ในอนาคต ธุรกิจประกันสุขภาพจะเติบโต หรือตีบตัน

ตามนี้เลยค่ะ 

เรามานึก ๆ ดูเอาเองนะคะว่า 
แนวทางของธุรกิจประกันสุขภาพ 
เหมือนเลี้ยงปลาในอ่างน้ำเลยค่ะ
ปลาที่เค้าเลือก ก็เลือกแต่ปลาดี ๆ 
ปลาไหนพอเริ่มป่วย ก็คัดออก 
มีตำหนิ ก็ไม่เอาเข้ามา

แต่ .. ในปัจจุบันนี้ สุขภาพร่างกายของคนเรา มีโอกาสที่จะเกิดโรคแทรกซ้อน โรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ง่าย และเร็วขึ้นแม้ในอายุน้อย ๆ 
ส่วนหนึ่งที่เราพอจะเห็นได้ ก็มาจาก..
พฤติกรรมการบริโภค สิ่งแวดล้อมที่อาจเป็นตัวกระตุ้น การดูแลรักษาสุขภาพ หน้าที่การงาน  ลักษณะกายวิภาคของแต่ละบุคคล ฯลฯ
.
โดยทั่วไปแล้ว พอเราทำงาน มีเงิน-รายได้มั่นคง เราก็อยากนำเงินส่วนหนึ่ง
ไปใช้เป็นหลักประกันเผื่อไว้ในอนาคต หากต้องเจ็บป่วย
เราจะได้มีการรักษาพยาบาลที่ดีไว้รองรับ และซื้อความสะดวกสบายไปด้วย

ปลาก็อยากหาแหล่งน้ำดี ๆ อยู่อาศัย

แต่ไม่ใช่ว่า จะมีเงินแล้วลงบ่อได้นะ ปลาก็ต้องแข็งแรง สมบูรณ์ และเพอร์เฟ็คไปซะทุกอย่าง 

เวิ้นมาซะเยอะ แต่ทำให้เราคิดไปเรื่อยว่า 
แล้ว สมมตินะ ว่า ธุรกิจฯ นี้ ยังมีเกณฑ์การรับเข้าของลูกค้าเหมือนเดิม 
ทั้ง ๆ ที่ สุขภาพของคนเรา ในวัยทำงาน หรือพร้อมจะจ่าย ไม่ได้สมบูรณ์ 100%
ส่วนคนที่เคยซื้อประกันสุขภาพไว้ ร่างกายก็ย่อมเปลี่ยนไปตามเวลา 
แล้วโอกาสธุรกิจ มีแนวโน้มจะเติบโตต่อไปไหมคะ

ป.ล.ไม่มีเจตนาก้าวล่วงผู้มีอาชีพหรือเป็นตัวแทนประกันสุขภาพนะคะ
เราก็ส่งประกันสุขภาพให้คุณแม่อยู่ค่ะ แต่พอจะทำให้ตัวเอง ทำไม่ได้ซะงั้น 555+
เราเข้าใจในเกณฑ์ของทางบริษัทเค้านะ ดังนั้นเราก็คิดเสียว่า 
เราก็เอาเงินที่ต้องไปจ่ายให้เค้าปีละ สามหมื่นกว่านี้
ไปซื้ออะไรมาบำรุงตัวเองสิ !!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่