฝากประจํา 3 เดือน และ 6 เดือน สกุลเงิน USD รับอัตราดอกเบี้ย 4.50% ต่อปี และบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ ประเภทฝากประจํา 6 เดือน สกุลเงิน GBP รับอัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี 
แหล่งข่าวระบุว่า ภาพการลงทุนในตลาดหุ้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง และดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศอยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้คนไทยแสวงหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในประเทศ ทั้งการลงทุนหุ้นต่างประเทศรวมถึงการฝากเงินในสกุลต่างประเทศต่างๆ 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่