ขอบคุณที่มา:
https://mgronline.com/business/detail/9680000023648?tbref=hp
ข้อมูลครบแล้ว!“สุริยะ”ชงสายสีแดง”ตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลายา”1.5 หมื่นล้าน ลุ้นครม.เคาะในเม.ย.
“สุริยะ”พร้อมชงครม.ขออนุมัติรถไฟ”สายสีแดง”ต่อขยาย”ตลิ่งชัน -ศิริราช-ศาลายา”มูลค่า 1.51 หมื่นล้านบาท หลัง”สศช.-งบ-คลัง”ให้ความเห็นครบถ้วนแล้ว มัดรวม 2 เส้นทาง ประมูลก่อสร้าง 1 สัญญา คาดมี.ค.นี้ส่งถึงเลขาฯครม.ลุ้นบรรจุวาระใน เม.ย.นี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามแผนงานกระทรวงคมนาคมที่เร่งรัดผลักดันการดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) สวนต่อขยาย ซึ่งขณะนี้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอทบทวนมติ ครม.และขออนุมัติรวมโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน -ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี (สถานีสะพานพระราม 6 สถานีบางกรวย -กฟผ. และสถานีบ้านฉิมพลี) และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน -ศิริราช เข้าด้วยกัน เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นสัญญาเดียว ระยะทางรวม 20.5 กม. วงเงินโครงการ15,176.21 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2568 ได้รับความเห็นจาก 3 หน่วยกลาง ได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ (สศช.)เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่า จะเสนอไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ภายในสัปดาห์หน้า และตามขั้นตอน ทางเลขาฯครม. จะมีการทำหนังสือเพื่อขอความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม.จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่นๆ จึงคาดว่าจะสามารถบรรจุวาระครม.พิจารณาได้ภายในเดือนมี.ค. 2568
เดิมรถไฟสายสีแดง ส่วนต่อขยายด้านตะวันตก มี 2 โครงการได้แก่ สายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทางรวม 14.8 กม. มี 6 สถานี ได้แก่ สถานีพระราม 6 สถานีบางกรวย-กฟผ. สถานีบ้านฉิมพลี สถานีกาญจนาภิเษก สถานีศาลาธรรมสพน์ และสถานีศาลายา วงเงินโครงการ 10,670.27 ล้านบาท และ สายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทางรวม 5.7 กม. มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีตลาดน้ำตลิ่งชัน สถานีจรัญสนิทวงศ์ และสถานีธนบุรี-ศิริราช วงเงิน 4,616 ล้านบาท ต่อมาได้มีการรวมทั้ง 2 ช่วงเป็นโครงการเดียว ระยะทางรวม 20.5 กม. วงเงินโครงการรวม 15,176.21 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาการก่อสร้างในพื้นที่ทับซ้อนกัน
ประกอบด้วย 1. ค่าจ้างที่ปรึกษาจัดประกวดราคา 14.78 ล้านบาท 2. ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน (CSC) วงเงิน 392.13 ล้านบาท (ลดลง 2.75 ล้านบาท) 3. ค่าจ้างที่ปรึกษาวิศวกรอิสระ (ICE) วงเงิน 39.55 ล้านบาท (ลดลง 7.35 ล้านบาท) 4. ค่างานโยธาและระบบราง วงเงิน 10,774.72 ล้านบาท (ลดลง 99.96 ล้านบาท) 5. ค่างานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล วงเงิน 3,955.03 ล้านบาท ส่วนตู้รถไฟฟ้าจะอยู่ในงาน PPP สายสีแดง ตามแผนงานจะเริ่มก่อสร้างเดือน พ.ค. 2568 ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน เปิดให้บริการเดือน พ.ค. 2571
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2568 ครม. มีมติอนุมัติทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2562 โดยเป็นการขอปรับกรอบวงเงินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม.ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หลังจาก ครม.อนุมัติแล้ว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2568 ก่อนจะไปเสร็จในปี 2570 และเปิดให้บริการในเดือน ม.ค. 2571
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะ 2 อีก 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,310.84 กม. วงเงินลงทุน รวมทั้งสิ้น 297,926 ล้านบาท ซึ่งผ่านขั้นตอนสอบถามความเห็นหน่วยงาน ทางสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ให้ความเห็นชอบมาแล้ว เหลือความเห็นจาก สภาพัฒน์ ซึ่งประเด็นที่มีความกังวลเรื่องการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จะกระทบต่อเพดานหนี้สาธารณะนั้น เรื่องนี้มีการชี้แจงเหตุผลในการดำเนินโครงการไปแล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร
ฝังธนเตรียมเฮ! จะมีรถไฟฟ้าเพิ่มอีกแล้ว
ขอบคุณที่มา: https://mgronline.com/business/detail/9680000023648?tbref=hp
ข้อมูลครบแล้ว!“สุริยะ”ชงสายสีแดง”ตลิ่งชัน-ศิริราช-ศาลายา”1.5 หมื่นล้าน ลุ้นครม.เคาะในเม.ย.
“สุริยะ”พร้อมชงครม.ขออนุมัติรถไฟ”สายสีแดง”ต่อขยาย”ตลิ่งชัน -ศิริราช-ศาลายา”มูลค่า 1.51 หมื่นล้านบาท หลัง”สศช.-งบ-คลัง”ให้ความเห็นครบถ้วนแล้ว มัดรวม 2 เส้นทาง ประมูลก่อสร้าง 1 สัญญา คาดมี.ค.นี้ส่งถึงเลขาฯครม.ลุ้นบรรจุวาระใน เม.ย.นี้
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามแผนงานกระทรวงคมนาคมที่เร่งรัดผลักดันการดำเนินโครงการระบบรถไฟชานเมือง(สายสีแดง) สวนต่อขยาย ซึ่งขณะนี้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขอทบทวนมติ ครม.และขออนุมัติรวมโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน -ศาลายา และสถานีเพิ่มเติม 3 สถานี (สถานีสะพานพระราม 6 สถานีบางกรวย -กฟผ. และสถานีบ้านฉิมพลี) และโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน -ศิริราช เข้าด้วยกัน เพื่อดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นสัญญาเดียว ระยะทางรวม 20.5 กม. วงเงินโครงการ15,176.21 ล้านบาท
โดยเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2568 ได้รับความเห็นจาก 3 หน่วยกลาง ได้แก่ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ (สศช.)เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่า จะเสนอไปที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ภายในสัปดาห์หน้า และตามขั้นตอน ทางเลขาฯครม. จะมีการทำหนังสือเพื่อขอความเห็นประกอบการพิจารณาของ ครม.จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสภาพัฒน์ สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่นๆ จึงคาดว่าจะสามารถบรรจุวาระครม.พิจารณาได้ภายในเดือนมี.ค. 2568
เดิมรถไฟสายสีแดง ส่วนต่อขยายด้านตะวันตก มี 2 โครงการได้แก่ สายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทางรวม 14.8 กม. มี 6 สถานี ได้แก่ สถานีพระราม 6 สถานีบางกรวย-กฟผ. สถานีบ้านฉิมพลี สถานีกาญจนาภิเษก สถานีศาลาธรรมสพน์ และสถานีศาลายา วงเงินโครงการ 10,670.27 ล้านบาท และ สายสีแดง ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทางรวม 5.7 กม. มี 3 สถานี ได้แก่ สถานีตลาดน้ำตลิ่งชัน สถานีจรัญสนิทวงศ์ และสถานีธนบุรี-ศิริราช วงเงิน 4,616 ล้านบาท ต่อมาได้มีการรวมทั้ง 2 ช่วงเป็นโครงการเดียว ระยะทางรวม 20.5 กม. วงเงินโครงการรวม 15,176.21 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาการก่อสร้างในพื้นที่ทับซ้อนกัน
ประกอบด้วย 1. ค่าจ้างที่ปรึกษาจัดประกวดราคา 14.78 ล้านบาท 2. ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงาน (CSC) วงเงิน 392.13 ล้านบาท (ลดลง 2.75 ล้านบาท) 3. ค่าจ้างที่ปรึกษาวิศวกรอิสระ (ICE) วงเงิน 39.55 ล้านบาท (ลดลง 7.35 ล้านบาท) 4. ค่างานโยธาและระบบราง วงเงิน 10,774.72 ล้านบาท (ลดลง 99.96 ล้านบาท) 5. ค่างานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล วงเงิน 3,955.03 ล้านบาท ส่วนตู้รถไฟฟ้าจะอยู่ในงาน PPP สายสีแดง ตามแผนงานจะเริ่มก่อสร้างเดือน พ.ค. 2568 ระยะเวลาก่อสร้าง 36 เดือน เปิดให้บริการเดือน พ.ค. 2571
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2568 ครม. มีมติอนุมัติทบทวนมติ ครม.เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 2562 โดยเป็นการขอปรับกรอบวงเงินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม.ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หลังจาก ครม.อนุมัติแล้ว คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2568 ก่อนจะไปเสร็จในปี 2570 และเปิดให้บริการในเดือน ม.ค. 2571
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่ระยะ 2 อีก 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,310.84 กม. วงเงินลงทุน รวมทั้งสิ้น 297,926 ล้านบาท ซึ่งผ่านขั้นตอนสอบถามความเห็นหน่วยงาน ทางสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ให้ความเห็นชอบมาแล้ว เหลือความเห็นจาก สภาพัฒน์ ซึ่งประเด็นที่มีความกังวลเรื่องการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 จะกระทบต่อเพดานหนี้สาธารณะนั้น เรื่องนี้มีการชี้แจงเหตุผลในการดำเนินโครงการไปแล้ว ไม่น่ามีปัญหาอะไร