เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ทาง
บริษัทไอโมทีฟ ได้มีโอกาสไปงาน Odoo ( ซึ่งเป็น Open Source ERP) ได้จัดงาน Business Show ขึ้นที่ โรงแรม Millennium hilton

ซึ่งบรรยากาศในงานมีดังนี้ครับ
มี Boot จากทาง Partner และมี Boot จากทางลูกค้า คือ บริษัท Leowood, บริษัท BELCO ทำชอคโกแลต จากประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นประเทศเดียวกับ Odoo
ในงานมีการแนะนำการใช้งาน Odoo Version 18 ซึ่งได้จำลอง กระบวนการผลิตตั้งแต่ การขาย ไปถึงการผลิต การจัดเก็บสต๊อก และการปรับแต่งข้อมูลเพิ่มเติมด้วย Odoo Studio (เพิ่ม Field เก็บวันเกิดของ ลูกค้า)
มีการ Share ประสบการณ์จาก Partner ITASS, CU Solution และ New Logic ต่อ Chalenge ในการ Implement ซึ่งหลักๆ ก็จะเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ต้องเห็นความสำคัญของการใช้ Tools มาช่วย และ User ต้องพร้อมที่จะยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะบางองค์กร ยึดติดกับระบบ เดิมๆหลายปีแล้วจะให้เปลี่ยนคงเป็นไปได้ยาก และได้กล่าวถึงมาตรฐานต่างๆ ของ Odoo เช่นระบบบัญชี มันผ่านมาตรฐานที่เป็นพื้นฐานไปแล้ว ต้องมองถึงการที่จะมี Feature หรือความสามารถใหม่ๆ
อีกอย่างที่ถือว่าเป็น Key ที่ผมได้ คือมีการเน้นว่า Odoo ไม่ใช่แค่ระบบบัญชี แต่เป็น All In One Solution อยู่บน Platform เดียว
และมีการ Share ประสบการณ์จาก ลูกค้า คือบริษัท LeoWood โดยคุณสมานชัย CEO ต่อมุมมองการนำเอา Odoo มาช่วยแก้ปัญหา ซึ่งพึ่ง Implement ไปเมื่อกลางปี 2567 และใช้งานมาอีก ครึ่งปี สามารถลดคนใน Operation ได้จาก 24 คนเป็น 20 คน ซึ่งสามารถ Save เงินได้ถึง 1,200,000 บาท (Rate เงินเดือนจริง)
อีกเรื่องที่คุณสมานชัยได้เล่าให้ฟังว่าก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนมาใช้ Odoo คือมีการใช้ App ที่เป็น Local ของไทยหลายเจ้า ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีความเก่งในแต่ละเรื่องๆไป แต่เมื่อนำหลายๆระบบมาเชื่อมต่อกัน ไม่ว่าจะเป็น บัญชีของ ระบบสต๊อก ระบบ payment เกิดปัญหาที่ไม่สามารถเชื่อมต่อไปอยากแนบสนิทเป็นเนื้อเดียว และ Real Time ได้ การเปลี่ยนมาใช้ Odoo จะเห็นข้อมูลเดียวกัน และสำหรับผู้บริหาร การเห็น P&L ในระดับที่ Near Real Time ความใกล้เคียง 70-80% ก็ โอเค แล้ว ( เพราะในความเป็นจริงสิ้นเดือนก็จะมี ยอด อื่นๆมากระทบ)
รูปบรรยากาศงาน
แจ้งข่าวงาน Odoo ที่มาจัดที่กรุงเทพที่ผ่านมา
ซึ่งบรรยากาศในงานมีดังนี้ครับ
มี Boot จากทาง Partner และมี Boot จากทางลูกค้า คือ บริษัท Leowood, บริษัท BELCO ทำชอคโกแลต จากประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นประเทศเดียวกับ Odoo
ในงานมีการแนะนำการใช้งาน Odoo Version 18 ซึ่งได้จำลอง กระบวนการผลิตตั้งแต่ การขาย ไปถึงการผลิต การจัดเก็บสต๊อก และการปรับแต่งข้อมูลเพิ่มเติมด้วย Odoo Studio (เพิ่ม Field เก็บวันเกิดของ ลูกค้า)
มีการ Share ประสบการณ์จาก Partner ITASS, CU Solution และ New Logic ต่อ Chalenge ในการ Implement ซึ่งหลักๆ ก็จะเป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร ต้องเห็นความสำคัญของการใช้ Tools มาช่วย และ User ต้องพร้อมที่จะยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลง เพราะบางองค์กร ยึดติดกับระบบ เดิมๆหลายปีแล้วจะให้เปลี่ยนคงเป็นไปได้ยาก และได้กล่าวถึงมาตรฐานต่างๆ ของ Odoo เช่นระบบบัญชี มันผ่านมาตรฐานที่เป็นพื้นฐานไปแล้ว ต้องมองถึงการที่จะมี Feature หรือความสามารถใหม่ๆ
อีกอย่างที่ถือว่าเป็น Key ที่ผมได้ คือมีการเน้นว่า Odoo ไม่ใช่แค่ระบบบัญชี แต่เป็น All In One Solution อยู่บน Platform เดียว
และมีการ Share ประสบการณ์จาก ลูกค้า คือบริษัท LeoWood โดยคุณสมานชัย CEO ต่อมุมมองการนำเอา Odoo มาช่วยแก้ปัญหา ซึ่งพึ่ง Implement ไปเมื่อกลางปี 2567 และใช้งานมาอีก ครึ่งปี สามารถลดคนใน Operation ได้จาก 24 คนเป็น 20 คน ซึ่งสามารถ Save เงินได้ถึง 1,200,000 บาท (Rate เงินเดือนจริง)
อีกเรื่องที่คุณสมานชัยได้เล่าให้ฟังว่าก่อนหน้าที่จะเปลี่ยนมาใช้ Odoo คือมีการใช้ App ที่เป็น Local ของไทยหลายเจ้า ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีความเก่งในแต่ละเรื่องๆไป แต่เมื่อนำหลายๆระบบมาเชื่อมต่อกัน ไม่ว่าจะเป็น บัญชีของ ระบบสต๊อก ระบบ payment เกิดปัญหาที่ไม่สามารถเชื่อมต่อไปอยากแนบสนิทเป็นเนื้อเดียว และ Real Time ได้ การเปลี่ยนมาใช้ Odoo จะเห็นข้อมูลเดียวกัน และสำหรับผู้บริหาร การเห็น P&L ในระดับที่ Near Real Time ความใกล้เคียง 70-80% ก็ โอเค แล้ว ( เพราะในความเป็นจริงสิ้นเดือนก็จะมี ยอด อื่นๆมากระทบ)
รูปบรรยากาศงาน