ที่มา:
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1423070700
ร่างของพระสงฆ์ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในสภาพมัมมี่ ด้วยท่านั่งขัดสมาธิเพชร ซึ่งถูกค้นพบทางตอนเหนือของประเทศมองโกเลีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นซึ่งตกอยู่ความสนใจใคร่รู้ของผู้คนจำนวนมาก
กระบวนการชันสูตรร่างของพระสงฆ์รูปนี้ที่ถูกห่อหุ้มด้วยหนังสัตว์ยังคงดำเนินไป อย่างไรก็ตาม
พระอาวุโสหลายรายต่างระบุว่า ภิกษุรูปนี้ยังไม่ได้มรณภาพ ทว่าท่านกำลังอยู่ในสภาวะของการทำสมาธิระดับลึก
นักวิทยาศาสตร์หลายคน ยังไม่แน่ใจว่า เหตุใด ร่างของพระภิกษุรายนี้จึงยังไม่เน่าเปื่อย โดยผู้เชี่ยวชาญบางส่วนสันนิษฐานว่า อากาศหนาวเย็นของมองโกเลีย อาจเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยรักษาร่างกายของพระรูปดังกล่าวเอาไว้ จนมีสภาพสมบูรณ์
อย่างไรก็ดี ด็อกเตอร์แบร์รี่ เคอร์ซิน แพทย์ประจำตัวขององค์ดาไล ลามะ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะ ไซบีเรียน ไทม์ส ว่า
พระรูปนี้อยู่ในสภาวะการเข้าสมาธิในระดับอันยากจะพบเจอ ซึ่งเรียกว่า "ทัคดัม"
"ถ้าผู้เข้าสมาธิสามารถเพ่งจิตอยู่ในการทำสมาธิขั้นนี้ได้ต่อไป เขาก็จะเข้าถึงสภาวะแห่งพุทธะ" ด็อกเตอร์เคอร์ซิน กล่าว
ร่างของพระภิกษุรูปนี้ ถูกค้นพบ หลังจากมีหัวขโมยรายหนึ่งนำร่างดังกล่าวไปขายในตลาดมืด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตีนแมวรายนั้น และนำร่างพระภิกษุไปเก็บรักษาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพระภิกษุรูปนี้เป็นใคร แม้จะมีบางข้อสันนิษฐานที่ระบุว่า ท่านอาจเป็นอาจารย์ของลามะดาชิ-ดอร์โซ อิทิกิลอฟ ซึ่งศพของลามะรูปดังกล่าวก็ถูกเก็บรักษาไว้ในสภาพมัมมี่เช่นกัน
เมื่อปี ค.ศ.1927 ลามะอิทิกิลอฟ ซึ่งขณะนั้น อาศัยอยู่ในเขตแดนที่เป็นประเทศสหภาพโซเวียต ได้แจ้งกับศิษยานุศิษย์ว่า ท่านกำลังจะมรณภาพ และขอให้พวกเขาขุดร่างท่านขึ้นมาจากหลุมฝังศพ หลังเวลาผ่านพ้นไป 30 ปี
จากนั้น ลามะรูปดังกล่าวก็นั่งขัดสมาธิเพชร เพื่อเข้าสมาธิ ก่อนจะมรณภาพ อีก 3 ทศวรรษต่อมา เมื่อมีผู้ขุดศพของท่านขึ้นมา พวกเขาก็พบว่าร่างกายของลามะยังอยู่ในสภาพไม่เน่าเปื่อย
แต่เนื่องจากหวาดกลัวการเข้ามาแทรกแซงของทางการโซเวียต ลูกศิษย์ของลามะอิทิกิลอฟจึงฝังร่างของท่านเป็นครั้งที่สอง กระทั่งในปี ค.ศ.2002 จึงมีการขุดร่างของท่านขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ ร่างของท่านก็ยังอยู่สภาพสมบูรณ์เช่นเคย กระทั่งตกเป็นข่าวคราวในความสนใจของสาธารณชน
ส่งผลให้มีการนำร่างของลามะท่านนี้มายังวัดแห่งหนึ่ง เพื่อเปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าไปสักการะบูชาความเป็นอมตะของท่าน
ที่มา บีบีซี:
http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-31125338
ผู้เชี่ยวชาญมหายานชี้ "พระมองโกเลีย" ร่างมัมมี่ อาจยังไม่มรณภาพ แต่กำลังเข้าสมาธิลึก
ร่างของพระสงฆ์ที่ถูกเก็บรักษาไว้ในสภาพมัมมี่ ด้วยท่านั่งขัดสมาธิเพชร ซึ่งถูกค้นพบทางตอนเหนือของประเทศมองโกเลีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลายเป็นประเด็นซึ่งตกอยู่ความสนใจใคร่รู้ของผู้คนจำนวนมาก
กระบวนการชันสูตรร่างของพระสงฆ์รูปนี้ที่ถูกห่อหุ้มด้วยหนังสัตว์ยังคงดำเนินไป อย่างไรก็ตาม พระอาวุโสหลายรายต่างระบุว่า ภิกษุรูปนี้ยังไม่ได้มรณภาพ ทว่าท่านกำลังอยู่ในสภาวะของการทำสมาธิระดับลึก
นักวิทยาศาสตร์หลายคน ยังไม่แน่ใจว่า เหตุใด ร่างของพระภิกษุรายนี้จึงยังไม่เน่าเปื่อย โดยผู้เชี่ยวชาญบางส่วนสันนิษฐานว่า อากาศหนาวเย็นของมองโกเลีย อาจเป็นปัจจัยหนึ่ง ที่ช่วยรักษาร่างกายของพระรูปดังกล่าวเอาไว้ จนมีสภาพสมบูรณ์
อย่างไรก็ดี ด็อกเตอร์แบร์รี่ เคอร์ซิน แพทย์ประจำตัวขององค์ดาไล ลามะ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เดอะ ไซบีเรียน ไทม์ส ว่า พระรูปนี้อยู่ในสภาวะการเข้าสมาธิในระดับอันยากจะพบเจอ ซึ่งเรียกว่า "ทัคดัม"
"ถ้าผู้เข้าสมาธิสามารถเพ่งจิตอยู่ในการทำสมาธิขั้นนี้ได้ต่อไป เขาก็จะเข้าถึงสภาวะแห่งพุทธะ" ด็อกเตอร์เคอร์ซิน กล่าว
ร่างของพระภิกษุรูปนี้ ถูกค้นพบ หลังจากมีหัวขโมยรายหนึ่งนำร่างดังกล่าวไปขายในตลาดมืด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าจับกุมตีนแมวรายนั้น และนำร่างพระภิกษุไปเก็บรักษาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพระภิกษุรูปนี้เป็นใคร แม้จะมีบางข้อสันนิษฐานที่ระบุว่า ท่านอาจเป็นอาจารย์ของลามะดาชิ-ดอร์โซ อิทิกิลอฟ ซึ่งศพของลามะรูปดังกล่าวก็ถูกเก็บรักษาไว้ในสภาพมัมมี่เช่นกัน
เมื่อปี ค.ศ.1927 ลามะอิทิกิลอฟ ซึ่งขณะนั้น อาศัยอยู่ในเขตแดนที่เป็นประเทศสหภาพโซเวียต ได้แจ้งกับศิษยานุศิษย์ว่า ท่านกำลังจะมรณภาพ และขอให้พวกเขาขุดร่างท่านขึ้นมาจากหลุมฝังศพ หลังเวลาผ่านพ้นไป 30 ปี
จากนั้น ลามะรูปดังกล่าวก็นั่งขัดสมาธิเพชร เพื่อเข้าสมาธิ ก่อนจะมรณภาพ อีก 3 ทศวรรษต่อมา เมื่อมีผู้ขุดศพของท่านขึ้นมา พวกเขาก็พบว่าร่างกายของลามะยังอยู่ในสภาพไม่เน่าเปื่อย
แต่เนื่องจากหวาดกลัวการเข้ามาแทรกแซงของทางการโซเวียต ลูกศิษย์ของลามะอิทิกิลอฟจึงฝังร่างของท่านเป็นครั้งที่สอง กระทั่งในปี ค.ศ.2002 จึงมีการขุดร่างของท่านขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้ ร่างของท่านก็ยังอยู่สภาพสมบูรณ์เช่นเคย กระทั่งตกเป็นข่าวคราวในความสนใจของสาธารณชน
ส่งผลให้มีการนำร่างของลามะท่านนี้มายังวัดแห่งหนึ่ง เพื่อเปิดให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าไปสักการะบูชาความเป็นอมตะของท่าน
ที่มา บีบีซี: http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-31125338