การแก้ปัญหาปลายเหตุ ไม่คำนึงถึงผลกระทบ ไม่มีแนวทางแก้ไขอื่นใดเพื่มเติม
ทุกสิ่งที่อยู่ในกระทู้ เจ้าของกระทู้ได้ทำถูกต้อง ตามกฎหมายทุกอย่าง ทั้งการแจกแจงรายได้ ชี้แจ้งรายรับ-รายจ่าย และเสียภาษี
อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่มีธุรกิจสีเทา เป็นผู้ได้รับผลกระทบ จากนโยบาย 1เบอร์ 1ธนาคาร ล่าสุด
การแสดงความคิดเห็น ที่กล่าวหาอย่างไม่มีมูลความจริง ถือเป็นการนำเข้าข้อมูลเท็จ จะดำเนินการแยกต่อไป
สวัสดีครับ ผมได้เริ่มต้น ธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินสด เป็นเงินเข้าบัญชี และเก็บค่าธรรมเนียมเล็กน้อย ทำมาได้เกือบ 10 ปีแล้วครับ
ในยุค internet banking เนื่องจากตู้หยอดเงินมีเพียง 1 ตู้ และเสียค่อนข้างบ่อย คนก็ยังใช้งานกันไม่ค่อยเป็น
ผู้ใช้บริการก็มีตั้งแต่ พ่อค้าแม่ค้า ผู้รับเหมา-คนงาน พนักงานบริษัท คนแก่ที่ต้องส่งเงินให้ลูกหลาน และอื่นๆ
ธุรกิจก็ดำเนินมาได้ด้วยด้วยดี
จนเปลี่ยนผ่าน เข้าสู่ยุค mobile banking ยุคที่เริ่มมีการใช้จ่ายผ่านมือถือมากขึ้น และการมาถึงของการสแกนจ่าย เงินสดจึงเริ่มไม่จำเป็น
เนื่องจาก เซเว่นก็มีบริการโอนเงิน แต่ไม่สามารถโอนได้ทุกธนาคาร และมีจำกัดยอด เรียกได้ว่าการใช้บริการทางร้านมีเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
ธนารคารที่ผมได้เลือก คือธนาคารสีเขียว เหตุผลเพราะ UX UI ใช้งานง่าย รวดเร็ว แทบไม่เคยล่ม ปิดปรับปรุงเฉพาะช่วงกลางคืน CC คุยเข้าใจง่ายรู้เรื่อง
ตัวผมเป็นคนที่ค่อนข้างละเอียด จะทำรายรับ-รายจ่าย แยกบัญชีกันตลอดเพื่อความง่ายในการตรวจสอบ
ผมได้ทำการเปิดบัญชีขึ้นมา และมีมือถือ 3เครื่อง 3เบอร์ 3บัญชี ซึ่งทั้งหมดตรงกับเจ้าของเดียวกันทั้งหมด
ตัวผมเป็นฟรีแลนซ์-โปรแกรมเมอร์ จะทำงานออนไลน์ และขายของออนไลน์ทางแพลตฟอร์มต่างประเทศ และรับเงินจากต่างประเทศ
และมีเปิดรับส่ง-พัสดุเป็นหน้าร้าน และแลกเปลี่ยนเงินสดเป็นเงินเข้าธนาคาร
ซึ่งทุกธุรกิจผมจะแยกมือถือ เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ และการจัดการภาษี แต่ชีวิตก็ไม่ง่ายขนาดนั้น
ปัญหาที่ผมเจอมาของหน่วยงานนี้ ไม่เคยมีมาตรการรองรับคนที่ได้รับผลกระทบเลย
ทุกคนคงจะเคยจำได้ Paypal ผมไม่รู้ทำยังไง ทะเลาะกันแบบใด แต่ผมไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ และต้องเลิกรับเงินผ่านช่องทางนี้ไป
ซึ่งผมเชื่อว่า มีฟรีแลนซ์ หลายคนที่ได้รับผลกระทบ เพราะแพลตฟอร์มต่างประเทศส่วนใหญ่ ถอนเงินได้แค่เฉพาะ Paypal เท่านั้น
การสแกนหน้าทุกยอด 50,000 และ 200,000
เรียกได้ว่าผมสแกนหน้าในหนึ่งวันไม่ต่ำกว่า 5 รอบ
ซึ่งปกติผมจะมีคนเฝ้าร้านให้ พอมีส่วนนี้ผมจะต้องมาเฝ้าร้านเอง ไปไหนไม่ได้เลย ผมก็โอเค ถือเป็นการป้องกันไปในตัว
ยืนยันเบอร์กับชื่อ และเลขบัญชี ของแอพธนาคาร ต้องตรงกัน
ส่วนนี้ผมทำถูกต้องมาแต่แรกอยู่แล้ว ไม่มีปัญหา และควรทำด้วย
ต่อมา ด้วยการแบ่งบัญชีม้าเป็นหลากสีหลายตัว
ผมก็เป็น 1 ในนั้นที่โดนลูกหลง เรียกได้ว่าโดน อายัดบัญชีตรวจสอบไป 2 อาทิตย์
เรียกได้ว่าเข้าขั้นยอดแย่เลยครับ แต่สุดท้ายก็ได้รับการปลด เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีการขอโทษหรือชดเชยใดๆทั้งสิ้นจากความเสียหายที่ได้รับ
สุดท้าย การมาถึงของนโยบาย 1เบอร์ 1ธนาคาร
ทำให้ผมต้องเหลือเพียงแค่ 1 เครื่อง แล้วจะต้องรวมบัญชี ทุกอันมาในเครื่องเดียว ซึ่งมันลำบากมาก
สำหรับคนที่ใช้รับเงิน และใช้จ่าย ทุกคนคงคิดว่ามันจะลำบากตรงไหน ใช่ครับ ถ้าคุณมีแค่บัญชีเดียวและไม่ได้ทำธุรกิจมันคงไม่เดือดร้อน
แต่ดูของผมสิครับ ในหนึ่งวันผมมีสลีป 200+ ใน 1 ปี ผมมีสลีป 10000+
ไหนจะต้องตรวจสอบค่าของว่ายอดที่เข้าตรงไหม ลูกค้าโอนหรือป่าว
นั้นคือเหตุผลว่าทำไมผมต้องแยกเครื่อง เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบ
การทำให้มันมารวมกัน ผมจะต้องคอยปัด ซ้าย-ขวา เลือกบัญชีที่จะใช้ มันโคตรจะลำบากเลยนะครับ
ยังไม่รวมบัตรเครดิต-เดบิต-เงินด่วน และบัญชีเงินเก็บที่เพื่มไว้ในแอพอีก
ยังงี้ผมต้องเอามือถือไว้ที่ร้าน ออกไปข้างนอกไม่มีแอพธนาคารให้ใช้เลยใช่ไหมครับ
ลองนึกว่าคุณเป็นเจ้าของร้านขายของ และมี 2เครื่อง ไว้รับเงินกับใช้จ่ายส่วนตัวสิครับ
พอมันรวมกัน ตอนคุณออกไปเที่ยวข้างนอก ให้ลูกหลานเฝ้าร้าน แอพมันไปด้วยกันนะครับ
คนอยู่หน้าร้านก็ไม่สามารถเช็คยอดได้ จากปกติที่มันทำได้
ยิ่งถ้ามีหลายร้าน แล้วแยกเครื่องไว้รับเงิน เรียบร้อยครับทุกบัญชีรวมเป็นแอพเดียว ชิบหา*ของแท้
ทุกคนอาจจะคิดว่าก็ใช้แอพธนาคารอื่นร่วมด้วยสิ
เหตุผลที่ผมเลือกแอพสีเขียว ผมก็ได้บอกไปข้างต้นแล้ว ว่ามันดี และเหมาะกับธุรกิจผมที่สุดแล้ว
ผมลองใช้มาทุกธนาคารแล้วครับ เลยกล้าพูด
สุดท้ายก็ได้แต่ทำใจยอมรับ ทำอะไรไม่ได้ มีแต่เพิ่มมาตรการ แต่ไม่มีทางแก้ไขเพิ่มเติมสำหรับคนที่โดนผลกระทบ คนที่อาจมีความจำเป็นต้องใช้
คนที่ทำงานสุจริต จ่ายภาษี ที่มีลักษณะการใช้งานแบบนี้ เป็นคนกลุ่มน้อย ก็โดนตัดหางปล่อยวัดสินะครับ ง่ายดี
ธปท. 1เบอร์ 1ธนาคาร