วิโรจน์ ชี้ด่วนสรุปไม่ได้ บึ้มป่วนใต้ โยงส่งอุยกูร์กลับจีน แนะคลี่ปม 3 กรณี
https://www.matichon.co.th/politics/news_5083489
วิโรจน์ ชี้ด่วนสรุปไม่ได้ บึ้มป่วนใต้ โยงส่งอุยกูร์กลับจีน แนะคลี่ปม 3 กรณี
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นาย
วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสและปัตตานี ในช่วงค่ำวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา มองว่าที่เกิดช่วงนี้ มีความเชื่อมโยงกับกรณีการส่งตัวชาวอุยกูร์หรือไม่ ว่า การจะให้ความเห็นในเรื่องนี้ต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ แต่ขณะนี้ต้องรอกระบวนการสืบสวนสอบสวนก่อน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้หรือมีความเป็นไปไม่ได้ แต่การสันนิษฐานในลักษณะเช่นนั้น เป็นเหตุที่แม้จะสามารถนำเรื่องดังกล่าวมาเชื่อมโยงได้ แต่ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นเหตุเป็นผลกันหรือไม่ ย้ำว่าเราไม่สามารถที่จะด่วนสรุปได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
เมื่อถามว่า กรณีเช่นนี้จะมีข้อเสนอแนะรัฐบาลหรือฝ่ายความมั่นคงอย่างไรหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า หากจะอธิบายเช่นนี้โดยยกเป็น 3 กรณีคือ 1.มีการไตร่ตรองที่จะก่อเหตุไว้อยู่แล้ว และฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ตอนที่เราส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปที่ประเทศจีน 2.ไม่ได้เกี่ยวกันเลย เพราะการสร้างสถานการณ์หรือเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเกิดขึ้นเป็นระยะอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไทยส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน จึงมีการนำไปโยงกัน และ 3.เกี่ยวพันเลยคือเป็นการตอบโต้รัฐบาลกรณีที่ส่งชาวอุยกูร์กลับไปที่ประเทศจีน ดังนั้น เราจะด่วนสรุปไม่ได้ ต้องสืบสวนสอบสวนก่อน แต่อย่างไรก็ตามใน 3 กรณีนี้ จะตัดออกจากการสืบสวนสอบสวนไม่ได้
ไอซ์ รักชนก ชวนผู้ประกันตนไป สปส. 11 มี.ค. ช่วยอธิบายสูตรใหม่บำนาญ
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5083428
ไอซ์รักชนก ชวนผู้ประกันตนไป สปส. 11 มี.ค. ช่วยอธิบายสูตรใหม่บำนาญ
วันที่ 9 มีนาคม
ไอซ์ รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม.พรรคประชาชน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า
เรียนท่านผู้ประกันทุกคนทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ผู้ประกันตน ม.39 ที่ในอดีต เคยส่ง ม.33 มาก่อน
ในวันที่ 11 มีนาคม 2568 บอร์ดใหญ่ประกันสังคม จะมีวาระพิจารณา เรื่อง ‘สูตรการคำนวณบำนาญชราภาพผู้ประกันตนสูตรใหม่’ ซึ่งจะเป็นวันชี้ชะตาว่า ผู้ประกันตน ม.39 ที่อดีตเคยส่ง ม.33 มาก่อน จะได้รับความเป็นธรรม
คืนกลับเข้ามาในกระเป๋าสตางค์เพื่อบั้นปลายชีวิตหรือไม่
ในความเป็นจริงถ้าคำนวณจากเงินที่ท่านส่งมาหลายสิบปี ต้องได้บำนาญ 4,000฿-5,000 ฿ แต่ด้วยสูตรการคำนวณที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ในวันนี้หลายๆคนได้รับบำนาญเพียง 1,500 ฿ ซึ่งต่ำกว่าที่ควรจะได้รับจริงหลายเท่า
แน่นอนว่าผู้ประกันตนหลายคน รู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก ทำงานส่งมาทั้งชีวิต และก็ตั้งใจจะส่งต่อ แค่กลับกลายเป็นจ่ายเพื่อลดเงินบำนาญตัวเอง เพราะสำนักงานประกันสังคม แม้จะมีค่าประชาสัมพันธ์ปีละ 400-500ล้านบาท ก็ไม่เคย
ออกมาให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ว่าสูตรการคำนวณแบบนี้มีปัญหาอย่างไร
ดังนั้นอย่าคิดว่าเป็นเรื่องบุญทำกรรมแต่ง นี่มันเรื่องของการจงใจบริหารนโยบายผิดพลาด เพราะเป็นไปไม่ได้ ที่จะไม่มีใครรู้ว่ามันยุติธรรม ดังนั้นฝ่ายการเมืองในอดีตที่ผ่านมาเค้ารู้ค่ะ รู้อยู่เต็มอก แต่ก็หลับหูหลับตา ไม่เคยคิดจะแก้ไขอะไรจริงๆจังๆ ไม่เคยคิดจะคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ประกันตน
ดิฉันไม่ได้กล่าวหา มันคือความจริง ซึ่งก่อนหน้านี้มันเคยเข้าวาระพิจารณาไปแล้วแต่ไม่ผ่านเพราะมีหลายท่านได้บอร์ดที่ ‘อ่านไม่เข้าใจ’ และมีความกังวล ดังนั้นในครั้งนี้ ดิฉันอยากเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องผู้ประกันตน ไปเจอกันที่สำนักงานประกันสังคม ไปช่วยกัน ‘อธิบาย’ ให้ฝ่ายนายจ้างและฝ่ายข้าราชการ ได้เข้าใจว่าท่านเดือดร้อน
และในวันนี้ท่านเริ่มจะโกรธและไม่พอใจ แน่นอนว่าเมื่อก่อนทุกท่านไม่รู้ว่าตัวเองโดนเอาเปรียบ ไม่รู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้บ้าง เค้ามองท่านเป็นแค่ ‘พวกคนใช้แรงงาน พวกกรรมกร พวกพนักงานออฟฟิศ’
ไม่เคยให้เกียรติท่านในฐานะเจ้าของเงิน เพราะพวกเค้าคิดว่า ไม่ว่าเค้าทำอะไรก็แล้วแต่ ก็คงไม่มีใครกล้ามีปากมีเสียง
วันนี้ไอซ์อยากให้ทุกคนรู้ว่า ถ้าผู้ประกันตนเสียงเดียว เค้าอาจจะไม่ได้ยิน แต่ถ้าเรารวมกันตะโกนเพื่อเรียกร้องให้พวกเค้าเข้าใจว่าวันนี้ กูรู้ทันพวกแล้วนะ เค้าจะได้รู้จักเกรงใจท่านบ้าง
เราอธิบายกันมาเยอะแล้ว ถ้ายังไม่เข้าใจอีก ปัญหามันคงไม่ได้อยู่ที่สูตรคำนวณแล้วล่ะ ดังนั้น ไปเจอกัน 08.30 จับตาดู สิทธิ์ที่พึงจะได้รับของท่านกันเถอะนะคะ ไอซ์จะอยู่ไปเป็นกำลังใจ ให้ทุกคนตรงนั้นด้วย 🙂
https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/pfbid0296afYWeHieFDZ7aVTM25RBQKvVvqnWDHa4xm6Ae3CBornoPqir98xeByx6GkS6SLl
สรุปเหตุป่วนใต้ "นราธิวาส-ปัตตานี" คืนเดียว 6 จุด จนท.ตาย - ประชาชนบาดเจ็บ
https://www.thairath.co.th/news/local/south/2846052
สรุปเหตุการณ์ความไม่สงบ คนร้ายป่วน "นราธิวาส-ปัตตานี" รวม 6 จุด ลอบยิง วางระเบิด คาร์บอมบ์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่-ประชาชน ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต
วันที่ 9 มีนาคม 2568 มีรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุลอบยิงและเหตุวางระเบิดในพื้นที่ภาคใต้หลายจุด ได้แก่ จ.นราธิวาส 4 จุด และพื้นที่ จ.ปัตตานี 2 จุด โดยทางแฟนเพจ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ ได้สรุปรายละเอียดดังนี้
พื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวน 4 จุด
จุดที่ 1 เวลา 19.10 น. บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คนร้ายไม่ทราบจำนวน พร้อมอาวุธปืนครบมือ นั่งโดยสารรถกระบะ 1 คัน และรถยนต์เก๋ง 1 คัน ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก ที่กำลังเข้าเวรยามอยู่ด้านหน้าประตู
จากนั้นคนร้ายได้ขับรถเก๋งที่เตรียมประกอบคาร์บอมบ์ไว้ ไปจอดที่บริเวณหน้าอาคารห้องประชุม แล้วคนร้ายทั้ง 2 กลุ่มที่อยู่ด้านนอก ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ และขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ จำนวน 3 ถึง 4 ลูก เข้าไปในที่ว่าการอำเภอ จากนั้นคนร้ายที่ขับเก๋งคาร์บอมบ์ไปจอดได้รีบวิ่งหนีออกมา ก่อนที่จะมีเสียงระเบิดคาร์บอมบ์ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว แล้วคนร้ายได้รีบขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนีไป
จุดที่ 2 เวลา 19.28 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณถนนอรกานต์ ใกล้รางรถไฟ
จุดที่ 3 เวลา 19.30 น. บริเวณถนนหน้าห้างแห่งหนึ่งในสุไหงโก-ลก ชุมชนโต๊ะลือเบ มีวัตถุต้องสงสัย ถังแก๊สวางไว้บนถนน จากนั้นไม่นานได้เกิดระเบิดขึ้น
จุดที่ 4 เวลา 19.52 น. เกิดเหตุระเบิดเสาไฟฟ้า ที่บริเวณหัวสะพานบ้านตลิ่งสูง ม.9 ต.สุไหงปาดี ส่งผลทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นทั้ง 2 ต้น เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 คน ดังนี้
เจ้าหน้าที่ เสียชีวิต 2 ราย
1. ม.ญ.
มูฮำหมัดซับรี นะสวัน
2. อส.
ทศพล พายพิมพ์
เจ้าหน้าที่ อส. ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย
1.
ณรงค์ชัย รัดรึงสุนทรี
2.
มัสรัน อารง
3.
อีซูวัน บินมะมิง
4.
มะดารี ตาเยะ
5.
อภิชัย บุตจีน
6.
ซุลกิฟลี วาจิ
7.
ธวัชชัย ไชยศรี
8.
กำทร วงศ์นคร
ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
1. นาย
จิรภัทร อาแวสือแม
2. นาง
รัชนีวรรณ จุ้ยทอง
3. นาย
สงกรานต์ ยูโซ๊ะ
พื้นที่ จ.ปัตตานี จำนวน 2 จุด
จุดที่ 1 เวลา 18.00 น. เกิดเหตุลอบยิงชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ กองร้อยทหารพรานที่ 4411 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 บริเวณ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 4074 บ้านฮูแตกอแล หมู่ที่ 3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จุดที่ 2 เวลา 23.20 น. เกิดเหตุลอบวางระเบิดบริเวณศาลา ในพื้นที่ บ้านฮูแตกอแล หมู่ที่ 3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ
ผู้เสียชีวิต 3 ราย
1. อาสาสมัครทหารพราน
สมัย บุญยงค์ อายุ 46 ปี ภูมิลำเนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
2. นาย
มะรอมลี มะยะเด็ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
3. นาย
อดิศร ดอเลาะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ
ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย
นาย
ฮารง เยะและ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ
ข้อมูลจาก แฟนเพจ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/region6songkhla/posts/pfbid0ecn6dAH48VCnGVkN7v3whdVEzZkegbNSn1keTvmhcnFXzjbF2CHmqPEtdmPMC35Bl
JJNY : วิโรจน์ ชี้ด่วนสรุปไม่ได้│ไอซ์ รักชนกชวนไปสปส. 11มี.ค.│สรุปเหตุป่วนใต้ 6 จุด│โหวตทรัมป์ ถูกไล่ออกจากนโยบายทรัมป์
https://www.matichon.co.th/politics/news_5083489
วิโรจน์ ชี้ด่วนสรุปไม่ได้ บึ้มป่วนใต้ โยงส่งอุยกูร์กลับจีน แนะคลี่ปม 3 กรณี
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสและปัตตานี ในช่วงค่ำวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา มองว่าที่เกิดช่วงนี้ มีความเชื่อมโยงกับกรณีการส่งตัวชาวอุยกูร์หรือไม่ ว่า การจะให้ความเห็นในเรื่องนี้ต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะต้องมีหลักฐานเชิงประจักษ์ แต่ขณะนี้ต้องรอกระบวนการสืบสวนสอบสวนก่อน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้หรือมีความเป็นไปไม่ได้ แต่การสันนิษฐานในลักษณะเช่นนั้น เป็นเหตุที่แม้จะสามารถนำเรื่องดังกล่าวมาเชื่อมโยงได้ แต่ก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นเหตุเป็นผลกันหรือไม่ ย้ำว่าเราไม่สามารถที่จะด่วนสรุปได้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
เมื่อถามว่า กรณีเช่นนี้จะมีข้อเสนอแนะรัฐบาลหรือฝ่ายความมั่นคงอย่างไรหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า หากจะอธิบายเช่นนี้โดยยกเป็น 3 กรณีคือ 1.มีการไตร่ตรองที่จะก่อเหตุไว้อยู่แล้ว และฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ตอนที่เราส่งตัวชาวอุยกูร์กลับไปที่ประเทศจีน 2.ไม่ได้เกี่ยวกันเลย เพราะการสร้างสถานการณ์หรือเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเกิดขึ้นเป็นระยะอยู่แล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไทยส่งชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน จึงมีการนำไปโยงกัน และ 3.เกี่ยวพันเลยคือเป็นการตอบโต้รัฐบาลกรณีที่ส่งชาวอุยกูร์กลับไปที่ประเทศจีน ดังนั้น เราจะด่วนสรุปไม่ได้ ต้องสืบสวนสอบสวนก่อน แต่อย่างไรก็ตามใน 3 กรณีนี้ จะตัดออกจากการสืบสวนสอบสวนไม่ได้
ไอซ์ รักชนก ชวนผู้ประกันตนไป สปส. 11 มี.ค. ช่วยอธิบายสูตรใหม่บำนาญ
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5083428
ไอซ์รักชนก ชวนผู้ประกันตนไป สปส. 11 มี.ค. ช่วยอธิบายสูตรใหม่บำนาญ
วันที่ 9 มีนาคม ไอซ์ รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม.พรรคประชาชน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า
เรียนท่านผู้ประกันทุกคนทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ผู้ประกันตน ม.39 ที่ในอดีต เคยส่ง ม.33 มาก่อน
ในวันที่ 11 มีนาคม 2568 บอร์ดใหญ่ประกันสังคม จะมีวาระพิจารณา เรื่อง ‘สูตรการคำนวณบำนาญชราภาพผู้ประกันตนสูตรใหม่’ ซึ่งจะเป็นวันชี้ชะตาว่า ผู้ประกันตน ม.39 ที่อดีตเคยส่ง ม.33 มาก่อน จะได้รับความเป็นธรรม
คืนกลับเข้ามาในกระเป๋าสตางค์เพื่อบั้นปลายชีวิตหรือไม่
ในความเป็นจริงถ้าคำนวณจากเงินที่ท่านส่งมาหลายสิบปี ต้องได้บำนาญ 4,000฿-5,000 ฿ แต่ด้วยสูตรการคำนวณที่ไม่เป็นธรรม ทำให้ในวันนี้หลายๆคนได้รับบำนาญเพียง 1,500 ฿ ซึ่งต่ำกว่าที่ควรจะได้รับจริงหลายเท่า
แน่นอนว่าผู้ประกันตนหลายคน รู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก ทำงานส่งมาทั้งชีวิต และก็ตั้งใจจะส่งต่อ แค่กลับกลายเป็นจ่ายเพื่อลดเงินบำนาญตัวเอง เพราะสำนักงานประกันสังคม แม้จะมีค่าประชาสัมพันธ์ปีละ 400-500ล้านบาท ก็ไม่เคย
ออกมาให้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ว่าสูตรการคำนวณแบบนี้มีปัญหาอย่างไร
ดังนั้นอย่าคิดว่าเป็นเรื่องบุญทำกรรมแต่ง นี่มันเรื่องของการจงใจบริหารนโยบายผิดพลาด เพราะเป็นไปไม่ได้ ที่จะไม่มีใครรู้ว่ามันยุติธรรม ดังนั้นฝ่ายการเมืองในอดีตที่ผ่านมาเค้ารู้ค่ะ รู้อยู่เต็มอก แต่ก็หลับหูหลับตา ไม่เคยคิดจะแก้ไขอะไรจริงๆจังๆ ไม่เคยคิดจะคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ประกันตน
ดิฉันไม่ได้กล่าวหา มันคือความจริง ซึ่งก่อนหน้านี้มันเคยเข้าวาระพิจารณาไปแล้วแต่ไม่ผ่านเพราะมีหลายท่านได้บอร์ดที่ ‘อ่านไม่เข้าใจ’ และมีความกังวล ดังนั้นในครั้งนี้ ดิฉันอยากเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องผู้ประกันตน ไปเจอกันที่สำนักงานประกันสังคม ไปช่วยกัน ‘อธิบาย’ ให้ฝ่ายนายจ้างและฝ่ายข้าราชการ ได้เข้าใจว่าท่านเดือดร้อน
และในวันนี้ท่านเริ่มจะโกรธและไม่พอใจ แน่นอนว่าเมื่อก่อนทุกท่านไม่รู้ว่าตัวเองโดนเอาเปรียบ ไม่รู้ว่าตัวเองสามารถทำอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้บ้าง เค้ามองท่านเป็นแค่ ‘พวกคนใช้แรงงาน พวกกรรมกร พวกพนักงานออฟฟิศ’
ไม่เคยให้เกียรติท่านในฐานะเจ้าของเงิน เพราะพวกเค้าคิดว่า ไม่ว่าเค้าทำอะไรก็แล้วแต่ ก็คงไม่มีใครกล้ามีปากมีเสียง
วันนี้ไอซ์อยากให้ทุกคนรู้ว่า ถ้าผู้ประกันตนเสียงเดียว เค้าอาจจะไม่ได้ยิน แต่ถ้าเรารวมกันตะโกนเพื่อเรียกร้องให้พวกเค้าเข้าใจว่าวันนี้ กูรู้ทันพวกแล้วนะ เค้าจะได้รู้จักเกรงใจท่านบ้าง
เราอธิบายกันมาเยอะแล้ว ถ้ายังไม่เข้าใจอีก ปัญหามันคงไม่ได้อยู่ที่สูตรคำนวณแล้วล่ะ ดังนั้น ไปเจอกัน 08.30 จับตาดู สิทธิ์ที่พึงจะได้รับของท่านกันเถอะนะคะ ไอซ์จะอยู่ไปเป็นกำลังใจ ให้ทุกคนตรงนั้นด้วย 🙂
https://www.facebook.com/nanaicez112/posts/pfbid0296afYWeHieFDZ7aVTM25RBQKvVvqnWDHa4xm6Ae3CBornoPqir98xeByx6GkS6SLl
สรุปเหตุป่วนใต้ "นราธิวาส-ปัตตานี" คืนเดียว 6 จุด จนท.ตาย - ประชาชนบาดเจ็บ
https://www.thairath.co.th/news/local/south/2846052
สรุปเหตุการณ์ความไม่สงบ คนร้ายป่วน "นราธิวาส-ปัตตานี" รวม 6 จุด ลอบยิง วางระเบิด คาร์บอมบ์ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่-ประชาชน ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิต
วันที่ 9 มีนาคม 2568 มีรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุลอบยิงและเหตุวางระเบิดในพื้นที่ภาคใต้หลายจุด ได้แก่ จ.นราธิวาส 4 จุด และพื้นที่ จ.ปัตตานี 2 จุด โดยทางแฟนเพจ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์ ได้สรุปรายละเอียดดังนี้
พื้นที่ จ.นราธิวาส จำนวน 4 จุด
จุดที่ 1 เวลา 19.10 น. บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คนร้ายไม่ทราบจำนวน พร้อมอาวุธปืนครบมือ นั่งโดยสารรถกระบะ 1 คัน และรถยนต์เก๋ง 1 คัน ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน อ.สุไหงโก-ลก ที่กำลังเข้าเวรยามอยู่ด้านหน้าประตู
จากนั้นคนร้ายได้ขับรถเก๋งที่เตรียมประกอบคาร์บอมบ์ไว้ ไปจอดที่บริเวณหน้าอาคารห้องประชุม แล้วคนร้ายทั้ง 2 กลุ่มที่อยู่ด้านนอก ได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ และขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ จำนวน 3 ถึง 4 ลูก เข้าไปในที่ว่าการอำเภอ จากนั้นคนร้ายที่ขับเก๋งคาร์บอมบ์ไปจอดได้รีบวิ่งหนีออกมา ก่อนที่จะมีเสียงระเบิดคาร์บอมบ์ดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว แล้วคนร้ายได้รีบขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนีไป
จุดที่ 2 เวลา 19.28 น. เกิดเหตุระเบิดบริเวณถนนอรกานต์ ใกล้รางรถไฟ
จุดที่ 3 เวลา 19.30 น. บริเวณถนนหน้าห้างแห่งหนึ่งในสุไหงโก-ลก ชุมชนโต๊ะลือเบ มีวัตถุต้องสงสัย ถังแก๊สวางไว้บนถนน จากนั้นไม่นานได้เกิดระเบิดขึ้น
จุดที่ 4 เวลา 19.52 น. เกิดเหตุระเบิดเสาไฟฟ้า ที่บริเวณหัวสะพานบ้านตลิ่งสูง ม.9 ต.สุไหงปาดี ส่งผลทำให้เสาไฟฟ้าหักโค่นทั้ง 2 ต้น เบื้องต้นไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และผู้ได้รับบาดเจ็บ 11 คน ดังนี้
เจ้าหน้าที่ เสียชีวิต 2 ราย
1. ม.ญ. มูฮำหมัดซับรี นะสวัน
2. อส. ทศพล พายพิมพ์
เจ้าหน้าที่ อส. ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย
1. ณรงค์ชัย รัดรึงสุนทรี
2. มัสรัน อารง
3. อีซูวัน บินมะมิง
4. มะดารี ตาเยะ
5. อภิชัย บุตจีน
6. ซุลกิฟลี วาจิ
7. ธวัชชัย ไชยศรี
8. กำทร วงศ์นคร
ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
1. นายจิรภัทร อาแวสือแม
2. นางรัชนีวรรณ จุ้ยทอง
3. นายสงกรานต์ ยูโซ๊ะ
พื้นที่ จ.ปัตตานี จำนวน 2 จุด
จุดที่ 1 เวลา 18.00 น. เกิดเหตุลอบยิงชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ กองร้อยทหารพรานที่ 4411 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 บริเวณ ริมถนนทางหลวงหมายเลข 4074 บ้านฮูแตกอแล หมู่ที่ 3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เหตุการณ์นี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จุดที่ 2 เวลา 23.20 น. เกิดเหตุลอบวางระเบิดบริเวณศาลา ในพื้นที่ บ้านฮูแตกอแล หมู่ที่ 3 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ
ผู้เสียชีวิต 3 ราย
1. อาสาสมัครทหารพราน สมัย บุญยงค์ อายุ 46 ปี ภูมิลำเนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
2. นายมะรอมลี มะยะเด็ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
3. นายอดิศร ดอเลาะ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ
ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย
นายฮารง เยะและ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ
ข้อมูลจาก แฟนเพจ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 6 กรมประชาสัมพันธ์
https://www.facebook.com/region6songkhla/posts/pfbid0ecn6dAH48VCnGVkN7v3whdVEzZkegbNSn1keTvmhcnFXzjbF2CHmqPEtdmPMC35Bl