สวัสดีค่ะสมาชิกทุกท่าน ขอบคุณที่สละเวลามาอ่านและแสดงความคิดเห็นแก่กระทู้นี้นะคะ
ขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันนะคะ . . .
ตัวละครจะมีทั้งหมด 4 ตัวค่ะ มี เรา แฟน พ่อ แม่
ครั้งแรกเรากับแฟนมีแพลนว่าจะไปเที่ยวธรรมชาติป่าเขาด้วยกัน เราเลยบอกพ่อและแม่ของเราไว้ล่วงหน้า ปรากฏว่าพ่อและแม่ไม่อนุญาต เนื่องจากเรายังไม่เคยพาแฟนไปพบครอบครัวของเรา พอพวกเราทราบอย่างนั้นเลยเปลี่ยนแพลนไปพบครอบครัวของเราก่อน มีการพูดคุยถามที่มาที่ไปจนครอบครัวของได้ทราบว่าแฟนของเรานั้นทำงานสายสีเทา ซึ่งพ่อของเราอยู่ในวงการตำรวจ พ่อค่อนข้างที่จะเข้าใจเรื่องการทำงานของแฟนเรา (พ่อก็แนะนำเรื่องการทำงาน ว่าให้เก็บเงินแล้วค่อย ๆ เฟดตัวเองออกมา) แฟนเราน้อมรับคำแนะนำ ซึ่งตัวแฟนเราเองก็มีแพลนว่าจะลองออกมาทำธุรกิจด้วยตัวเองดูสักครั้งหากตั้งตัวได้แล้ว การเลี้ยงดูของพ่อเราจะเป็นการให้ไปเจอโลกเอง ค่อนข้างที่จะสปอยระดับนึงแต่ก็มีขอบเขต ซึ่งต่างจากแม่เรา แม่จะคอยสั่งสอนอาจจะมีการลงไม้ลงมือบ้างก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะ เราเข้าใจได้ว่าแม่อยากให้เราโตไปแบบมีคุณภาพ โอเคการพาแฟนไปหาครอบครัวในครั้งนี้ผลออกมาค่อนข้างดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อวันที่ 24 ก.พ เราได้มีโอกาสโทรไปคุยกับแม่ของเรา เราก็คุยไปเรื่อยไปเปื่อยตามประสาแม่ลูก คราวนี้แม่เริ่มเปิดประเด็นว่า
แม่ : ญาติพี่น้องมีแต่คนเสียดายเธอ
เรา : ยังไงเหรอแม่
แม่ : เธอน่าจะหาคนที่ดีกว่าได้นะ
[ ขยายความ : แฟนเราเคยมีลูกติดสมัยวัยรุ่น ช่วงนั้นเกเร เรียนจบแค่ ม.3 และ ทำงานสีเทา ]
เรา : (เงียบ)
แม่ : เข้าใจว่ามีแผนจะไปทำธุรกิจ ฉันก็เห็นบอกแต่เดี๋ยวไม่ลงมือทำสักที
เรา : (เงียบ)
แม่ : ฉันพูดให้คิด อีกอย่างถ้ามันพลาดขึ้นมา ฉันบอกเลยว่าไม่สนใจเธอแน่นอน ให้ไปอยู่กับฝั่งนู้นเอา
เรา : (เงียบ)
แม่ : ฉันผ่านฉันเจออะไรมาเยอะ ฉันดูออก
เรา : แล้วแม่คิดว่าแฟนหนูเป็นยังไงเหรอ
แม่ : ฉันก็ไม่รู้หรอก คุยกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงจะไปรู้เบื้องลึกอะไรได้ อีกอย่างฉันเลี้ยงดูได้แค่ตัว ความคิดเธอฉันเลี้ยงไม่ได้หรอก
เรา : (ความคิดในหัวมันตีกันไปหมด)
เราเข้าใจว่าแม่ของเรากลัวว่าแฟนเราจะพาเราเสียคน เสียอนาคต แม่เป็นห่วงเรา หากว่าวันใดวันนึงแฟนเราถูกรวบแล้ว เราต้องไปนั่งตอบคำถามนู่นนี่ มันอาจจะฟังดูบ้านะคะ เพราะ เราเชื่อในตัวแฟนเราว่าเขาจะสามารถทำตามแพลนที่เขาวางไว้ ถึงแม้ว่ามันอาจจะช้าหน่อยก็เถอะ อย่างน้อย ๆ ระหว่างการเติบโตครั้งนี้เราก็อยากจะซัพพอร์ตเขาให้ไปในทางที่ดี ถามว่ารักมั้ย รักค่ะ รักแบบพากันไปได้ด้วยดี เรามีไอเดียมากมายเรื่องอนาคต แต่ความรู้นั้นค่อนข้างหล่ะหลวม
ปรึกษา : เราจะหาจุดตรงกลางหรือแนวคิดอื่น ๆ กับเรื่องนี้ยังไงดีคะ อยากทราบมุมมองของทุก ๆ คนค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
เมื่อครอบครัวไม่ชอบใจแฟนเรา
ขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันนะคะ . . .
ตัวละครจะมีทั้งหมด 4 ตัวค่ะ มี เรา แฟน พ่อ แม่
ครั้งแรกเรากับแฟนมีแพลนว่าจะไปเที่ยวธรรมชาติป่าเขาด้วยกัน เราเลยบอกพ่อและแม่ของเราไว้ล่วงหน้า ปรากฏว่าพ่อและแม่ไม่อนุญาต เนื่องจากเรายังไม่เคยพาแฟนไปพบครอบครัวของเรา พอพวกเราทราบอย่างนั้นเลยเปลี่ยนแพลนไปพบครอบครัวของเราก่อน มีการพูดคุยถามที่มาที่ไปจนครอบครัวของได้ทราบว่าแฟนของเรานั้นทำงานสายสีเทา ซึ่งพ่อของเราอยู่ในวงการตำรวจ พ่อค่อนข้างที่จะเข้าใจเรื่องการทำงานของแฟนเรา (พ่อก็แนะนำเรื่องการทำงาน ว่าให้เก็บเงินแล้วค่อย ๆ เฟดตัวเองออกมา) แฟนเราน้อมรับคำแนะนำ ซึ่งตัวแฟนเราเองก็มีแพลนว่าจะลองออกมาทำธุรกิจด้วยตัวเองดูสักครั้งหากตั้งตัวได้แล้ว การเลี้ยงดูของพ่อเราจะเป็นการให้ไปเจอโลกเอง ค่อนข้างที่จะสปอยระดับนึงแต่ก็มีขอบเขต ซึ่งต่างจากแม่เรา แม่จะคอยสั่งสอนอาจจะมีการลงไม้ลงมือบ้างก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะ เราเข้าใจได้ว่าแม่อยากให้เราโตไปแบบมีคุณภาพ โอเคการพาแฟนไปหาครอบครัวในครั้งนี้ผลออกมาค่อนข้างดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อวันที่ 24 ก.พ เราได้มีโอกาสโทรไปคุยกับแม่ของเรา เราก็คุยไปเรื่อยไปเปื่อยตามประสาแม่ลูก คราวนี้แม่เริ่มเปิดประเด็นว่า
แม่ : ญาติพี่น้องมีแต่คนเสียดายเธอ
เรา : ยังไงเหรอแม่
แม่ : เธอน่าจะหาคนที่ดีกว่าได้นะ
[ ขยายความ : แฟนเราเคยมีลูกติดสมัยวัยรุ่น ช่วงนั้นเกเร เรียนจบแค่ ม.3 และ ทำงานสีเทา ]
เรา : (เงียบ)
แม่ : เข้าใจว่ามีแผนจะไปทำธุรกิจ ฉันก็เห็นบอกแต่เดี๋ยวไม่ลงมือทำสักที
เรา : (เงียบ)
แม่ : ฉันพูดให้คิด อีกอย่างถ้ามันพลาดขึ้นมา ฉันบอกเลยว่าไม่สนใจเธอแน่นอน ให้ไปอยู่กับฝั่งนู้นเอา
เรา : (เงียบ)
แม่ : ฉันผ่านฉันเจออะไรมาเยอะ ฉันดูออก
เรา : แล้วแม่คิดว่าแฟนหนูเป็นยังไงเหรอ
แม่ : ฉันก็ไม่รู้หรอก คุยกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงจะไปรู้เบื้องลึกอะไรได้ อีกอย่างฉันเลี้ยงดูได้แค่ตัว ความคิดเธอฉันเลี้ยงไม่ได้หรอก
เรา : (ความคิดในหัวมันตีกันไปหมด)
เราเข้าใจว่าแม่ของเรากลัวว่าแฟนเราจะพาเราเสียคน เสียอนาคต แม่เป็นห่วงเรา หากว่าวันใดวันนึงแฟนเราถูกรวบแล้ว เราต้องไปนั่งตอบคำถามนู่นนี่ มันอาจจะฟังดูบ้านะคะ เพราะ เราเชื่อในตัวแฟนเราว่าเขาจะสามารถทำตามแพลนที่เขาวางไว้ ถึงแม้ว่ามันอาจจะช้าหน่อยก็เถอะ อย่างน้อย ๆ ระหว่างการเติบโตครั้งนี้เราก็อยากจะซัพพอร์ตเขาให้ไปในทางที่ดี ถามว่ารักมั้ย รักค่ะ รักแบบพากันไปได้ด้วยดี เรามีไอเดียมากมายเรื่องอนาคต แต่ความรู้นั้นค่อนข้างหล่ะหลวม
ปรึกษา : เราจะหาจุดตรงกลางหรือแนวคิดอื่น ๆ กับเรื่องนี้ยังไงดีคะ อยากทราบมุมมองของทุก ๆ คนค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ