ร่างของพระเทสึมงไค มัมมี่พระ
ซุนาดา เทสึ เกิดเมื่อปี 1768 ในยุคของโทคุงาวะ อิเอฮารุ โชกุนคนที่ 10 ของตระกูลโทคุงาวะ บรรพบุรุษเคยเป็นซามูไร แต่พ่อแม่ของเขากลับกลายเป็นชาวนายากจน พ่อแม่ของเขาตั้งชื่อว่า "เทสึ" (เหล็ก) หวังจะให้มีความแข็งแกร่งในอนาคต
เมื่อเทสึอายุได้ 25 ปี เขาฆ่าซามูไร 2 คนไป ว่ากันว่าเขาเห็น 2 ซามูไรนั้นซึ่งถูกมอบหมายให้ควบคุมสถานการณ์น้ำท่วมกำลังเมา และเขากล่าวหาว่าพวกเขาละเลยหน้าที่ ทำให้เกิดโทสะขึ้นและจะชักดาบฆ่าเขา เทสึปกป้องตัวเองและใช้เคียวฆ่าพวกเขาตาย อย่างไรก็ตาม บ้างก็ว่าเขาขัดแย้งกันเรื่องโสเภณี ซึ่งเขาแอบชอบพออยู่ ทำให้เขาลงมือฆ่าซามูไร 2 คนนั้นด้วยมือเปล่า
ภาพวาดจำลองเหตุการณ์พระเทสึมงไค มอบอวัยวะเพศของตนให้กับอดีตคนรัก
ภาพการ์ตูนจำลองเหตุการณ์พระเทสึมงไคควักลูกตาของตนเอง
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เทสึได้หนีมาที่เมืองยูโดโนะเพื่อหลบหนีการจับกุมจากทางการ และเข้าบวชที่วัดชูเร็ง ทำการอุทิศส่วนกุศลให้กับซามูไร 2 คนที่เขาฆ่าตายไป และฝึกทรมานร่างกาย เช่นปืนขึ้นและลงจากภูเขาทุกวัน อาบน้ำเย็นในฤดูหนาว ขณะนั้นเอง โสเภณีซึ่งเคยรักกันกับเขาก็ได้เข้ามาพบกับเขาและร้องไห้พลางตัดพ้อว่าทำไมถึงต้องจากเธอไปและไม่คิดกลับมา และต้องการอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงไม่รักเธอ เขาตอบไปว่าเขายังรักเธอ แต่ชีวิตเขาได้อุทิศให้กับศาสนาแล้ว เธอไม่เชื่อใจ เขาจึงบอกไปว่า "รอสักครู่"
เขาตัดสินใจใช้มีดตัดอวัยวะเพศของตนเอง แล้วนำมันใส่ห่อ มอบให้กับเธอ!
อนิจจา โสเภณีผู้น่าสงสาร เมื่อเทสึมงไคได้นำความเป็นชายมอบให้กับเธอ เธอก็แทบจะเสียสติขึ้นอย่างฉับพลัน เทสึมงไคกล่าวว่า "ลืมอาตมาเสียเถอะ ไปเสีย และไม่ต้องกลับมาอีก" โสเภณีผู้นั้นถือความเป็นชายของพระออกไปจากวัดทั้งน้ำตา
การขุดหลุมฝังตนเองของผู้ที่จะเป็นมัมมี่พระ
หลังจากนั้นแล้ว พระเทสึมงไค ก็ยังฝึกฝนตัวเองหนักขึ้นและประกอบกิจเพื่อสังคมอยู่เป็นนิจ สมัยหนึ่งเมื่อได้มาธุดงค์ที่เอโดะ โรคระบาดเกี่ยวกับดวงตาเกิดขึ้นทั่วเอโดะ เทสึมงไคได้อุทิศด้วยการควักตาข้างซ้ายของตัวเองและขว้างทิ้งลงแม่น้ำซุมิดะ เพื่ออธิษฐานให้คนทั่วเอโดะหายจากโรคระบาดนี้
หลายสิบปีต่อมา พระเทสึมงไค ตัดสินใจขุดหลุมฝังตัวเองไว้ทั้งเป็นและทำตนเองเป็นมัมมี่พระ นัยว่าต้องการพบกับพระพุทธเจ้าองค์ที่อุบัติขึ้นในอนาคต เขากล่าวว่า "ตราบเท่าที่ร่างอาตมายังอยู่ แม้ร่างกายจะเหลือเพียงแค่กระดูก ก็จะขออดเพื่อมนุษยชาติ แต่ถ้าต้องตายและไม่สามารถอดเพื่อมนุษยชาติได้ ก็ขอทิ้งร่างกายนี้ไว้และเป็นโซกุชินบุซึ (คือเป็นมัมมี่พระ)" หลังจากนั้นจึงขุดหลุมฝังตัวเองไว้ และติดกระดิ่งสั่นไว้ หากยังมีลมหายใจ จะสั่นให้เห็นทุกวัน แต่หากไม่มีแล้ว กระดิ่งจะไม่สั่นอีกเลย และได้ทำการปฏิบัติตนเองให้เป็นมัมมี่พระ เช่น ดื่มชาที่สามารถทำให้ร่างกายคงสภาพได้ หรือการทรมานร่างกาย
เมื่อพระเทสึมงไคมรณภาพ ได้นำร่างกายตกแต่งเป็นพระชั้นสูง ให้ถือว่าเป็นพระอรหันต์ และนำไว้ให้กราบไหว้ ณ วัดชูเร็น จนถึงทุกวันนี้
เทสึมงไค ตำนานพระกับโสเภณี และการเป็นมัมมี่พระ
ซุนาดา เทสึ เกิดเมื่อปี 1768 ในยุคของโทคุงาวะ อิเอฮารุ โชกุนคนที่ 10 ของตระกูลโทคุงาวะ บรรพบุรุษเคยเป็นซามูไร แต่พ่อแม่ของเขากลับกลายเป็นชาวนายากจน พ่อแม่ของเขาตั้งชื่อว่า "เทสึ" (เหล็ก) หวังจะให้มีความแข็งแกร่งในอนาคต
เมื่อเทสึอายุได้ 25 ปี เขาฆ่าซามูไร 2 คนไป ว่ากันว่าเขาเห็น 2 ซามูไรนั้นซึ่งถูกมอบหมายให้ควบคุมสถานการณ์น้ำท่วมกำลังเมา และเขากล่าวหาว่าพวกเขาละเลยหน้าที่ ทำให้เกิดโทสะขึ้นและจะชักดาบฆ่าเขา เทสึปกป้องตัวเองและใช้เคียวฆ่าพวกเขาตาย อย่างไรก็ตาม บ้างก็ว่าเขาขัดแย้งกันเรื่องโสเภณี ซึ่งเขาแอบชอบพออยู่ ทำให้เขาลงมือฆ่าซามูไร 2 คนนั้นด้วยมือเปล่า
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เทสึได้หนีมาที่เมืองยูโดโนะเพื่อหลบหนีการจับกุมจากทางการ และเข้าบวชที่วัดชูเร็ง ทำการอุทิศส่วนกุศลให้กับซามูไร 2 คนที่เขาฆ่าตายไป และฝึกทรมานร่างกาย เช่นปืนขึ้นและลงจากภูเขาทุกวัน อาบน้ำเย็นในฤดูหนาว ขณะนั้นเอง โสเภณีซึ่งเคยรักกันกับเขาก็ได้เข้ามาพบกับเขาและร้องไห้พลางตัดพ้อว่าทำไมถึงต้องจากเธอไปและไม่คิดกลับมา และต้องการอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงไม่รักเธอ เขาตอบไปว่าเขายังรักเธอ แต่ชีวิตเขาได้อุทิศให้กับศาสนาแล้ว เธอไม่เชื่อใจ เขาจึงบอกไปว่า "รอสักครู่" เขาตัดสินใจใช้มีดตัดอวัยวะเพศของตนเอง แล้วนำมันใส่ห่อ มอบให้กับเธอ!
อนิจจา โสเภณีผู้น่าสงสาร เมื่อเทสึมงไคได้นำความเป็นชายมอบให้กับเธอ เธอก็แทบจะเสียสติขึ้นอย่างฉับพลัน เทสึมงไคกล่าวว่า "ลืมอาตมาเสียเถอะ ไปเสีย และไม่ต้องกลับมาอีก" โสเภณีผู้นั้นถือความเป็นชายของพระออกไปจากวัดทั้งน้ำตา
หลังจากนั้นแล้ว พระเทสึมงไค ก็ยังฝึกฝนตัวเองหนักขึ้นและประกอบกิจเพื่อสังคมอยู่เป็นนิจ สมัยหนึ่งเมื่อได้มาธุดงค์ที่เอโดะ โรคระบาดเกี่ยวกับดวงตาเกิดขึ้นทั่วเอโดะ เทสึมงไคได้อุทิศด้วยการควักตาข้างซ้ายของตัวเองและขว้างทิ้งลงแม่น้ำซุมิดะ เพื่ออธิษฐานให้คนทั่วเอโดะหายจากโรคระบาดนี้
หลายสิบปีต่อมา พระเทสึมงไค ตัดสินใจขุดหลุมฝังตัวเองไว้ทั้งเป็นและทำตนเองเป็นมัมมี่พระ นัยว่าต้องการพบกับพระพุทธเจ้าองค์ที่อุบัติขึ้นในอนาคต เขากล่าวว่า "ตราบเท่าที่ร่างอาตมายังอยู่ แม้ร่างกายจะเหลือเพียงแค่กระดูก ก็จะขออดเพื่อมนุษยชาติ แต่ถ้าต้องตายและไม่สามารถอดเพื่อมนุษยชาติได้ ก็ขอทิ้งร่างกายนี้ไว้และเป็นโซกุชินบุซึ (คือเป็นมัมมี่พระ)" หลังจากนั้นจึงขุดหลุมฝังตัวเองไว้ และติดกระดิ่งสั่นไว้ หากยังมีลมหายใจ จะสั่นให้เห็นทุกวัน แต่หากไม่มีแล้ว กระดิ่งจะไม่สั่นอีกเลย และได้ทำการปฏิบัติตนเองให้เป็นมัมมี่พระ เช่น ดื่มชาที่สามารถทำให้ร่างกายคงสภาพได้ หรือการทรมานร่างกาย
เมื่อพระเทสึมงไคมรณภาพ ได้นำร่างกายตกแต่งเป็นพระชั้นสูง ให้ถือว่าเป็นพระอรหันต์ และนำไว้ให้กราบไหว้ ณ วัดชูเร็น จนถึงทุกวันนี้