ศิริกัญญา ลั่น ไม่ถอนชื่อ ทักษิณ ออกจากญัตติซักฟอก ยันทำตามกม.ทุกประการ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5088176
ศิริกัญญา ลั่น ไม่ถอนชื่อ ทักษิณ ออกจากญัตติซักฟอก ยันทำตามกม.ทุกประการ
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าหากพรรคฝ่ายค้าน ไม่ถอนชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 จะไม่บรรจุระเบียบวาระ ว่า ยืนยันตามเดิมว่าเป็นไปตามหลักการข้อกฎหมายอย่างชัดเจน ที่เราจะบรรจุชื่อของบุคคลภายนอกในญัตติได้ ซึ่งก็ต้องมีการพูดคุยกับประธานสภาฯว่าตกลงยืนยันข้อกฎหมายถูกข้อหรือเป็นอำนาจที่ประธานสภาฯสามารถทำได้จริงหรือไม่ และคงต้องหาทางออกร่วมกันในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ยอมให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เกิดขึ้นในสมัยประชุมนี้แน่นอน และต้องคุยให้จบภายในสัปดาห์นี้
เมื่อถามว่า หากประธานไม่ยอมบรรจุวาระ จะยอมแก้หรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า “จริงๆมีข่าวให้คำแนะนำเราว่าจะใส่ชื่อแทนชื่อของนายทักษิณไว้ว่าอย่างไร มีคนแนะนำมาเยอะ เช่น ชายคนนั้น พี่คนนั้น คนที่คุณก็รู้ว่าใคร ซึ่งเรายังยืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ แต่ต้องรอดูว่าจะคลี่คลายแบบไหน ”
"ศิริกัญญา" ฟาด "รัฐบาล" ทำประหลาดแจกเงินหมื่นเฟส 3 กลุ่มอายุ 16-20 ปี หวังซื้อเสียงล่วงหน้า
https://siamrath.co.th/n/607180
วันที่ 12 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมเดินหน้าแจกเงินดิจิทัลวอลเลต เฟสที่ 3 ให้กับกลุ่มอายุช่วง 16-20 ปี ที่มีการตั้งข้อสังเกตเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าว่า เป็นการเลือกกลุ่มอายุที่แปลกประหลาด เหตุใดต้องเป็นอายุ 16-20 ปี เพราะการใช้งานดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้มีความซับซ้อน เพราะหากประชาชนใช้ระบบพร้อมเพย์เป็น เพียงแค่สแกนคิวอาร์โค้ดเป็น ก็สามารถใช้ได้ จึงไม่มีเหตุผลจะต้องใช้ผู้ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีช่วงอายุ 16-20 ปี พร้อมยังเห็นว่า งบประมาณรัฐบาล อาจจะไม่เพียงพอที่จะใช้ภายในปีงบประมาณ 2568 และอาจจะต้องขยายถึงงบประมาณปี 2569 จึงมีการแบ่งเป็นเฟส ๆ และในเฟสแรก ตนเองก็ยังสงสัยว่า เหตุใดจึงลดประชาชนเหลือ 2,000,000 คน หรือใช้งบประมาณ 20,000 ล้านบาท
น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า การแจกเงินหมื่นใน 2 เฟสแรกที่ผ่านมา มีการแจกเงินสดมากกว่า 20,000 ล้านบาทในแต่ละเฟส แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ GDP ของประเทศตกเป้า การบริโภคของภาคเอกชนยังไม่กระเตื้องแต่อย่างใด ตนเองจึงไม่แปลกใจที่รัฐบาลเลิกพูดถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว และระบุเพียงการเตรียมคนเข้าสู่ยุคดิจิทัล ให้คุ้นเคยกับ Digital Economy รวมถึงเอกสารที่เข้าสู่รายงานการประชุม ก็ไม่มีระบุถึงผลการกระตุ้นเศรษฐกิจของโครงการ
“ จึงมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการซื้อเสียง New Voter ล่วงหน้า และหากเป็นจริง ก็ถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ในการนำภาษีของประชาชนมากระทำเช่นนี้ และเชื่อว่า ก็จะไม่สามารถซื้อเสียงผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่ล่วงหน้าได้ด้วยเงิน 10,000 บาท เพราะมีวิจารญาณมากพอ และไม่คิดว่า รัฐบาลจะดำเนินการเช่นนั้นด้วย” น.ส.ศิริกัญญา กล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบการใช้เม็ดเงินที่ยังคงจะต้องใช้จำนวนมากอย่างไร น.ส.ศิริกัญญา กล่าวา ยังคงจะต้องตรวจสอบต่อไป แต่ซึ่งขณะนี้งบกลางที่ตั้งไว้สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้จ่ายให้กับกลุ่มผู้สูงอายุรวมแล้วประมาณ 30,000 กว่าล้านบาท และครั้งนี้อีกกว่า 20,000 ล้านบาท ทำให้เหลืองบประมาณสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกราว 130,000 ล้านบาท ทำให้กระสุนสำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจลดลงเรื่อย ๆ และเหลือประชาชนที่ได้รับได้เพียง 13 ล้านคน จึงยังไม่ทราบว่า รัฐบาลจะแจกทั้งหมด หรือจะเปลี่ยนไปทำโครงการอื่นอีกหรือไม่
และรัฐบาลก็ระบุเพียงดูตามความเหมาะสม และหากจะพิจารณาตามความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ การแจกเงิน 2 ครั้งแรก ก็ไม่ได้เกิดผลใด ๆ และหวังว่า อย่าให้มีครั้งที่ 3 แต่ครั้งที่ 4 ไม่ได้แล้ว จะต้องรอดูรัฐบาลอีกครั้งว่า ความเหมาะสมที่รัฐบาลหมายถึงนั้น เป็นความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ หรือความเหมาะสมทางการเมือง ที่ในความนิยมตกต่ำก็งัดโครงการดิจิทัลวอลเล็ตขึ้นมาปลอบประโลมประชาชน หรือพยายามกระตุ้นความนิยมกลับคืนมา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากังวล และยังคงจะต้องติดตามการใช้เงินจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
น.ส.ศิริกัญญา ยังกล่าวถึงกรณีที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล ออกมาระบุถึงน.ส.ศิริกัญญา ออกมาค้านดิจิทัลวอลเล็ตทุกเรื่อง และขออย่ากังวลเพราะรัฐบาลมีเงินพร้อมอยู่แล้ว และไม่ได้มีการกู้เงินใครว่า รัฐบาลกู้แน่นอน และกู้เต็มเม็ดทั้งหมด เท่าที่จะนำมาใช้ด้วย เพราะทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน ก็ได้พิจารณางบประมาณปี 2568 มาด้วยกัน และรัฐบาลต้องตั้งงบประมาณขาดดุลสูงถึงกว่าแสนล้าน ก็เพื่อนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จึงขออย่าบอกว่า ไม่ได้กู้ใครมา พร้อมย้ำว่า “รัฐบาลกู้มาเต็ม ๆ” และในฐานะที่เป็นภาษีของประชาชน ตนเองก็ต้องปกป้องอย่างสุดใจ
แสวง โดนแล้ว!! ส.ว.สำรอง ร้องเอาผิด ปล่อยปละละเลย เกิดฮั้วเลือกส.ว. จี้หยุดปฏิบัติหน้าที่
https://www.matichon.co.th/politics/news_5088245
แสวง โดนแล้ว!! ส.ว.สำรอง ร้องเอาผิด ปล่อยปละละเลย เกิดฮั้วเลือกส.ว. จี้หยุดปฏิบัติหน้าที่
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คณะ สว. ลำดับสำรอง เข้ายื่นต่อประธาน กกต. เพื่อให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ในฐานะผู้อำนวยการเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2567
โดยพล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว กล่าวว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่ามีผู้ตรวจการเลือกตั้งได้ยื่นหนังสือต่อประธานกกต.เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567 ว่าได้รายงานข้อมูลเบาะแสต่อหน้านายแสวง ว่า จะมีผู้สมัครสว. ในรอบระดับประเทศที่เป็นกลุ่มจัดตั้งนำสมุด สว.3 ที่มีการจดหมายเลขผู้สมัครลงคะแนนนำเข้าไปในคูหาเลือกลงคะแนนเพื่อเลือกตามหมายเลขที่จัดตั้งกันไว้โดยจะมีเป็นจำนวนมาก โดยได้แจ้งแก่นายแสวง ในฐานะผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศ ให้ทำการป้องกันหรือยับยั้งมิให้มีการนำสมุด สว.3 ตามที่กล่าวถึงเข้าไปในรอบการเลือกไขว้ เพื่อจะทำให้การเลือกครั้งนี้เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม แต่นายแสวง ก็บอกว่า “ถึงแม้จะรู้ก็ทำอะไรเขาไม่ได้เขาก็คิดวางแผนทำกันมาแบบนี้แหละ ปล่อยให้เขานำเอาสว. 3 เข้าไปในคูหาเลือกรอบไขว้ได้”
พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า พฤติการณ์ดังกล่าวทราบว่าทางกกต.ได้มีมติให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว แต่สำนักงานกกต. โดยนายแสวง ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ล้วนแต่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของนายแสวง เป็นกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว และผู้ตรวจการเลือกตั้งที่เป็นผู้รายงานเหตุเห็นว่าไม่สมควรผู้ใต้บังคับบัญชา ตรวจสอบผู้บังคับบัญชาจึงได้ขอเตรียมตัวกรรมการโดยเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนเป็นบุคคลภายนอก ไม่ทราบว่าจนถึงปัจจุบันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการตามที่ร้องขอใดๆ
พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า เนื่องจากเรื่องนี้ถือเป็นการกระทำที่ละเลยหลีกเลี่ยงต่อหน้าที่รับผิดชอบของนายแสวง อย่างร้ายแรงที่ทราบเหตุจะมีการทุจริตนำโพยจัดตั้งเข้าไปใช้ในการเลือกสว.แต่ไม่ได้ใช้ความพยายามในการป้องกันแก้ไข พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่มัวหมองอย่างยิ่ง จึงขอให้ประธานกกต.ได้ให้คำตอบใน 3 ประเด็นดังนี้ 1. การตรวจสอบเรื่องที่มีผู้ตรวจการเลือกตั้งรายงานพฤติการณ์ของนายแสวง เจตนาหลีกเลี่ยงการปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบที่ไม่พยายามรักษาไว้ซึ่งความสุจริต และเที่ยงธรรมในการเลือกสว. ที่ผ่านมาโดยขอทราบว่าขณะนี้มีผลการดำเนินงานอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว2.การประเมินผลการปฏิบัติงานของนายแสวง ได้รับการพิจารณาเพื่อให้ปฏิบัติงานต่อไปในรอบปีนี้ผลเป็นเช่นไรมีคะแนนปรากฏในลักษณะใด
และ3.เพื่อให้การสืบสวนไต่สวนคำร้องเรียนและคำร้องคัดค้านการเลือกสว.ที่อ้างว่ามีการใช้โพยฮั้ว จนทำให้ไม่เกิดความสุจริตและเที่ยงธรรม สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นและจะสร้างความเชื่อถือเชื่อมั่น ที่จะรักษาไว้ซึ่งความเที่ยงธรรม ขอให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่ของนายแสวง เป็นการชั่วคราวจนกว่าการสืบสวนไต่สวนในเรื่องร้องเรียนการร้องคัดค้านต่างๆ เกี่ยวกับการเลือกสว. จะแล้วเสร็จ โดยในระหว่างนี้ให้มีการมอบหมายบุคคลอื่นมาปฏิบัติงานแทน
JJNY : ศิริกัญญาลั่น ไม่ถอนชื่อทักษิณ│"ศิริกัญญา"ฟาด รบ.│แสวงโดน ส.ว.สำรองร้องเอาผิด│ผู้นำยูเครนพอใจผลการเจรจากับสหรัฐ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5088176
แสวง โดนแล้ว!! ส.ว.สำรอง ร้องเอาผิด ปล่อยปละละเลย เกิดฮั้วเลือกส.ว. จี้หยุดปฏิบัติหน้าที่
https://www.matichon.co.th/politics/news_5088245