งั่งจันทร์เสี้ยวองค์ที่ 2 ที่ปรากฏตัวในกลุ่มพระงั่งออนไลน์

ประมาณปี 2559 ได้มีงั่งจันทร์เสี้ยวปรากฏตัวขึ้นในกลุ่มเฟซบุ๊คงั่ง
ซึ่งการที่องค์นี้ปรากฏตัวขึ้นมา ทำให้ผมตื่นเต้นอีกครั้ง เนื่องจากหลังจากเห็นองค์แรกในปี 2556 ก็ผ่านมาหลายปีกว่าจะได้เห็นองค์ที่ 2 
ในรอบนี้ผู้ที่โพสต์ขายผมจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ซึ่งคุณเมษา ฉายวิเชียร ได้เช่าไว้ และก็ได้ทำการโพสต์โชว์ในกลุ่มอยู่เรื่อยๆ หลายๆคนจำภาพงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้ได้ดีครับ หลังจากนั้นงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้ก็ได้มีการเปลี่ยนมือจากคุณเมษาไปอยู่กับเจ้าของใหม่ ซึ่งในช่วงนี้ผมก็ได้ทำการพูดคุยสอบถามประสบการณ์จากเจ้าของงั่งอยู่เรื่อยๆ
ซึ่งการที่องค์นี้ปรากฏตัวขึ้นมา ทำให้ผมตื่นเต้นอีกครั้ง เนื่องจากหลังจากเห็นองค์แรกในปี 2556 ก็ผ่านมาหลายปีกว่าจะได้เห็นองค์ที่ 2 
ในรอบนี้ผู้ที่โพสต์ขายผมจำไม่ได้ว่าเป็นใคร ซึ่งคุณเมษา ฉายวิเชียร ได้เช่าไว้ และก็ได้ทำการโพสต์โชว์ในกลุ่มอยู่เรื่อยๆ หลายๆคนจำภาพงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้ได้ดีครับ หลังจากนั้นงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้ก็ได้มีการเปลี่ยนมือจากคุณเมษาไปอยู่กับเจ้าของใหม่ ซึ่งในช่วงนี้ผมก็ได้ทำการพูดคุยสอบถามประสบการณ์จากเจ้าของงั่งอยู่เรื่อยๆ

ต้องแจ้งก่อนครับว่าตอนนั้นที่เจ้าของั่งเค้าเช่างั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้ เค้าก็ได้เช่างั่งแบบต่างๆจากหลายๆคน (รวมทั้งของผมด้วย) 
ประสบการณ์ของเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวที่เจอหลังจากได้เช่าไปก็คือ เวลาเค้าพกใช้งาน จะรู้สึกว่าถ้าพกงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้พร้อมกับแขวนพระหลวงปู่ทวด เค้าจะรู้สึกอึดอัด ดังนั้นงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้จึงเป็นองค์เดียวที่เค้าแขวนใช้งานเดี่ยวๆ และก็เป็นองค์เดียวที่แฟนเค้ายอมให้พกพาใช้งาน
มีช่วงนึงเค้าได้เดินทางไปรับงานที่จังหวัดเลย โดยได้เช่าบ้านอยู่เพื่อทำงานที่นั่น ในระหว่างที่ทำงานก็ได้มีกิจกรรมร่วมกับวัดในพื้นที่ 
ซึ่งการทำกิจกรรมกับวัดนั้น ทำให้เกิดความขัดแย้งกับพระลูกวัดจนเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ถึงขั้นที่พระรูปนั้นได้ใส่ร้ายว่าเค้าเป็นคนเล่นของโดยนำผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านรวมตัวไปขับไล่เค้าออกจากหมู่บ้าน

ในวันนั้นได้เกิดการโต้เถียงกัน จนพระรูปนั้นได้พูดออกมาว่าถ้าไม่ยอมออกจากหมู่บ้าน ก็จะเอาเรื่องเค้าให้ถึงตาย (พระรูปนั้นรับทำพิธีกรรมไสยเวทย์อยู่ที่นั้นอยู่แล้ว) เมื่อได้ยินดังนั้น เจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวก็โกรธจึงได้หลุดปากพูดออกไปว่า "คอยดูแล้วกัน ว่ากูกับใครจะตายก่อนกัน" และเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวก็ไม่ยออมย้ายออกจากพื้นที่

ในตอนที่มีเรื่องกับพระรูปนั้น เจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวก็ได้ฝันว่ามีชายแก่อายุประมาณ 70 ปีขึ้น แต่งตัวเป็นคนมอญแบบโบราณ (โพกผ้าที่หัว ใส่เสื่อแบบผ้าทอ นุ่งโสร่ง) ที่เห็นในฝันคือตัวใหญ่มากมาปรากฏกายให้เห็น โดยไม่ได้พูดอะไร แต่เค้าสัมผัสได้ว่าชายแก่คนนั้นมาสื่อสารให้รู้ว่าได้ดูแลปกป้องเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวอยู่ ไม่ต้องกลัว 

ถึงตรงนี้ผมถามเจ้าของงั่งว่า คิดว่าคนแก่ในฝันเป็นใคร? 

เจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวบอกว่า เค้าคิดว่าชายแก่ในฝันนั้นคือผู้สร้างั่งหรือไม่ก็เป็นครูบาอาจารย์ผู้ที่เป็นต้นวิชาในการปลุกเสกงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้

หลังจากที่ฝันเรื่องนี้ ผ่านไป 3 วัน...
ก็ปรากฏว่าพระรูปนั้น (ที่มีเรื่องขัดแย้งกับเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยว) ได้มรณภาพอย่างกระทันหัน ซึ่งเมื่อปรากฏผลเช่นนี้ ทุกคนก็ลงความเห็นว่าเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวนั้น เป็นผู้ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้

เพราะตอนที่มีเรื่องกัน ได้มีการพูดจาท้าทายและขู่อาฆาตกันไว้ พอผลออกมาแบบนี้ จำเลยก็เป็นใครไปไม่ได้ครับนอกจากเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยว
วันที่พระรูปนั้นมรณภาพตอนนั้นมีลูกศิษย์ของพระรูปนั้นอยู่ด้วย เนื่องจากเค้ากำลังจะทำพิธีอะไรบางอย่าง ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าๆ ตัวลูกศิษย์ไม่ได้อยู่ตรงตำแหน่งที่พเกิดเหตุ แต่ได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวาย พอเข้าไปดูก็พบว่าพระรูปนั้นได้มรณภาพแล้วในสภาพดวงตาเบิกโพลง มือเกร็งหงิกงอ
ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวจึงไม่สามารถอยู่ในพื้นที่นั้นต่อได้ จึงต้องย้ายออกมาจากพื้นที่นั้น
ผมถามเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวว่า คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระรูปนั้น เจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวเค้าเชื่อว่า พระรูปนั้นอาจจะกำลังทำพิธิหรือทำของใส่เค้า แต่เนื่องจากเคามีงั่งจันทร์เสี้ยวคุ้มครองอยู่ ของนั้นจึงย้อนกลับเข้าตัวพระรูปนั้น จึงทำให้มรณภาพ

เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผมเล่าตามที่ได้ยินมาจากเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยว ซึ่งเค้าเลยเล่าให้ผมฟังครั้งนึงแล้วเมื่อประมาณ 4 ปีก่อน ตอนนั้นผมไม่ได้จดบันทึกเอาไว้ เลยลืมเรื่องนี้ไป และอีกอย่างนึงก็คือตอนที่คุบกันครั้งก่อน ใช้วิธีการแชทคุยในเฟสบุ๊ค ซึ่งเฟสบุ๊คเก่าผมโดนลบไป ข้อมุลที่เยคุยกันเลยหายไปหมด ผมเพิ่าเฟสบุ๊คเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวเจอและเพิ่มเพิ่มเพื่อนไปเมื่อเดือนก่อน 

หลังจากเกิดเรื่องนั้นแล้ว ก็เป็นช่วงโควิด ซึ่งเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวก็ประสบปัญหาเรื่องการเงิน จึงจำเป็นต้องปล่อยงั่งจันทร์เสี้ยวรวมถึงงั่งองค์อื่นๆที่ได้เช่ามาออก เพื่อนำเงินมาแก้ปัญหาที่เจออยู่ในตอนนั้น 

ปัจจุบัน เจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยวได้บวชอุปสมบทอยู่ในสมณเพศ เนื่องจากเจอปัญหาในชีวิตมาหนักในช่วงที่ผ่านมา ทั้งปัญหาส่วนตัวและปัญหาครอบครัว
สุดท้ายจึงได้ตัดสินใจบวชและถือเป็นการส่งบุญให้พระรูปที่มรณภาพด้วย 

วันที่ผมพิมพ์เรื่องนี้อยู่ (28 ก.พ. 68) ผมเพิ่งโทรคุยกับหลวงพี่ (อดีตเจ้าของงั่งจันทร์เสี้ยว) เมื่อคืนที่ผ่านมา (27 ก.พ. 68) คุยกันเกือบชั่วโมงครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่