มอสโก รัสเซีย
.
ศพ Hambo Lama Itigelov
ถูกขุดขึ้นเมื่อ 10 กันยายน 2002
จากสุสานรัฐใกล้เมือง Ulan Ude
สาธารณรัฐ Buryat (Buryatia)ในสหพันธ์รัสเซีย
หลังจากท่านมรณภาพและถูกฝังตั้งแต่ปี 1927
การขุดศพขี้นมาครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของญาติธรรม เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้เชี่ยวชาญ
ข้อมูลที่ปรากฏเผยแพร่ในสื่อมวลชนรัสเซีย
คือ Hambo Lama Itigelov (Lama Buryat)
ถูกขุดศพขึ้นมาจากหลุมฝังศพ
ในตอนต้นศตวรรษที่ 21
ภายในหลุมฝังศพมีหีบศพไม้บรรจุศพอยู่
ในท่านั่งพุทธลามะปัทมะ(ท่านั่งสมาธิดอกบัว)
สภาพศพยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ได้
ไม่มีการรักษาศพแบบการดองศพ
หรือทำแบบมัมมี่ หรือเป็นศพแบบตายซาก
ยังคงสภาพกล้ามเนื้อ ผิวหนัง ข้อต่อ รอยพับ
ศพยังห่มคลุมด้วยจีวรผ้าและผ้าไหม
.
.
Hambo Lama Itigelov เป็นพระเถระ
ที่รู้จักกันค่อนข้างดีในประวัติศาสตร์รัสเซีย
ท่านเคยศึกษาใน Anninsky Datsan
(มหาวิทยาลัยพุทธศาสนา Buryatia
ปัจจุบันกลายเป็นซากปรักหักพังแล้ว)
ทั้งยังศึกษาด้านการแพทย์และปรัชญา(สูญญตา) ตลอดจนเขียนสารานุกรมเภสัชวิทยา
ในปี 1911
ท่านได้ดำรงตำแหน่ง Hambo Lama
(ประมุขพุทธศาสนาในรัสเซีย)
ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 1913-1917
ท่านได้เข้าร่วมกิจกรรมสังคมสงเคราะห์
กับพระเจ้าซาร์ที่ 2 (กษัตริย์พระองค์สุดท้าย)
ท่านได้รับนิมนต์ไปร่วมงาน
พระราชพิธี 300 พรรษาราชวงศ์โรมานอฟ
และทำพิธีเปิดวัดพุทธศาสนาแห่งแรก
ในมหานครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
พระเจ้าซาร์ที่ 2 ได้พระราชทานรางวัล
St. Stanislav ให้กับท่าน
ในวันที่ 19 มีนาคม 1917
.
.
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
Hambo Lama Itigelov ได้สร้าง
แรงบันดาลใจให้กับประชาชน
และจัดตั้งมูลนิธิ
พี่น้อง Buryat
ช่วยกันจัดหาและบริจาค เงิน อาหาร เสื้อผ้า
ยารักษาโรค ให้กองทัพรัสเซียไปรบกับเยอรมัน
ทั้งยังสร้างโรงพยาบาลที่มีพระสงฆ์ที่เป็นแพทย์
ช่วยรักษาพยาบาลทหารที่บาดเจ็บ
ทำให้ท่านได้รับพระราชทานรางวัล
St. Anna และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย
ในปี 1926 Hambo Lama Itigelov
ได้แนะนำให้พระสงฆ์รีบหลบหนีออกจากรัสเซีย
ตั้งแต่เริ่มมีการเรียนการสอนลัทธิสีแดง
แนวคิดตามระบอบของพรรคคอมมิวนิสต์
แต่ Hambo Lama Itigelov ไม่เคยเดินทาง
ออกจากรัสเซียไปไหนอีกเลย
ในปี 1927 ช่วงท่านบวชได้ 75 พรรษา
ท่านได้บอกบรรดาพระภิกษุให้เริ่มต้นนั่งสมาธิ
และท่านได้บอกกับพระภิกษุรูปอื่น ๆ ว่า
ท่านกำลังเตรียมตัวตายในท่านั่งสมาธิ
แต่พระภิกษุต่างไม่ต้องการนั่งสมาธิ
ทั้งนี้เพราะ Hambo Lama Itigelov ยังมีชีวิตอยู่
ดังนั้น ท่านจึงเริ่มต้นนั่งสมาธิด้วยตนเอง
ก่อนที่พระภิกษุท่านอื่นจะมาร่วมนั่งกับท่าน
ต่อมาไม่นานนักท่านก็มรณภาพ
.
.
ท่านเขียนคำสั่งไว้ก่อนตายว่า
ให้ฝังศพท่านในท่านั่งสมาธิปัทมะ
ในโลงศพไม้สนซีดาร์แล้วไปฝังที่ป่าช้าเก่าแก่
พระภิกษุต่างทำตามคำสั่งของท่าน
และท่านยังมีคำสั่งเพิ่มเติมอีกว่า
ขอให้พระภิกษุช่วยขุดศพท่านขึ้นมา
หลังจากฝังศพท่านไปแล้วในอีกหลายปีต่อมา
นี่คือปฐมบทที่น่าตื่นเต้น หมายความว่า
ท่านรู้ล่วงหน้าว่าศพของท่านยังคงสภาพเดิมได้
มีการแอบขุดศพท่านขึ้นมา
ใน 1955 กับในปี 1973 โดยพระภิกษุในวัด
แต่พระภิกษุต่างหวาดกลัวที่จะบอกเรื่องนี้กับ
ชาวบ้านกับทางการให้ทราบถึงเรื่องนี้
ตั้งแต่มีระบอบคอมมิวนิสต์ปกครอง
สหภาพโซเวียตรัสเซียแล้ว
ทำให้ไม่เหลือพื้นที่ใด ๆ ให้กับศาสนาอีก
(รัฐบาลไม่ส่งเสริม/ต่อต้านการนับถือศาสนา
ทุกประเภท ถือว่า ศาสนาคือยาเสพติด)
ก่อนที่สหภาพโซเวียตจะแตกสลาย
เป็นประเทศเล็กประเทศน้อยในตอนนี้
ในปี 2002 ศพของท่านถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วในที่สุดถูกย้ายไปอยู่ที่ Ivolginsky Datsan
ที่ประทับของ Hambo Lama ในปัจจุบัน
ศพของท่านถูกตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
โดยพระสงฆ์หลายรูป/หลายวัด
และในขณะนี้มีการให้ความสำคัญมากขึ้น
โดยนักวิทยาศาสตร์และนักพยาธิวิทยา
.
.
มีประกาศทางรัฐการเกี่ยวกับศพของท่านว่า
ยังคงสภาพเดิมเป็นอย่างดี
ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ ที่ส่อว่า
จะมีการสลายตัวของกล้ามเนื้อ
เนื้อเยื่อภายใน ข้อต่อ และผิวหนัง
เรื่องที่น่าแปลกใจที่สุด คือ
การที่ศพไม่เคยถูกดองหรือมีลักษณะตายซาก
2 ปีที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้
ศพ Hambo Lama Itigelov
ยังคงวางอยู่ในที่โล่งแจ้ง
เพื่อให้ประชาชนเข้าสักการะหรือเยี่ยมชม
โดยไม่มีระบบการควบคุม อุณหภูมิหรือความชื้น
ส่วนการที่ศพท่าน Hambo Lama Itigelov
ยังรักษาสภาพเช่นนี้ได้ ยังไม่มีใครรู้
ในเดือนเมษายน 2013
ประธานาธิบดี Vladimir Putin ได้ไปที่ Buryatia
เพื่อเยี่ยมชมและสนทนากับบรรดาลามะ ที่นั่น
(พระครูที่สั่งสอนลูกศิษย์ได้จึงจะใช้คำว่าลามะ
หรือมีประวัติว่าเป็นพระภิกษุเวียนว่ายตายเกิด)
.
.
ในขณะที่เรื่องราวทำนองเดียวกันนี้มีอยู่ทั่วโลก
แต่กรณีดังกล่าวมีเอกสารยืนยัน
และการตรวจยืนยันสภาพศพ
ที่แตกต่างจากศพอื่นทั่วโลก
ศพไม่เน่าหรือศพตายซากหรือศพดองยา
มัมมี่ที่เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนทั่วไปว่า
ยังมีอยู่ในหลายประเทศ เช่น
มัมมี่ชิลี (Chinchora) มัมมี่อียิปต์
นักบุญคริสเตียนในอิตาลี
ผู้นำคอมมิวนิสต์ ในรัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ
และศพอื่น ๆ ในหลายประเทศ
ที่ใช้วิธีการดองยาและฉีดศพไม่ให้เน่า
พร้อมกับทำศัลยกรรมตบแต่งให้ดูดีเหมือนเดิม
ส่วนศพที่ถูกค้นพบในชั้นดินเยือกแข็งคงตัว
หรือสภาพแช่แข็งหรือเย็นจัด
เมื่อศพเหล่านี้สัมผัสกับออกซิเจน
ศพจะเสื่อมสภาพภายในไม่กี่ชั่วโมง
.
.
แม้ว่าจะมีรายละเอียดเรื่องนี้
อยู่ในคัมภีร์พุทธศาสนา(ตันตระนิกาย)
แต่ยังไม่เคยมีตัวอย่างยืนยัน
ยกเว้นแต่ตอนนี้ ที่มี ที่นี่ อย่างแน่นอน
2 ปีแล้วหลังจากการขุดศพ
ของ Hambo Lama Itigilov
สภาพศพยังไม่ส่อว่าจะสลายตัว
ไม่มีเชื้อราหรือปัจจัยเชิงลบที่เกิดขึ้นกับศพ
Hambo Lama Itigelov ได้บอกไว้ก่อนตายว่า
ท่านจะมีข้อความให้กับมนุษย์ทุกคนบนโลก
ข้อความนี้ไม่มีตัวอักษร
เป็นเรื่องที่พวกเราจะต้องเข้าใจด้วยตนเอง
.
.
หลวงพ่อปัญญาเทศน์เรื่อง
เผาศพแล้วให้ลอยอังคารในทะเลไปเลย
นึกถึงวันไหนก็ไปที่แม่น้ำลำคลองทะเล
ส่งความรำลึกไปถึงผู้ตาย ไม่ตัองไปที่บัวที่วัด
ท่านบอกเสียเวลา รกวัด เปล่า ๆ
ศพพระภิกษุรัสเซียไม่เน่าตั้งแต่ปี 2470
.
ศพ Hambo Lama Itigelov
ถูกขุดขึ้นเมื่อ 10 กันยายน 2002
จากสุสานรัฐใกล้เมือง Ulan Ude
สาธารณรัฐ Buryat (Buryatia)ในสหพันธ์รัสเซีย
หลังจากท่านมรณภาพและถูกฝังตั้งแต่ปี 1927
การขุดศพขี้นมาครั้งนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการของญาติธรรม เจ้าหน้าที่รัฐ และผู้เชี่ยวชาญ
ข้อมูลที่ปรากฏเผยแพร่ในสื่อมวลชนรัสเซีย
คือ Hambo Lama Itigelov (Lama Buryat)
ถูกขุดศพขึ้นมาจากหลุมฝังศพ
ในตอนต้นศตวรรษที่ 21
ภายในหลุมฝังศพมีหีบศพไม้บรรจุศพอยู่
ในท่านั่งพุทธลามะปัทมะ(ท่านั่งสมาธิดอกบัว)
สภาพศพยังคงรักษาสภาพเดิมไว้ได้
ไม่มีการรักษาศพแบบการดองศพ
หรือทำแบบมัมมี่ หรือเป็นศพแบบตายซาก
ยังคงสภาพกล้ามเนื้อ ผิวหนัง ข้อต่อ รอยพับ
ศพยังห่มคลุมด้วยจีวรผ้าและผ้าไหม
.
.
ที่มา http://russiatrek.org/buryat-republic
.
Hambo Lama Itigelov เป็นพระเถระ
ที่รู้จักกันค่อนข้างดีในประวัติศาสตร์รัสเซีย
ท่านเคยศึกษาใน Anninsky Datsan
(มหาวิทยาลัยพุทธศาสนา Buryatia
ปัจจุบันกลายเป็นซากปรักหักพังแล้ว)
ทั้งยังศึกษาด้านการแพทย์และปรัชญา(สูญญตา) ตลอดจนเขียนสารานุกรมเภสัชวิทยา
ในปี 1911
ท่านได้ดำรงตำแหน่ง Hambo Lama
(ประมุขพุทธศาสนาในรัสเซีย)
ในช่วงระยะเวลาตั้งแต่ปี 1913-1917
ท่านได้เข้าร่วมกิจกรรมสังคมสงเคราะห์
กับพระเจ้าซาร์ที่ 2 (กษัตริย์พระองค์สุดท้าย)
ท่านได้รับนิมนต์ไปร่วมงาน
พระราชพิธี 300 พรรษาราชวงศ์โรมานอฟ
และทำพิธีเปิดวัดพุทธศาสนาแห่งแรก
ในมหานครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
พระเจ้าซาร์ที่ 2 ได้พระราชทานรางวัล
St. Stanislav ให้กับท่าน
ในวันที่ 19 มีนาคม 1917
.
ที่มา http://flickriver.com/photos/apple_min/3301401593/
.
ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
Hambo Lama Itigelov ได้สร้าง
แรงบันดาลใจให้กับประชาชน
และจัดตั้งมูลนิธิ พี่น้อง Buryat
ช่วยกันจัดหาและบริจาค เงิน อาหาร เสื้อผ้า
ยารักษาโรค ให้กองทัพรัสเซียไปรบกับเยอรมัน
ทั้งยังสร้างโรงพยาบาลที่มีพระสงฆ์ที่เป็นแพทย์
ช่วยรักษาพยาบาลทหารที่บาดเจ็บ
ทำให้ท่านได้รับพระราชทานรางวัล
St. Anna และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย
ในปี 1926 Hambo Lama Itigelov
ได้แนะนำให้พระสงฆ์รีบหลบหนีออกจากรัสเซีย
ตั้งแต่เริ่มมีการเรียนการสอนลัทธิสีแดง
แนวคิดตามระบอบของพรรคคอมมิวนิสต์
แต่ Hambo Lama Itigelov ไม่เคยเดินทาง
ออกจากรัสเซียไปไหนอีกเลย
ในปี 1927 ช่วงท่านบวชได้ 75 พรรษา
ท่านได้บอกบรรดาพระภิกษุให้เริ่มต้นนั่งสมาธิ
และท่านได้บอกกับพระภิกษุรูปอื่น ๆ ว่า
ท่านกำลังเตรียมตัวตายในท่านั่งสมาธิ
แต่พระภิกษุต่างไม่ต้องการนั่งสมาธิ
ทั้งนี้เพราะ Hambo Lama Itigelov ยังมีชีวิตอยู่
ดังนั้น ท่านจึงเริ่มต้นนั่งสมาธิด้วยตนเอง
ก่อนที่พระภิกษุท่านอื่นจะมาร่วมนั่งกับท่าน
ต่อมาไม่นานนักท่านก็มรณภาพ
.
ที่มา http://graphicwitness.org/undone/rp21.jpg
.
ท่านเขียนคำสั่งไว้ก่อนตายว่า
ให้ฝังศพท่านในท่านั่งสมาธิปัทมะ
ในโลงศพไม้สนซีดาร์แล้วไปฝังที่ป่าช้าเก่าแก่
พระภิกษุต่างทำตามคำสั่งของท่าน
และท่านยังมีคำสั่งเพิ่มเติมอีกว่า
ขอให้พระภิกษุช่วยขุดศพท่านขึ้นมา
หลังจากฝังศพท่านไปแล้วในอีกหลายปีต่อมา
นี่คือปฐมบทที่น่าตื่นเต้น หมายความว่า
ท่านรู้ล่วงหน้าว่าศพของท่านยังคงสภาพเดิมได้
มีการแอบขุดศพท่านขึ้นมา
ใน 1955 กับในปี 1973 โดยพระภิกษุในวัด
แต่พระภิกษุต่างหวาดกลัวที่จะบอกเรื่องนี้กับ
ชาวบ้านกับทางการให้ทราบถึงเรื่องนี้
ตั้งแต่มีระบอบคอมมิวนิสต์ปกครอง
สหภาพโซเวียตรัสเซียแล้ว
ทำให้ไม่เหลือพื้นที่ใด ๆ ให้กับศาสนาอีก
(รัฐบาลไม่ส่งเสริม/ต่อต้านการนับถือศาสนา
ทุกประเภท ถือว่า ศาสนาคือยาเสพติด)
ก่อนที่สหภาพโซเวียตจะแตกสลาย
เป็นประเทศเล็กประเทศน้อยในตอนนี้
ในปี 2002 ศพของท่านถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง
แล้วในที่สุดถูกย้ายไปอยู่ที่ Ivolginsky Datsan
ที่ประทับของ Hambo Lama ในปัจจุบัน
ศพของท่านถูกตรวจสอบอย่างใกล้ชิด
โดยพระสงฆ์หลายรูป/หลายวัด
และในขณะนี้มีการให้ความสำคัญมากขึ้น
โดยนักวิทยาศาสตร์และนักพยาธิวิทยา
.
.
มีประกาศทางรัฐการเกี่ยวกับศพของท่านว่า
ยังคงสภาพเดิมเป็นอย่างดี
ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณใด ๆ ที่ส่อว่า
จะมีการสลายตัวของกล้ามเนื้อ
เนื้อเยื่อภายใน ข้อต่อ และผิวหนัง
เรื่องที่น่าแปลกใจที่สุด คือ
การที่ศพไม่เคยถูกดองหรือมีลักษณะตายซาก
2 ปีที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้
ศพ Hambo Lama Itigelov
ยังคงวางอยู่ในที่โล่งแจ้ง
เพื่อให้ประชาชนเข้าสักการะหรือเยี่ยมชม
โดยไม่มีระบบการควบคุม อุณหภูมิหรือความชื้น
ส่วนการที่ศพท่าน Hambo Lama Itigelov
ยังรักษาสภาพเช่นนี้ได้ ยังไม่มีใครรู้
ในเดือนเมษายน 2013
ประธานาธิบดี Vladimir Putin ได้ไปที่ Buryatia
เพื่อเยี่ยมชมและสนทนากับบรรดาลามะ ที่นั่น
(พระครูที่สั่งสอนลูกศิษย์ได้จึงจะใช้คำว่าลามะ
หรือมีประวัติว่าเป็นพระภิกษุเวียนว่ายตายเกิด)
.
.
ในขณะที่เรื่องราวทำนองเดียวกันนี้มีอยู่ทั่วโลก
แต่กรณีดังกล่าวมีเอกสารยืนยัน
และการตรวจยืนยันสภาพศพ
ที่แตกต่างจากศพอื่นทั่วโลก
ศพไม่เน่าหรือศพตายซากหรือศพดองยา
มัมมี่ที่เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับคนทั่วไปว่า
ยังมีอยู่ในหลายประเทศ เช่น
มัมมี่ชิลี (Chinchora) มัมมี่อียิปต์
นักบุญคริสเตียนในอิตาลี
ผู้นำคอมมิวนิสต์ ในรัสเซีย จีน เกาหลีเหนือ
และศพอื่น ๆ ในหลายประเทศ
ที่ใช้วิธีการดองยาและฉีดศพไม่ให้เน่า
พร้อมกับทำศัลยกรรมตบแต่งให้ดูดีเหมือนเดิม
ส่วนศพที่ถูกค้นพบในชั้นดินเยือกแข็งคงตัว
หรือสภาพแช่แข็งหรือเย็นจัด
เมื่อศพเหล่านี้สัมผัสกับออกซิเจน
ศพจะเสื่อมสภาพภายในไม่กี่ชั่วโมง
.
.
แม้ว่าจะมีรายละเอียดเรื่องนี้
อยู่ในคัมภีร์พุทธศาสนา(ตันตระนิกาย)
แต่ยังไม่เคยมีตัวอย่างยืนยัน
ยกเว้นแต่ตอนนี้ ที่มี ที่นี่ อย่างแน่นอน
2 ปีแล้วหลังจากการขุดศพ
ของ Hambo Lama Itigilov
สภาพศพยังไม่ส่อว่าจะสลายตัว
ไม่มีเชื้อราหรือปัจจัยเชิงลบที่เกิดขึ้นกับศพ
Hambo Lama Itigelov ได้บอกไว้ก่อนตายว่า
ท่านจะมีข้อความให้กับมนุษย์ทุกคนบนโลก
ข้อความนี้ไม่มีตัวอักษร
เป็นเรื่องที่พวกเราจะต้องเข้าใจด้วยตนเอง
.
.
.
ทุกชีวิตเป็นเช่นนั้นเอง
หลวงพ่อปัญญาเทศน์เรื่อง
เผาศพแล้วให้ลอยอังคารในทะเลไปเลย
นึกถึงวันไหนก็ไปที่แม่น้ำลำคลองทะเล
ส่งความรำลึกไปถึงผู้ตาย ไม่ตัองไปที่บัวที่วัด
ท่านบอกเสียเวลา รกวัด เปล่า ๆ