วิทย์ สรุปว่า ผี วิญาญาณ อภินิหาร ของวิเศษ ต่างๆ และโลกหลังความตาย การกลับชาติมาเกิด นั้นไม่มีอยู่จริง สมองแค่สร้าง หรือปรุงแต่ง เรื่องขึ้นมาเพื่อใช้เยี่ยวยาจิตใจไม่ให้หมดหวังในชีวิต
หรือ ช่วยให้ใจ ไม่เศร้ามากในยามถึงวาระสุดท้าย หรือวาระที่ทรมาณ มากเกินไป  สมองเมื่อถูกทำลายทุกอย่างก็จบสิ้น

นอกจากนี้ ศาสนามีขึ้นมาเพื่อมใช้ควบคุมคนให้ทำตามกฏของโลกในวัทนะธรรม ต่างๆ จะได้ยอมจำนน กับโชคชะตา และ ใช้ ปลอบให้คนเราสามารถยอมรับในการเกิดมาอาจจะพิการยากจน แล้วต้องมามีชีวิตลำบากทรมาณกว่าคนอื่น ว่าทำไมต้องเป็นเรา ทีคนอื่นเกิดมาทำไมเขาสุขสบาย
ศาสนาจะช่วยให้ใจเรา ทนทุกเศร้าให้ได้มากขึ้น เพราะมีเรื่องโลกหลังความตายที่ดีกว่ารออยู่ แล้ว สมองคนเราชอบเรื่องอภินิหาร ชอบเรื่องเหนือธรรมชาติ
เพราะ คนเรากลัวตาย สมองจึงต้องสร้าง ภาพหลอน จิตหลอน เรื่องราวที่บิดเบื่อน หรือจินตนาการ  และ สิ่งที่ไม่มีอยู่จริงมาให้ยึดเหนี่ยว ป้องกันการเสียชีวิตจากทนพิศความทุกข์ทรมาณไม่ไหว   สร้าง เรื่องชาติภพขึ้นมาเพื่อใช้ให้ปลอบปะโลมว่าเกิดมาลำบาก ไม่ต้องกลัว ถึงวาระสุดท้าย คนจะไม่กลัวตาย ไม่กลัวลำบาก ทนกับชะตากรรมที่ตนต้องเจอ ได้ดีขึ้น เมื่อต้อง ตายแล้ว ก็จะไม่สูญเปล่า จะได้ไปเกิดในภพใหม่ที่ดี ไม่ต้องดับสูญทุกอย่างจะมีกรรม มีบุญส่งไป  และจะได้ไม่ต้องหนีทหารให้ถือเป็นสาระกรรม  เพราะไม่อย่างนั้นทุกคนอาจกลัวตายกันทั้งกองทัพเพราะไม่มีเครื่องยึดเหนี่ยว
ซึ่งอนาคต วิทยาศาสตร์จะตอบได้ทุกอย่าง วิทยาศาสตร์ ไม่ ยอมรับในโลกหลังความตาย คนส่วนมากก็จะไม่เชื่อในศาสนา และ จะเชื่อเรื่องตายแล้วสูญมากขึ้นจนอาจจะเป็นบันทัดฐานใหม่ให้กับสังคม ว่าเกิดมาตายแล้วก็จะต้องดับสูญเท่านั้น

จริงๆแล้วมันเป็นแบบนี้ เลยหรือคะ