ตกลงไข่กินเยอะๆ ได้ไหม?

"ไข่" อาหารที่มีสารอาหารอัดแน่นที่สุดในโลกชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะมีทั้งโปรตีนที่ย่อยง่าย วิตามินA, B12 และ D สูง มีแร่ธาตุด้วย
แต่สิ่งที่หลายคนกลัวการกินไข่ เพราะไข่มีคอเลสเตอรอลสูง ซึ่งเสี่ยงกับโรคหัวใจ จนสมัยก่อนมีคำแนะนำไม่ให้กินไข่เกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง แต่ถูกยกเลิกมาเกือบสิบปีแล้ว
ประวัติมันเป็นยังไง ทำไมเขายกเลิก ตกลงเรากินไข่เยอะๆ ได้ไหม ลองมาดูกันครับ

ข้อห้ามเรื่องการกินไข่ มันต้องย้อนไปในยุค 90 เลยครับ ที่เริ่มค้นพบว่าคอเลสเตอรอลเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ จนเกิดคำแนะนำไม่ให้กินคอเลสเตอรอลเกิน 300 มก. ต่อวัน ซึ่งไข่ฟองเดียวก็มีไปแล้ว 200 มก. และเพราะเราไม่ได้รับคอเลสเตอรอลจากไข่อย่างเดียว สมัยนั้นเลยแนะนำให้กินไข่แค่สัปดาห์ละ 2-3 ฟองก็พอครับ

คำแนะนำนี้มันอยู่มาเป็นสิบๆ ปีจนกระทั่งพบว่า คอเลสเตอรอลในเลือดของเราเนี่ยมันไม่ได้เกิดจากไข่ หรือพูดให้ถูกคือไม่ได้เกิดจากอาหารคอเลสเตอรอลสูงรวมๆ นั่นเองครับ

เพราะนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล 2 คนคือคุณ บลอช และลีเนน ค้นพบว่า คอเลสเตอรอลส่วนใหญ่มันถูกสร้างขึ้นในร่างกายเราเองครับ โดยพบว่าตับจะเปลี่ยนไขมันอิ่มตัวเป็นคอเลสเตอรอล (คอเลสเตอรอลในปริมาณที่พอเหมาะสำคัญกับร่างกาย)

ส่วนการกินอาหารคอเลสเตอรอลสูง ก็เพิ่มคอเลสเตอรอลในเลือดจริง แต่เพิ่มน้อยมากถ้าเทียบกับการกินไขมันอิ่มตัว และการกินอาหารคอเลสเตอรอลสูงบางชนิด (เช่น ไข่ต้ม อาหารทะเลนึ่ง ต้ม ย่าง) ก็ไม่ทำให้เกิดโรคหัวใจแต่อย่างใด

จนราวปี 2015 อเมริกาก็ยกเลิกข้อห้ามกินไข่ และหลายๆ ประเทศก็ปรับๆ ตามกันมา

ปัจจุบันก็ไม่มีคำแนะนำเรื่องการกินไข่ออกมาครับ งานวิจัยต่างๆ เองก็ไม่พบผลเสียในคนสุขภาพดี เช่นเด็ก ผู้ใหญ่ที่น้ำหนักปกติ และออกกำลังกายเป็นประจำ

แต่หมอส่วนใหญ่ก็ยังแนะนำว่าการทานไข่วันละ 1-2 ฟอง เป็นปริมาณที่ปลอดภัย และดีกับสุขภาพของทุกเพศทุกวัย ส่วนถ้ากินเกินนั้น อาจขึ้นกับว่ากินของทอดของมันเยอะไหม และระดับฟิตเนสของแต่ละคนครับ

ส่วนในผู้สูงอายุ หรือโรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ ก็ยังแนะนำให้ทานไข่ไม่เกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง เพราะคนกลุ่มนี้มักมีคอเลสเตอรอลในเลือดสูงอยู่แล้ว ก็ไม่ควรเสี่ยงรับเพิ่มเยอะเกินครับ

หากเราออกกำลังกายอยู่พอสมควร ก็ไม่ต้องซีเรียสกับจำนวนไข่มาก เพราะปกติก็ไม่ได้กินทุกวันครับ เน้นควบคุมสารอาหารที่ได้รับต่อวันรวมๆ ไม่ต้องกังวลกับอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมาก ก็จะกินอาหารได้อร่อยและมีความสุขขึ้นครับ

ที่มา : Jones Salad
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่