JJNY : อังคณาโพสต์หมายเรียก กกต.│รอมฎอน จับตารัฐบาลส่งอุยกูร์กลับจีน│กัณวีร์จับตาส่ง 48 อุยกูร์กลับจีน│สภาพอากาศวันนี้

อังคณา โพสต์หมายเรียกกกต. ชี้ 7 เดือน เจอร้องเพิ่งไต่สวน ทั้งที่เปิดกูเกิลข้อมูลเพียบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5067758

อังคณา โพสต์หมายกกต. ชี้ 7 เดือน เจอร้องเพิ่งถูกเรียกไต่สวน ทั้งๆที่เปิดกูเกิลข้อมูลเพียบ สงสัยคดีฮั้วสว. ยากกว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน ? 
 
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 อังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กหมายเรียก จากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลังถูกร้องเรียนได้รับเลือกให้เป็นส.ว. ถึงคุณสมบัติในการทำงานภาคประชาสังคม โดยมีเนื้อหาดังนี้
 
เรื่อง #ฮั้วส.ว. อาจต้องถามถึงความล่าช้าในการทำงานของกกต. ส่วนตัวเพิ่งได้รับหมายเรียกไปพบกรรมการไต่สวน และสอบสวนกกต. เรื่องมีคนร้องว่า ทำงานภาคประชาสังคมมาไม่ถึง 10 ปี นี่ก็ไปพบในฐานะพลเมืองที่มีหน้าที่ แต่มีคำถามถึง กกต. คือ
 
1. ทำไมต้องออกหมายเรียกทั้งที่ยังอยู่สมัยประชุม แถมเป็นวันประชุมวุฒิสภาด้วย
2. เรื่องทำงานมากี่ปีแค่ค้นใน google ก็เจอข้อมูลเพียบ ทำไมต้องให้เสียเวลาประชุมไปให้การด้วยตัวเอง
 
มีข้อสังเกต คือ แค่ข้อร้องเรียนว่าทำงานมากี่ปี กกต. ใช้เวลาร่วม 7 เดือนกว่าจะเรียกมาสืบสวนไต่สวนข้อเท็จจริง แล้วแบบนี้กรณี ส.ว.อื่นๆ ที่ข้อร้องเรียนมีความซับซ้อนกว่านี้ จะใช้เวลานานเท่าไหร่ แล้วจะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการ กกต. เพื่อพิจารณาตัดสินการร้องเรียน ส.ว.
ทั้ง 200 คน และเผยแพร่ต่อสาธารณะ เรื่องนี้ กกต. ควรออกมาแถลงให้สาธารณะชนทราบ ถึงเหตุความล่าช้า เพราะเรื่องเลือก ส.ว. เป็นที่คลางแคลงใจอย่างมากของประชาชน เพราะหากมีการฮั้วจริง ถือเป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายรากฐานที่สำคัญของระบอบประชาธิปไตย เพราะ ส.ว.ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ และมีหน้าที่พิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติองค์กรอิสระ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานต่างๆของรัฐ ป้องกันการทุจริต และคุ้มครองประชาชนให้มีความเท่าเทียม เป็นธรรมและไม่ถูกเลือกปฏิบัติ
 
ส่วนตัวมองว่า การตรวจสอบการคัดเลือก ส.ว.ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (กรณีอั้งยี่) หรือ กกต. (ทุจริตเลือกตั้ง) จะเป็นการพิสูจน์ข้อครหาถึงความชอบธรรมเกี่ยวกับที่มาของ ส.ว. และจะเป็นการคืนศักดิ์ศรีให้ ส.ว. ทุกคนที่เข้ามาโดยอิสระ และชอบธรรม ปราศจากการฮั้ว หรืออยู่ภายใต้กลุ่มอิทธิพลใดๆ ทั้งนี้ ไม่เห็นด้วยกับการที่ ส.ว. บางคนจะเปิดอภิปรายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หรือการเรียกมาสอบใน กมธ. หรือฟ้องร้องดำเนินคดี เพราะเห็นว่า เป็นการตอบโต้หรือแก้แค้น หรืออาจถูกมองว่า เป็นการกระทำเพื่อปิดปาก หรือปิดกั้นการเปิดเผยข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์สาธารณะ สุดท้ายประชาชนคงต้องติดตามว่าเรื่อง #ฮั้วส.ว. ว่าจะจบลงอย่างไร จะสามารถเปิดเผยความจริง นำคนผิดมาลงโทษ หรือจะจบลงโดยการฮั้วของพรรคการเมืองและนักการเมือง โดยทิ้งความคลางแคลงใจต่อการได้มาของ ส.ว. ต่อไป

https://www.facebook.com/angkhana.nee/posts/pfbid02wbJQUvzr2JrRaZod8PdizBizBNGAkex8qNSZUBVwShkme8TdFmC2wdSYpA5NHl
 


รอมฎอน จับตารัฐบาลส่งอุยกูร์กลับจีน โพสต์คลิป มีรถถอยเข้าสถานกักกันฯ สวนพลู
https://www.matichon.co.th/politics/news_5068064

รอมฎอน จับตารัฐบาลส่งอุยกูร์กลับจีน พร้อมโพสต์คลิป รถขนผู้ต้องกักขัง ถอยเข้าสถานกักกันคนต่างด้าว สวนพลู 
 
จากกรณีมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลไทยเตรียมส่งชาวอุยกูร์ 48 คนกลับประเทศจีน พร้อมกับที่ทางการจีนจะส่งเครื่องบินมารับคนจีนในแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ ขณะที่บางสำนักข่าวรายงานว่าชาวอุยกูร์ทั้ง 48 คน ขาดการติดต่อตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และยังไม่ให้เจ้าหน้าที่จาก UNHCR เข้าไปด้านในของสถานกักกันคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สวนพลู)ด้วยนั้น
 
ล่าสุดเมื่อเวลา 20.05 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายรอมฎอน ปันจอร์ ส.ส.พรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน X ระบุว่า 

20.05 น. รถขนผู้ต้องกักขนาดความจุคนได้หลายสิบคนกำลังถอยเข้าสถานกักกันคนต่างด้าว สวนพลู ระหว่างที่เรากำลังจับตาดูว่ารัฐบาลไทย จะส่งกลับ อุยกูร์ ไปจีนหรือไม่

https://x.com/romadonity/status/1894738033087508928



กัณวีร์ เปิดภาพรถติดเทปดำ 6 คันออกจาก ตม.สวนพลู จับตารัฐไทยส่ง 48 อุยกูร์ กลับจีน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5068180

อุยกูร์ – จากกรณีมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลไทยเตรียมส่งชาวอุยกูร์ 48 คนกลับประเทศจีน พร้อมกับที่ทางการจีนจะส่งเครื่องบินมารับคนจีนในแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ ระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ ขณะที่บางสำนักข่าวรายงานว่าชาวอุยกูร์ทั้ง 48 คน ขาดการติดต่อตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา และยังไม่ให้เจ้าหน้าที่จาก UNHCR เข้าไปด้านในของสถานกักกันคนต่างด้าว สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สวนพลู) ด้วยนั้น
 
ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายกัณวีร์ สืบแสง​ ส.ส.​บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า 

ด่วนครับ !! มีรถบรรทุกของ ตม.ต้องสงสัยว่าจะขนชาวอุยกูร์ 48 คน ออกจากสำนักงาน ตม.สวนพลู เมื่อเวลา 02.14 น. ที่ผ่านมา มีการติดเทปดำทั้งคัน จำนวน 6 คัน มีรถตำรวจตามขบวน และปิดกั้นไม่ให้ขึ้นทางด่วนตาม

ท่านใดพบเห็นรถลักษณะนี้ แจ้งด้วยนะครับเพราะขณะนี้ยังไม่พบว่ากลับเข้าไปในสำนักงาน ตม.และผิดปกติ เพราะรถขนผู้ต้องกัก ปกติจะไม่ติดเทปดำมืดสนิทแบบนี้
 
รัฐบาลไทยกำลังทำอะไร นายกรัฐมนตรี ต้องตอบประชาชนอย่างเร่งด่วนนะครับ จะต้องไม่มีการส่งกลับชาวอุยกูร์ไปสู่การประหัตประหาร พวกเขาถูกขังฟรีมา 11 ปีแล้ว เราะละเมิดสิทธิมนุษยชนเขามากพอแล้ว สามารถมีแนวทางแก้ปัญหาที่ดีกว่านี้ครับ
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เอเอฟพี รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทยว่า ไทยปฏิเสธว่าไม่มีแผนที่จะส่งตัวชาวอุยกูร์ 48 คนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในศูนย์กักขังของไทยกลับประเทศจีน ทั้งนี้ หน่วยงานที่ตัดสินใจคือสภาความมั่นคงแห่งชาติ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งให้ส่งตัวพวกเขากลับจีนแต่อย่างใด
 
เช่นเดียวกับที่ พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ยืนยันก่อนหน้านี้ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองยังไม่ได้ได้รับรายงานใดๆ เกี่ยวกับการเนรเทศบุคคลเหล่านี้
 
ด้าน กระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับชาวอุยกูร์ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในไทยระหว่างการแถลงข่าวว่า พวกเขาไม่ทราบถึงประเด็นใดเป็นการเฉพาะเจาะจง แต่จีนทำการปราบปรามการอพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในทุกรูปแบบอย่างเด็ดขาด และคัดค้านการผ่อนปรนใดๆ รวมถึงไม่สนับสนุนพฤติกรรมการอพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

ฮิวแมนไรท์วอทช์ ได้เปิดเผยว่า กลุ่มชายชาวอุยกูร์ 48 คนได้ถูกกักตัวเป็นเวลานานกว่าทศวรรษในสถานกักตัวคนต่างด้าวของ ประเทศไทย พวกเขาเสี่ยงจะตกเป็นเหยื่อของการบังคับให้สูญหาย การถูกคุมขังเป็นเวลานาน การทรมาน และการปฏิบัติมิชอบที่ร้ายแรงอย่างอื่น หากประเทศไทยบังคับส่งกลับพวกเขาไป ประเทศจีน
 
อีเลน เพียร์สัน ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย ฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไทยที่ผ่านมากักตัวชาวอุยกูร์ในสภาพที่ขาดมนุษยธรรม แต่ก็ได้รับแรงกดดันจากรัฐบาลจีนให้ส่งตัวพวกเขาไปประเทศจีน ทว่ารัฐบาลไทยภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร สามารถยุติวัฏจักรที่มิชอบเช่นนี้ได้ โดยการปล่อยตัวชาวอุยกูร์ที่ถูกกักตัวเหล่านี้ทันที และอนุญาตให้พวกเขาเดินทางไปอาศัยอยู่ในประเทศที่สามอย่างปลอดภัย
 
ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม 2557 ตำรวจที่จังหวัดสงขลา ใกล้กับพรมแดนประเทศมาเลเซีย ได้จับกุมชาวอุยกูร์ 220 คน รวมทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก และดำเนินคดีฐานเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และต่อมาได้ส่งตัวพวกเขาไปยังสถานกักตัวคนต่างด้าวในกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาเดียวกัน ทางการไทยยังได้จับกุมตัวชาวอุยกูร์คนอื่น ๆ อีกหลายสิบคน และนำตัวไปไว้ที่สถานกักตัวคนต่างด้าวทั่วประเทศ ในเดือนกรกฎาคม 2558 ผู้หญิงและเด็กชาวอุยกูร์ประมาณ 170 คนซึ่งถูกกักตัวที่จังหวัดสงขลา ได้รับการปล่อยตัวและเดินทางไปประเทศตุรกีแต่อีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมา ทางการไทยกลับ บังคับส่งตัวชายชาวอุยกูร์กว่า 100 คนไปให้ทางการจีน โดยเดินทางด้วยเครื่องบินไปประเทศจีน
 
ชาวอุยกูร์ 48 คนที่ยังคงถูกกักตัว ได้ถูกควบคุมตัวมาแล้วกว่า 10 ปี ในสภาพที่เลวร้าย ขาดสุขอนามัยและขาดการรักษาพยาบาลที่เพียงพอภายใต้ ความหวาดกลัวอย่างต่อเนื่องว่าอาจถูกส่งตัวไปให้ทางการจีนควบคุมตัวชาวอุยกูร์ห้าคนที่ถูกกักตัวตั้งแต่ปี 2557 เสียชีวิตระหว่างการควบคุมตัว รวมทั้งเด็กแรกเกิดและเด็กอายุสามขวบอีกคนหนึ่ง
 
ในจดหมายซึ่งสื่อมวลชนได้รับมาจากผู้ต้องกัก 48 คนลงวันที่ 10 มกราคม 2568 กลุ่มชาวอุยกูร์กล่าวว่า “เราอาจถูกคุมขัง และเราอาจจะต้องเสียชีวิต เราขอวิงวอนอย่างเร่งด่วนต่อหน่วยงานระหว่างประเทศและประเทศที่ใส่ใจต่อสิทธิมนุษยชน ให้ทำการแทรกแซงอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือพวกเราให้รอดพ้นจากชะตากรรมอันเลวร้าย ก่อนจะสายเกินไป” พวกเขาอยู่ระหว่างการอดอาหารประท้วง
 
สำหรับ ชาวอุยกูร์ เป็นชาวมุสลิมที่พูดภาษาเตอร์กิก ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน รัฐบาลจีน มีท่าทีต่อต้านมาเป็นเวลานาน ต่อการแสดงออกตามอัตลักษณ์ของชาวอุยกูร์ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การปราบปรามของจีนต่อชาวอุยกูร์ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยทางการได้ปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนต่อพวกเขาอย่างกว้างขวางและเป็นระบบ ถึงขั้นเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ทางการยังได้ควบคุมตัวบุคคลโดยพลการ ได้ลงโทษอย่างไม่เป็นธรรม มีการสอดแนมข้อมูลอย่างกว้างขวาง มีการ บังคับใช้แรงงาน และมีการจำกัดเสรีภาพในการเดินทางของประชากรกลุ่มนี้ คาดการณ์ว่าชาวอุยกูร์ครึ่งล้านคน ยังคงถูกคุมขัง โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง โดยทางการมักกล่าวหาว่าการปฏิบัติอย่างสงบในชีวิตประจำวันของพวกเขา รวมทั้งการทำละหมาดหรือการติดต่อกับญาติที่อยู่ในต่างประเทศ เป็นการก่อการร้ายและแสดงถึงความคิดที่สุดโต่ง
 
ชาวอุยกูร์ที่หาทางหลบหนีจากประเทศจีนอย่างผิดกฎหมาย หากถูกส่งตัวกลับมา จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยและเสี่ยงที่จะถูกควบคุมตัว ถูกสอบปากคำ ตกเป็นเหยื่อของการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และย่ำยีศักดิ์ศรีอื่น ๆ

https://www.facebook.com/NolKannavee/posts/pfbid0jdviXR5uFKxJhXyF6im5Kyz6oD6d5Uz2JBADSvDY2CVX46bug79AScSixJdWguyyl
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่