เผย 10 ลักษณะงาน อาชีพเสี่ยงตกงาน 2025 เมื่อ AI เข้ามาทำงานแทนคน

บทนำ: การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาอย่างรวดเร็ว การเข้ามาของระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังมีบทบาทสำคัญในทุกภาคส่วนของตลาดแรงงาน การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อลักษณะการทำงานยังส่งผลต่อจำนวนและประเภทของอาชีพที่มีอยู่ในอนาคต การศึกษาและการรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อเตรียมพร้อมในการตอบสนองต่อผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

สำหรับปี 2025 ซึ่งเป็นปีที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในงานหลายประเภท ทำให้มีการพูดถึงภาวะที่อาจจะมีอาชีพเสี่ยงตกงานสูงขึ้น อาชีพที่เคยเป็นที่ต้องการอาจจะถูกทดแทนโดยเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำมากกว่าคน สิ่งนี้เป็นการกระตุ้นให้ผู้ทำงานต้องปรับตัวและพัฒนาทักษะใหม่ เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดงาน

การวิเคราะห์แนวโน้มเหล่านี้ถือเป็นหน้าที่ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดแรงงานต้องใส่ใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการระบุว่าอาชีพเสี่ยงตกงานในปี 2025 มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในหลายสายงาน อาทิเช่น งานที่มีการทำซ้ำแบบเดิมๆ งานที่สามารถถูกทำได้ผ่าน AI และอาชีพที่ไม่ได้ต้องการทักษะเฉพาะด้านมากนัก อีกทั้ง การปรับตัวทางการศึกษาและทักษะให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในอนาคตนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพิจารณาอย่างจริงจัง

อันดับที่ 1-5: อาชีพที่มีแนวโน้มเสี่ยงสูง

ในปี 2025 จะมีอาชีพจำนวนมากที่มีความเสี่ยงสูงที่จะตกงาน เนื่องจากการเข้ามาของ AI ที่คาดการณ์ว่าจะเข้ามาทำงานแทนคนในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอาชีพที่มีลักษณะซ้ำซาก หรืองานที่สามารถทำได้ด้วยระบบอัตโนมัติ อาชีพที่อยู่ในอันดับสูงสุดที่มีความเสี่ยงเหล่านี้ได้แก่

อันดับแรกคือ “พนักงานผลิต” เนื่องจากเทคโนโลยี AI และหุ่นยนต์สามารถทำงานผลิตในค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้โอกาสที่พนักงานระดับต่ำในโรงงานจะถูกแทนที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

อันดับที่สอง คือ “พนักงานบริการลูกค้า” ซึ่ง AI ในรูปแบบของแชทบอทและระบบตอบคำถามอัตโนมัติสามารถคาดการณ์และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายในการจ้างงาน

อันดับที่สามคือ “คนขับขนส่ง” โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและบริการขนส่ง เช่น รถแท็กซี่ไร้คนขับ เทคโนโลยีที่พัฒนารวดเร็วอาจทำให้คนขับตกงานได้ในอนาคต

อันดับที่สี่คือ “พนักงานจัดการข้อมูล” เนื่องจาก AI มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว อาชีพในด้านนี้จึงมีแนวโน้มที่จะไม่เป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน

สุดท้ายคือ “งานด้านการวิเคราะห์ตลาด” ที่ถูกคาดการณ์ว่าจะถูกนักการตลาด AI เข้ามาแทนที่ เนื่องจาก AI สามารถวิเคราะห์แนวโน้มและข้อมูลได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว เมื่อเปรียบเทียบกับการวิเคราะห์โดยมนุษย์

อันดับที่ 6-10: อาชีพที่เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลง

ในยุคที่การใช้เทคโนโลยี AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อาชีพที่เสี่ยงตกงานในปี 2025 จึงกลายเป็นหัวข้อที่ผู้คนให้ความสนใจมากขึ้น 

อาชีพที่ 6 คือการผลิตในโรงงาน ซึ่งเป็นอาชีพที่มักมีการทำงานที่ซ้ำซากและเป็นกิจวัตร AI สามารถทำงานในสายการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงที่จะถูกแทนที่โดยเทคโนโลยีในอนาคต

อันดับที่ 7 คือการให้บริการลูกค้า โดยเฉพาะในงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้การเจรจาที่ยุ่งยาก เช่น การตอบคำถามหรือการช่วยแก้ไขปัญหาเบื้องต้น AI สามารถจัดการกับการติดต่อสื่อสารเหล่านี้ได้ง่ายและรวดเร็ว ส่งผลให้ตำแหน่งนี้อาจเผชิญกับการลดจำนวนของพนักงานในอนาคต

อันดับที่ 8 คืองานด้านการจัดการข้อมูล งานที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกและจัดการข้อมูลจำนวนมากมักจะมีความซ้ำซากและทาง AI มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลได้ทันที รวมถึงวิเคราะห์แนวโน้ม ทำให้เกิดความเสี่ยงที่อาชีพนี้จะถูกแทนที่

อันดับที่ 9 คือการจัดการคลังสินค้า อาชีพที่ต้องใช้งานแรงงานในกระบวนการระบายสินค้าและการจัดเรียงของมีโอกาสสูงที่จะถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติ นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมบุคลากรในอาชีพนี้ต้องพัฒนาทักษะใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับเทคโนโลยี

สุดท้ายอันดับที่ 10 คือการขนส่ง ซึ่งรวมถึงคนขับรถยนต์ส่งสินค้าและบริการขนส่งสาธารณะ ในอนาคตอาจมีระบบขนส่งอัตโนมัติที่เข้ามาทดแทนทำให้พนักงานในอาชีพนี้มีความเสี่ยงต่อการตกงานมากขึ้น

ด้วยเหตุนี้ อาชีพทั้ง 5 นี้จะต้องมีการปรับปรุงทักษะและเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดแรงงานที่มี AI เข้ามาทำงานแทนคนในอนาคต

การเตรียมตัวรับมือกับอนาคต: วิธีการปรับตัว

ในยุคปัจจุบัน การเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยี เช่น AI เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากมีแนวโน้มว่า อาชีพเสี่ยงตกงาน 2025 จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น การเข้าใจวิธีปรับตัวจึงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยสร้างความมั่นคงในอาชีพ โดยเฉพาะในสาขาที่มีการนำ AI เข้ามาทำงานแทนคน

การพัฒนาทักษะใหม่ๆ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่สำคัญ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บุคคลควรให้ความสำคัญกับการศึกษาต่อเนื่องและการเรียนรู้ทักษะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงการเข้าใจการใช้งาน AI การเขียนโปรแกรม การวิเคราะห์ข้อมูล และการทำการตลาดดิจิทัล การลงทุนในการพัฒนาทักษะเหล่านี้จะสามารถช่วยขยายโอกาสในอาชีพและลดความเสี่ยงในการตกงาน

นอกจากนี้ การสร้างเครือข่ายก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์หรือออฟไลน์ การเชื่อมต่อกับผู้คนในอุตสาหกรรมสามารถช่วยเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ โดยการเข้าร่วมงานสัมมนา เวิร์กช็อป หรือกิจกรรมทางวิชาชีพจะทำให้สามารถแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมถึงการหาพันธมิตรที่น่าสนใจในอนาคต

ความยืดหยุ่นและการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ บุคคลควรมีทัศนคติบวกต่อการเปลี่ยนแปลง และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่เพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายในอนาคต การยอมรับการเปลี่ยนแปลงไม่เพียงแต่จะเป็นการปกป้องตัวเองจาก อาชีพเสี่ยงตกงาน 2025 แต่ยังเป็นโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเองในตลาดงานที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่