วัฒนธรรม




“จีนเหนือกินบะหมี่ จีนใต้กินข้าว” วลีนี้มาจากอะไร ทำไมคนจีนกินต่างกัน?

“จีนเหนือกินบะหมี่ จีนใต้กินข้าว” เป็นวลีที่หลายคนอาจเคยได้ยินมาบ้าง คำพูดนี้นอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงการกินอาหารที่แตกต่างกันในพื้นที่อันกว้างใหญ่ของจีนแล้ว ยังสะท้อนถึงภูมิศาสตร์ที่แตกต่าง รวมถึงวิถีชีวิต สังคม ของคนที่อยู่ในจีนเหนือและใต้อีกด้วย

คนจีนจะเรียกจีนเหนือว่า “เป่ยฟาง” (北方) ส่วนทางใต้จะเรียกว่า “หนานฟาง” (南方) ทั้งสองพื้นที่นี้แบ่งเขตกันด้วยเส้นแบ่งฉินหลิ่งหวยเหอ ซึ่งเป็นเขตแดนที่ประกอบด้วย เทือกเขาฉินหลิ่งและแม่น้ำหวยเหอ
จีนเหนือ ประกอบด้วย มณฑลหรือเมืองที่อยู่เหนือเส้นนี้ขึ้นไป เช่น ปักกิ่ง เหลียวหลิน เทียนจิน ส่วนจีนใต้ ก็จะอยู่ใต้เส้นเขตแดนดังกล่าว เช่น เซี่ยงไฮ้ ฝูเจี้ยน กว่างตง

เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้วิถีชีวิตของคนที่นี่แตกต่างกัน ภูมิอากาศทางเหนือจะหนาวเย็นและแห้ง ส่งผลต่อการเกษตรที่จะปลูกข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ธัญพืช เป็นส่วนใหญ่ อาหารการกินจึงมาจากผลผลิตเหล่านี้ ประกอบด้วยแป้งนำมาทำเป็นเส้นหรือแผ่น 

ส่วนทางใต้ อากาศจะค่อนข้างชื้นและอบอุ่นกว่า เต็มไปด้วยทรัพยากรน้ำ คนที่นี่จึงปลูกข้าวเป็นส่วนใหญ่ ทำให้คนทางใต้นิยมกินข้าว และด้วยติดทะเล คนจึงทำอาชีพประมงหรือเดินเรือ ซึ่งข้าวก็เหมาะกับการพกพาไปไหนสะดวก ปั้นเป็นก้อนก็นำขึ้นเรือไปด้วยได้เลยทันที กินง่ายกว่าเมื่อเทียบกับบะหมี่ที่มีน้ำและร้อน

วลี “จีนเหนือกินบะหมี่ จีนใต้กินข้าว” จึงสะท้อนให้เห็นความแตกต่างและเอกลักษณ์ของคนจีนในแต่ละพื้นที่ ท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของแดนมังกร.

ขอบคุณภาพ และข่าวจาก

ศิลปวัฒนธรรม

https://www.silpa-mag.com/culture/article_149101