เทศกาลชุงฮุง 春分 (เริ่มฤดูกาลเชงเม้ง)
"ชุงฮุง" ปีนี้ตรงกับวันที่ 20 มีค. 68 มีครอบครัวไหนเริ่มเดินทางไปไหว้บรรพุบุรุษกันตั้งแต่วันชุงฮุงมั้ยคะ
"ชุงฮุง" 春分 เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตร จีนแบ่ง 1 ปี หรือ 12 เดือน ออกเป็น 24 ปักษ์ หรือ 24 เจียซี่ ( 節氣) ยึดตามองศาดวงอาทิตย์ เปลี่ยนไปปักษ์ละ 15° ถือเป็นวันที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรครั้งแรกของปี เรียกอีกอย่างว่า วันราตรีเสมอภาค คือเป็นช่วงที่กลางคืนกับกลางวันยาวเท่ากันที่เส้นศูนย์สูตร
บางความเชื่อถือว่าประตูภพภูมิเริ่มเปิด ไปจวบสิ้นเทศกาลเชงเม้ง แต่ถ้าถือตามฤดูกาล วันนี้เปรียบเสมือนวันเริ่มต้นที่ดีของชีวิต ความหนาวเหน็บเหือดหาย อากาศดี แสงแดดดี ชีวิต สรรพสิ่งเริ่มต้นใหม่ ดังนั้นสิ่งแรกที่ชาวจีนเริ่มในวันนี้ คือเรื่องมงคลกตัญญู โดยเตรียมไปทำความสะอาดสุสานบรรพชน เตรียมของไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษตั้งแต่วันนี้จนถึงวันเชงเม้ง (5 เมย.) แม่นันเคยเห็นบางครอบครัวไปหลังเชงเม้งก็มี ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยของครอบครัว ครอบครัวแม่นันปีนี้จะไปไหว้กันในวันอาทิตย์ที่ 30 มีค. นี้ค่ะ วันหยุดอาตั่วตี๋โซ้ยตี๋พอดี
เส่ามู่ (扫墓 Sǎomù ) หรือเซาหมอ/ผุ่งหมอ คือการทำความสะอาดซ่อมแซมสุสาน ชาวจีนเชื่อกันว่าฮวงซุ้ยจะทำการซ่อมปรับปรุงได้เฉพาะช่วงเชงเม้งนี้เท่านั้น แต่เดิมนั้นลูกหลานจะต้องไปทำการเก็บกวาด ปลูกหญ้าทดแทนที่โรยราไป พร้อมทั้งทาสีป้ายเสา และตามจุดต่างๆ ที่ซีดจางไป ปัจจุบันนี้นิยมจ้างคนดูแลสุสานให้ดำเนินการดูแลเป็นรายปีไป ซึ่งก็สะดวกดีค่ะ
ดั่งเช่นทุกปีก่อนวันชุงฮุงสักหนึ่งอาทิตย์ คนรับจ้างทำความสะอาดสุสานจะโทรมาหาอาโหง่วแจ้ "อาแจ้ครับ ปีนี้พวกอาแจ้จะมาไหว้เช็งเม้งกันวันที่เท่าไหร่ครับ พวกผมจะได้เตรียมทำความสะอาดสุสาน และกางเต๊นท์ผ้าใบให้ครับ" พวกเราจดจำใบหน้าของชายคนนี้ได้ดี ตั้งแต่ครั้งยังเป็นหนุ่มแน่น จนวันนี้ผมออกสีดอกเลา เริ่มแก่ชราลงไปมาก ไม่ต่างอะไรกับพวกเราเลย แม่นัน 61 อาตั่วแจ้ก็ปาเข้าไปจะ 80 แล้ว ใครจะไปก่อนใครก็ไม่รู้ อนิจจังสังขารา
การที่สุสาน มีหญ้าตายไปไม่ได้ปลูกทดแทน หรือ เนินดินหลังเต่าพร่อง, ขอบปูนแตกเสียหายแล้วไม่ซ่อมแซมนั้นถือเป็นการกระทบกับฮวงจุ้ย แม่นันเคยสอบถามผู้ใหญ่เกี่ยวกับต้นไม้ที่จะปลูก ท่านว่าจะปลูกเฉพาะหญ้าบนเนินดิน ไม่นิยมปลูกดอกไม้ ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับหลักการดูฮวงจุ้ยอีกค่ะ (สมัยแม่นันเด็กๆ ไปไหว้เช็งเม้งทุกปี จะต้องเห็นต้นดอกรักสีม่วงสวยมากๆ อยู่ปลายเนินหลุม แต่ตอนหลังโดนโค่นออก)
ดังนั้นในทุกปีที่เราไป เราก็จะเห็นบ้าน (สุสาน) ของบรรพบุรุษเราสวยงาม เนื่องจากได้รับการทำความสะอาดอย่างดีนั่นเอง
เจี๊ยะโหล่วเกี๊ย (ขออนุญาติเดินผ่านทาง) เป็นอีกความนอบน้อมของคนเป็นที่มีต่อคนตายค่ะ
ทุกครั้งเมื่อไหว้แป๊ะกงม่า (ศาลตายาย) ข้างโรงเจด้านล่างแล้ว ลูกหลานจะต้องเดินทางต่อขึ้นไปบนสุสานของบรรพบุรุษ ระหว่างทางเดินเราต้องผ่านฮวงซุ้ยเพื่อนบ้านของอากงม่าเราเยอะแยะไปหมด เราควรจะบอกกล่าวอย่างนอบน้อม(ด้วยปากเปล่า) ว่า "ขอยืมพื้นที่หน้าสุสานท่านเดินผ่านหน่อยนะคะ" ตอนเด็กๆแม่นันก็ก่งก๊งงงๆว่าพวกผู้ใหญ่เค้าบ่นอะไรกันงุ้งงิ้ง งุ้งงิ้งตามหลังเรามา ที่แท้ "เจี๊ยะโหล่วเกี๊ย..เจี้ยะโหล่วเกี๊ย" (ขออนุญาติเดินผ่านทาง) นั่นเอง
ขอนำความหมายสำคัญๆ ในพิธีไหว้เช็งเม้งมาฝากอีกครั้งค่ะ
**ความหมายของการนำหอยแครง 鳥蛤 (เตี่ยจิว/แต้จิ๋ว อ่านออกเสียง 蛤 ฮัม หรือ กับ/กัก) มาเซ่นไหว้บรรพบุรุษนั้นเรียกว่า "骨肉相见หรือ 肉与骨相遇 (กุ๊กเน็ก เซียงเกี่ยง หรือ เน๊กอุ่ยกุก เซียหงอ = กระดูกกับเนื้อมาพบกัน
เปลือกหอยแครง (กุก骨กระดูก) = ผู้ล่วงลับ,
เนื้อหอยแครง (เน็กหรือบะ肉) =ลูก, หลาน, เหลนที่มีชีวิตอยู่ (ที่มาเซ่นไหว้ในวันนี้)
骨肉相见 กุ๊กเน็กเซียงเกี่ยง = เนื้อและกระดูกมาพบกัน
หอยแครง(ฮัม) มีองค์ประกอบคือ..
1) เปลือกหอยมีลักษณะแข็ง (เปรียบเหมือนบ้าน การโอบกอด) = กุก骨: บรรพบุรุษผู้วายชนน์ปกป้อง คุ้มครองเหล่าลูกหลาน
2) เลือดหอยแครง : สายเลือดแห่งตระกูลแซ่ (姓氏族血脉)
3) เนื้อหอย肉 : ลูก หลาน เหลน**
*ความหมายของเต็กโคว/เต็กอุ๊ย (ไผ่สานล้อมเผากระดาษ )
ก่อนจะทำการเผากระดาษเงินกระดาษทองต่างๆ ต้องนำ "เต็กโคว/เต็กอุ๊ย" หรือไผ่สานมาล้อมกำหนดขอบเขตกระดาษไหว้ที่เรากำลังจะเผาให้บรรพบุรษ บางท้องถิ่นระหว่างที่เผากระดาษไหว้ ลูกหลานจะใช้ไม้ไผ่รวกเดินเคาะรอบๆ บริเวณนั้น ครั้นเสร็จสรรพก็จบลงด้วยการจุดประทัดเพื่อขับไล่สิ่งอัปมงคล เป็นอันเสร็จพิธี จากนั้นจึงนั่งล้อมวงร่วมทานอาหาร เสมือนว่าได้นั่งทานข้าวพร้อมเพรียงกับบรรพบุรุษตอนท่านยังชีวิตอยู่
ขอบคุณ homesafe-dragon สำหรับข้อมูลประกอบการเขียนบทความเรื่อง "ชุงฮุง"
ขอบคุณ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่น่าจดจำ จากเพื่อนๆในกลุ่มภาษาจีน
เทศกาลชุงฮุง 春分 (เริ่มฤดูกาลเชงเม้ง)