รับชมแบบคลิปได้ที่นี่

                                 ต่อเนื่องจากทริปแสวงบุญขึ้นเขาคิชฌกูฏ ที่จังหวัดจันทบุรี ด้วยเรามากันเพียง 2 คนเท่านั้น จำนวนคนจึงเป็นข้อจำกัดสำคัญ สำหรับการเข้าพักที่โฮมสเตย์ในหลายที่ หลังจากหาข้อมูลอยู่หลายวัน เราก็พบกับที่นี่ Little Forest Homestay โฮมสเตย์ที่แหลมสิงห์ ที่มีห้องพักสำหรับ 2-3 ท่านโดยเฉพาะ แต่ก็มีห้องสำหรับ 4-6 ท่าน และ 6-10 ท่านไว้บริการด้วยนะครับ

                              ที่พักแห่งนี้เปิดทำการในช่วงโควิด ก็นับว่าผ่านมาหลายปีครับ บรรยากาศที่พักตกแต่งแนวรีสอร์ทยุโรป ทุกห้องพักใช้เครื่องนอนแบบโรงแรม พร้อมกับอาหารบุฟเฟ่ต์ 3 มื้อ สำหรับการจองที่พัก จะมีค่ามัดจำ 50% ณ วันจองเข้าพักนะครับ (อย่าลืมระวังตรวจสอบ Facebook ที่ใช้ในการติดต่อ จะต้องมีสัญลักษณ์สีฟ้า Trusted By Facebook ด้วยนะครับ เพราะมีเพจปลอมอยู่ด้วย / หรือสังเกตุจากชื่อบัญชีที่โอนได้ด้วยครับ)

                                ตัวโรงแรมอยู่ติดกับริมถนน ไม่ต้องเข้าซอย ไม่ต้องต่อเรือเพื่อเข้าบริการแต่อย่างใด แต่สำหรับการดูเหยี่ยวแดงแล้ว ทางที่พักมีสะพานไม้เชื่อมไปยังท่าลงเรือได้เลยครับ ไม่ต้องต่อรถอีกรอบ ด้านหน้าของที่พักจะเป็นร้านกาแฟสดและจำหน่ายเค้ก หลังทำการชำระเงินค่าที่พักอีก 50% พร้อมค่ามัดจำกุญแจ 500 บาท แล้วเราก็เดินทางไปยังห้องพักกันครับ





                 ด้วยห้องพักสำหรับ 2-3 ท่าน จะอยู่ด้านในสุดของที่พัก เราจึงสามารถขับรถเข้ามาจอดที่ข้างๆห้องพักได้เลยครับ ค่อนข้างสะดวกในการยกของสัมภาระ ตัวห้องพักไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้แคบจนอึดอัด หลังเปิดแอร์แล้วใช้เวลาไม่นาน ก็เย็นสบายทั่วทั้งห้องครับ



             
                        หลังจากเก็บข้าวของเป็นที่เรียบร้อย เราก็ออกมาทานอาหารเที่ยงกันครับ โดยอาหารจะทำการจัดเตรียมไว้เรียบร้อย สำหรับโต๊ะอาหารจะจัดเป็นจำนวนคนที่เข้าพักตามแต่ละโต๊ะ แต่สำหรับห้องพักที่จำนวนเท่ากัน จะไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนนะครับว่าโต๊ะไหน เป็นของห้องไหน เลือกเองได้ที่หน้างานครับ โดยจะได้ทานอาหารกันในตัวอาคาร ที่มีบริการเครื่องปรับอากาศ ทำให้หมดกังวลเรื่องยุงและแมลงวันได้เป็นอย่างดีครับ






                            หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ ทางที่พักจะมีกิจกรรมไปชมเหยี่ยวแดงในเวลาประมาณ 16.00 น. นะครับ แต่เราสองคนต้องการพักผ่อนเอนกายในห้องนอนมากกว่า จึงข้ามกิจกรรมนี้ไป และออกมาเดินเล่นให้อาหารปลาคาร์พในเวลาประมาณ 16.30 น. โดยจำหน่ายอาหารเม็ดขวดละ 10 บาทครับ น้องปลาคาร์พจะค่อนข้างรู้งาน เมื่อได้ยินเสียงคนเดินมาบนสะพาน จะรีบแหวกว่ายมารออาหารเม็ดกันอย่างรู้หน้าที่



                              หลังจากนั่งดูน้องปลาคาร์พแหวกว่ายกินอาหารเม็ด นั่งมองสายน้ำ นั่งรับลมเย็นๆ พักผ่อนสมองสักพัก ก็ได้เวลาอาหารเย็นพอดีครับ เช่นเดิมครับ ทางที่พักจะทำการจัดเตรียมโต๊ะอาหารไว้ตามจำนวนแขกที่เข้าพัก บอกจำนวนผู้เข้าพัก ก็จะได้เลือกโต๊ะนั่งครับ
           



                           หลังทานอาหารเย็นเสร็จ เราก็ค่อยๆเดินกลับไปยังที่พักกันครับ ช่วงกลางคืนจะค่อนข้างเงียบสงบเลย มองไปบนท้องฟ้าก็จะเริ่มเห็นดาว รอบทางเดินบนสะพานก็จะมีไฟติดประดับไว้ตามทาง



                                เมื่อถึงเวลาเช้า เราก็เดินออกมาสั่งกาแฟสด และเบเกอรี่ ไว้สำหรับทานพร้อมกับอาหารเช้ากันครับ ตรงนี้จะไม่รวมในบุฟเฟ่ต์นะครับ





                                หลังจากชำระเงินค่ากาแฟและขนมเป็นที่เรียบร้อย เราก็กลับเข้ามาด้านในห้องอาหาร เพื่อทานอาหารเช้ากันครับ เมนูเช้า จะเป็นกาแฟสำเร็จรูป ข้าวต้มรวมมิตร ปาท่องโก๋ โชกุปังโฮมเมด และแยมที่ทางที่พักทำเองครับ เป็นแยมมัลเบอรี่ สตอเบรี่และเลมอนครับ






                                                 สงสัยรอบนี้รูปถ่ายจะเยอะไปสักหน่อยครับ บทสรุปขอต่อในความเห็นด้านล่างนะครับ......