ปกติเราจะเห็นงั่งจันทร์เสี้ยวเป็นตาทองแดง แต่งั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้เป็นแบบตาโปนครับ ซึ่งแปลกมาก
องค์นี้สืบย้อนกลับไปได้ประมาณ 20 ปี โดยประวัติคร่าวๆมีดังนี้
งั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้เดิมทีอยู่กับเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี โดยงั่งจันทร์เสี้ยวได้เปลี่ยนมือมาอยู่กับลุงคนนึงซึ่งในตอนนั้นเป็นช่างทำสีอยู่ในอู่ซ่อมรถ ด้วยความที่ลุงรู้จักกับเขาอาวาสจึงได้ทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน และแกก็เก็บงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้ไว้ใช้งานติดตัวมาตลอด ซึ่งในตอนนั้น (ตอนที่ลุงได้งงั่งมา) ก็มีพระรูปนึง (ผมเรียกว่าหลวงพี่) ซึ่งตอนนั้นอายุประมาณ 18 ปี
เห็นงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้แล้วเกิดชอบ ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นอะไร ดูแล้วเหมือนตั๊กแตน ลุงเลยเล่าให้ฟังว่าเป็นพระงั่ง ได้มาจากเจ้าอาวาสวัด เป็นของดีใช้แล้วมีประสบการณ์หลายเรื่อง ทั้งด้านสเน่ห์ แคล้วคลาด ลุงเล่าว่าเคยพกติดตัวใช้งานแล้วเดินเข้าป่าไปหาของ เจอรังแตนแตกใส่ แต่ก็ไม่ได้โดนต่อยและไม่ได้รับบาดเจ็บ
หลังจากที่หลวงพี่ได้เห็นงั่งจันทร์เสี้ยวและได้สอบถามประวัติและที่มาแล้วจึงเกิดชอบและอยากได้ จึงคอยเทียวไปเทียวมาเพื่อของั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้จากลุง โดยที่ลุงก็ไม่ยอมแบ่งให้เพราะว่าหวง และลุงพกใช้ติดตัวมานานตั้งแต่เป็นฆราวาสจนลุงมาบวชเป็นพระในภายหลัง หลังจากผ่านมาประมาณ 14 ปี หลวงพี่ที่คอยไปเยี่ยมขอแบ่งงั่งจันทร์เสี้ยวจากหลวงลุง ก็ได้งั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้มาครอบครองโดยหลวงลุงแบ่งมาให้ (เพราะตามมานานมากตั้งแต่เป็นหนุ่ม) และเมื่อหลวงพี่ได้งั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้มาใช้ประมาณ 4 ปี ก็ได้แบ่งงั่งจันทร์เสี้ยวตาโปนองค์นี้มาให้อาจารย์เจียม
ช่วงปี พ.ศ. 2566 ตอนอาจารย์เจียมได้งั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้มาใหม่ๆ ได้โทรมาเล่าให้ผมฟังเพราะว่าตื่นเต้น เนื่องจากงั่งจันทร์เสี้ยวเป็นของหายาก ยิ่งเป็นงั่งจันทร์เสี้ยวตาโปนแล้ว ก็ยังไม่เคยเห็นว่ามีปรากฏ
พอผมมีโอกาสไปหาอาจารย์ ผมก็ได้แต่จับและส่องดูโดยไม่ได้มีความอยากได้หรือคิดอะไรมาก เพราะรู้อยู่ครับว่าเป็นของหายากและก็ไม่คิดที่จะขอแบ่งหรือขอเช่าจากอาจารย์เจียม แต่ผมแอบหวังอยู่ในใจว่า
"ซักวันนึงจะมีโอกาสได้ครอบครองงั่งจันทร์เสี้ยวแบบนี้บ้าง"
จนมาถึงวันนี้ครับ ผมได้งั่งจันทร์เสี้ยวทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่มาใช้งาน ถือเป็นความโชคดีครับ
หากใช้แล้วเจอประสบการณ์อะไรดีๆ จะมาแชร์ให้ฟังครับ
งั่งจันทร์เสี้ยวตาโปน (องค์ที่ 3 ในวงการ)
องค์นี้สืบย้อนกลับไปได้ประมาณ 20 ปี โดยประวัติคร่าวๆมีดังนี้
งั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้เดิมทีอยู่กับเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี โดยงั่งจันทร์เสี้ยวได้เปลี่ยนมือมาอยู่กับลุงคนนึงซึ่งในตอนนั้นเป็นช่างทำสีอยู่ในอู่ซ่อมรถ ด้วยความที่ลุงรู้จักกับเขาอาวาสจึงได้ทำการแลกเปลี่ยนซื้อขายกัน และแกก็เก็บงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้ไว้ใช้งานติดตัวมาตลอด ซึ่งในตอนนั้น (ตอนที่ลุงได้งงั่งมา) ก็มีพระรูปนึง (ผมเรียกว่าหลวงพี่) ซึ่งตอนนั้นอายุประมาณ 18 ปี
เห็นงั่งจันทร์เสี้ยวองค์นี้แล้วเกิดชอบ ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นอะไร ดูแล้วเหมือนตั๊กแตน ลุงเลยเล่าให้ฟังว่าเป็นพระงั่ง ได้มาจากเจ้าอาวาสวัด เป็นของดีใช้แล้วมีประสบการณ์หลายเรื่อง ทั้งด้านสเน่ห์ แคล้วคลาด ลุงเล่าว่าเคยพกติดตัวใช้งานแล้วเดินเข้าป่าไปหาของ เจอรังแตนแตกใส่ แต่ก็ไม่ได้โดนต่อยและไม่ได้รับบาดเจ็บ
พอผมมีโอกาสไปหาอาจารย์ ผมก็ได้แต่จับและส่องดูโดยไม่ได้มีความอยากได้หรือคิดอะไรมาก เพราะรู้อยู่ครับว่าเป็นของหายากและก็ไม่คิดที่จะขอแบ่งหรือขอเช่าจากอาจารย์เจียม แต่ผมแอบหวังอยู่ในใจว่า
หากใช้แล้วเจอประสบการณ์อะไรดีๆ จะมาแชร์ให้ฟังครับ