สงสัยในพระดำรัสแปลก ๆ แปลกมาก ๆ และพิศวงสุด ๆ ของพระนางพิมพา เรื่องจำนวนของพระพุทธเจ้า

ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒๕ ตรงยโสธราเถริยาปทานประวัติในอดีตชาติของพระยโสธราเถรี มีอะไรที่น่าสนใจและน่าประหลาดใจมาก ๆ

1. เพิ่งรู้ว่าในเหตุการณ์ที่สุเมธดาบสได้นอนถมดินถวายพระวรกายแก่พระพุทธเจ้าและพระสาวก มี side story ด้วยว่า ในตอนนั้น พระนางพิมพาก็มาขอตั้งความปรารถนาด้วย และได้แบ่งดอกไม้ให้ท่านสุเมธดาบส นึกว่าท่านสุเมธดาบสท่านเพียงแต่นอนราบถมดินถวายอย่างเดียวมานานมาก

แต่

2. พระนางพิมพาก่อนปรินิพพาน ท่านได้มีพระดำรัสแก่พระศาสดาครั้งสุดท้ายในหลาย ๆ เรื่อง เรื่องหนี่งคือ พระนางตรัสว่า จำนวนพระพุทธเจ้ามีมหาศาลสุด ๆ ซึ่งไม่แน่ใจว่าทรงนับจากช่วงไหน เพราะจากที่ชาวพุทธทราบมาตลอด ถ้านับกันตั้งแต่เอาตัวมหากัปเดียวกันกับพระพุทธเจ้าทีปังกรตอนทรงพยากรณ์พระศาสดาของเรา ก่อนพระพุทธเจ้าทีปังกร มีพระพุทธเจ้ามา 3 พระองค์ แต่ไม่ได้ทรงพยากรณ์สุเมธดาบส พอมาถึงสุเมธดาบส นับมาถึงยุคพระพุทธศาสนาปัจจุบันก็มีเพียง 24 พระองค์ ตลอด 4 อสงไขย แต่พระนางกลับตรัสต่อหน้าพระศาสดาว่า..

[๓๘๔] พระพุทธเจ้ามีจำนวนถึง ๕๐๐ โกฏิ และ ๙๐๐ โกฏิ (โกฏิแปลว่าสิบล้าน ดังนั้น เก้าร้อยโกฎิคือเอาเก้าร้อยไปคูณสิบล้านอีกต่อ)
                       หม่อมฉันจัดถวายมหาทานแด่พระพุทธเจ้าเหล่านั้น

             [๓๘๕] ข้าแต่มหาราช ขอพระองค์จงสดับอธิการ
                       ของหม่อมฉันมีมากมาย
                       พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำชั้นเลิศของชาวโลก
                       มีจำนวนถึง ๑,๑๐๐ โกฏิ

             [๓๘๖] หม่อมฉันจัดถวายมหาทานแด่พระพุทธเจ้าเหล่านั้น
                       ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ ข้าแต่มหาราช
                       ขอพระองค์จงสดับ
                       อธิการของหม่อมฉันมีมากมาย

             [๓๘๗] หม่อมฉันจัดถวายมหาทานแก่พระพุทธเจ้า ๒,๐๐๐ โกฏิ
                       และแก่พระพุทธเจ้า ๓,๐๐๐ โกฏิ ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ

             [๓๘๘] ข้าแต่มหาราช ขอพระองค์ทรงสดับอธิการ
                       ของหม่อมฉันมีมากมาย
                       พระพุทธเจ้ามีจำนวนถึง ๔,๐๐๐ โกฏิ และ ๕,๐๐๐ โกฏิ

             [๓๘๙] หม่อมฉันจัดถวายมหาทานแก่พระพุทธเจ้าเหล่านั้น
                       ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ ข้าแต่มหาราช ขอพระองค์จงสดับ
                       อธิการของหม่อมฉันมีมากมาย

             [๓๙๐] พระพุทธเจ้ามีจำนวนถึง ๖,๐๐๐ โกฏิ และ ๗,๐๐๐ โกฏิ
                       หม่อมฉันจัดถวายมหาทานแด่พระพุทธเจ้าเหล่านั้น
                       ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ

             [๓๙๑] ข้าแต่มหาราช ขอพระองค์จงสดับอธิการ
                       ของหม่อมฉันมีมากมาย
                       พระพุทธเจ้ามีจำนวนถึง ๘,๐๐๐ โกฏิ และ ๙,๐๐๐ โกฏิ

             [๓๙๒] หม่อมฉันจัดถวายมหาทานแด่พระพุทธเจ้าเหล่านั้น
                       ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ ข้าแต่มหาราช
                       ขอพระองค์จงสดับอธิการของหม่อมฉันมีมากมาย

             [๓๙๓] พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำชั้นเลิศของชาวโลก
                       มีจำนวนถึง ๑๐๐,๐๐๐ โกฏิ
                       หม่อมฉันจัดถวายมหาทานแด่พระพุทธเจ้าเหล่านั้น
                       ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ

             [๓๙๔] ข้าแต่มหาราช ขอพระองค์จงสดับอธิการ
                       ของหม่อมฉันมีมากมาย
                       พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นผู้นำอื่นๆ มีจำนวนถึง ๙,๐๐๐ โกฏิ

             [๓๙๕] หม่อมฉันจัดถวายมหาทานแด่พระพุทธเจ้าเหล่านั้น
                       ผู้เป็นเทพยิ่งกว่าเทพ ข้าแต่มหาราช
                       ขอพระองค์จงสดับอธิการของหม่อมฉันมีมากมาย

             [๓๙๖] พระพุทธเจ้าผู้แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ โกฏิ
                       ๘๕ องค์ ๘,๕๐๐ โกฏิ ๓๐ โกฏิ

สมมุติฐานที่เป็นไปได้ คิดว่าท่านอาจจะนับจากจำนวนของพระพุทธเจ้าในจักรวาลอื่นใน 4 อสงไขยที่ผ่านมา

เพราะถ้าเราจำกันได้ พระนิยตโพธิสัตว์ เมื่อท่านได้รับพระพุทธพยากรณ์แล้วว่าจะได้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตแน่ ๆ จะมีกฎอาภัพพฐาน ๑๘ ประการ" หรือ "ความอาภัพ ๑๘ ประการ" ซึ่งไม่มีแก่พระนิตยโพธิสัตว์ ปรากฏอยู่ใน สารัตถสังคหะ และอรรถกถาชาดกฉบับไทย มจร. หน้า ๗๕ สุเมธกถา ทูเรนิทาน ให้สังเกตุ ข้อที่ 18 ว่า พระนิยตโพธสัตว์จะไม่เกิดในจักรวาลอื่น นั่นแปลว่า พระพุทธเจ้า 24 หรือ 28 พระองค์นั้น เป็นจำนวนที่ท่านเจอในจักรวาลนี้เท่านั้น

 ๑. เกิดเป็นมนุษย์ที่ตาบอดแต่กำเนิด

 ๒. เกิดเป็นมนุษย์ที่หูหนวกแต่กำเนิด

 ๓. เกิดมาเป็นคนบ้า

 ๔. เกิดมาเป็นคนใบ้

 ๕. เกิดมาเป็นคนแคระ ง่อยเปลี้ย

 ๖. เกิดในชนชาติมิลักขประเทศคือ เป็นบ้านเมืองที่ป่าเถื่อน...ที่ไม่มี โอกาสศึกษาเล่าเรียน...หรือไม่ได้พบกัลยาณมิตรที่คอยให้คำแนะนำ ตักเตือน

๗. เกิดในท้องนางทาสี ไม่มีอิสระแก่ชีวิต ไม่เป็นไทแก่ตน ต้องอยู่ในความควบคุมของผู้อื่น

๘. เกิดเป็นคนนิยตมิจฉาทิฏฐิ หมายถึง พวกที่มีความเห็นผิด ซึ่งจะทำให้ไม่มีโอกาสหลุดพ้นจากวัฏสงสาร และเป็นผู้ถูกห้ามหนทางสวรรค์และหนทางมรรค ผล นิพพาน

๙. เกิดเป็นเพศหญิง บัณเฑาะก์ หรือกะเทย หรือเป็นบุคคล ๒ เพศ (อุภโตพยัญชนก)

๑๐. ทำอนันตริยกรรม คือ กรรมหนัก ๕ อย่าง ได้แก่ ฆ่าพ่อของตนเอง ฆ่าแม่ของตนเอง ฆ่าพระอรหันต์ ทำให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงห้อพระโลหิต ทำให้สงฆ์แตกแยกกัน

๑๑. เป็นคนโรคเรื้อน โรคร้ายแรง

๑๒. เมื่อเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน เป็นสัตว์ประเภทที่มีกายเล็กกว่านกกระจาบหรือใหญ่กว่าช้าง

๑๓. เกิดในขุปปิปาสิกเปรต คือ เปรตผู้หิวกระหาย และนิชฌามตัณหิกเปรต คือ เปรตผู้ถูกความอยากเผาผลาญ และกาลกัญชิกาสูร คือ เปรตชนิดหนึ่งที่ตัวสูงใหญ่มาก

๑๔. เกิดในอเวจีมหานรกและโลกันตนรก

๑๕. เมื่อเกิดเป็นเทวดาในสวรรค์ชั้นกามาวจรเป็นเทวดามิจฉาทิฏฐิ และเป็นเทวบุตรมาร

๑๖. เกิดเป็นอสัญญีพรหม ซึ่งเป็นพรหมที่มีแต่รูปร่าง ไม่มีความรู้สึกนึกคิด หรือเกิดเป็นสุทธาวาสพรหม ซึ่งจะต้องบรรลุเป็นพระอรหันต์ในไม่ช้า

๑๗. เกิดในอรูปภพ เป็นอรูปพรหมที่ทำฌานที่ไม่มีรูปมากำหนดเป็นอารมณ์ มีอายุยืนยาวมาก

๑๘. เกิดในจักรวาลอื่น

หรือนั่นแปลว่า ในระหว่าง 4 อสงไขยนี้ จักรวาลอื่น ๆ ก็มีพระพุทธเจ้าจำนวนมหาศาลเต็มไปหมดใช่ไหม ? หรือท่านใดมีทฤษฏีอื่นใดบ้าง ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่