"...สิ่งที่เรียกว่าจิตหรือเจตสิกนี้ พระศาสดา
มิใช่ให้เรียน เพื่อให้ติด ท่านให้รู้ว่าจิต หรือ
เจตสิก เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เท่านั้น
มีแต่ท่านให้ปล่อยให้วางมัน เมื่อเกิดมา ก็
รับรู้ไว้ รับทราบไว้
ตัวจิตนี่เองมันถูกอบรมมาแล้ว ถูกให้พลิก
ออกจากตัวนี้ เกิดเป็นสังขารปรุงไป มันก็
เลยมาปรุงแต่งเรื่อยไป ทั้งดี ทั้งชั่ว ทุกสิ่ง
ทุกอย่างให้เกิดเป็นไป สิ่งทั้งหลายเหล่านี้
พระศาสดาให้ละ แต่ต้องเรียนรู้อย่างนี้เสีย
ก่อน จึงจะละได้
ตัวนี้เป็นตัวธรรมชาติ อยู่อย่างนี้ จิตก็เป็น
อย่างนี้ เจตสิก ก็เป็นอย่างนี้ อย่างมรรค
ปัญญาอันเห็นชอบ เห็นชอบแล้วก็ดำริชอบ
เจรจาชอบ ทำการงานชอบ เลี้ยงชีวิตชอบ
เหล่านี้ เป็นเรื่องของเจตสิกทั้งนั้น ออกจาก
ผู้รู้นั่นเอง
เหมือนกับตะเกียง เป็นตัวผู้รู้ ถ้ารู้ชอบ ดำริ
ชอบ อย่างอื่นก็ชอบไปด้วย เหมือนกับแสง
สว่างของตะเกียง มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน
มันเกิดจากผู้รู้ อันนี้ถ้าจิตนี้ไม่มี ผู้รู้ก็ไม่มี
เช่นกัน มันคืออาการของพวกนี้
ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ รวมแล้วเป็นนามหมด ท่านว่า
จิตนี้ ก็ชื่อว่า จิต มิใช่ สัตว์ มิใช่ บุคคล มิใช่
ตัว มิใช่ ตน มิใช่เรา มิใช่ เขา ธรรมนี้ก็สักว่า
ธรรม มิใช่ ตัวตน เรา เขา ไม่เป็นอะไรท่านให้
เอาที่ไหน เวทนา ก็ดี สัญญา ก็ดี สิ่งทั้งหลาย
เหล่านี้ล้วนแต่เป็นขันธ์ห้า ท่านให้วาง..."
โอวาทธรรม
หลวงพ่อชา สุภัทโท
หลวงพ่อชา พูดเรื่อง จิต เจตสิก
มิใช่ให้เรียน เพื่อให้ติด ท่านให้รู้ว่าจิต หรือ
เจตสิก เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เท่านั้น
มีแต่ท่านให้ปล่อยให้วางมัน เมื่อเกิดมา ก็
รับรู้ไว้ รับทราบไว้
ตัวจิตนี่เองมันถูกอบรมมาแล้ว ถูกให้พลิก
ออกจากตัวนี้ เกิดเป็นสังขารปรุงไป มันก็
เลยมาปรุงแต่งเรื่อยไป ทั้งดี ทั้งชั่ว ทุกสิ่ง
ทุกอย่างให้เกิดเป็นไป สิ่งทั้งหลายเหล่านี้
พระศาสดาให้ละ แต่ต้องเรียนรู้อย่างนี้เสีย
ก่อน จึงจะละได้
ตัวนี้เป็นตัวธรรมชาติ อยู่อย่างนี้ จิตก็เป็น
อย่างนี้ เจตสิก ก็เป็นอย่างนี้ อย่างมรรค
ปัญญาอันเห็นชอบ เห็นชอบแล้วก็ดำริชอบ
เจรจาชอบ ทำการงานชอบ เลี้ยงชีวิตชอบ
เหล่านี้ เป็นเรื่องของเจตสิกทั้งนั้น ออกจาก
ผู้รู้นั่นเอง
เหมือนกับตะเกียง เป็นตัวผู้รู้ ถ้ารู้ชอบ ดำริ
ชอบ อย่างอื่นก็ชอบไปด้วย เหมือนกับแสง
สว่างของตะเกียง มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน
มันเกิดจากผู้รู้ อันนี้ถ้าจิตนี้ไม่มี ผู้รู้ก็ไม่มี
เช่นกัน มันคืออาการของพวกนี้
ฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ รวมแล้วเป็นนามหมด ท่านว่า
จิตนี้ ก็ชื่อว่า จิต มิใช่ สัตว์ มิใช่ บุคคล มิใช่
ตัว มิใช่ ตน มิใช่เรา มิใช่ เขา ธรรมนี้ก็สักว่า
ธรรม มิใช่ ตัวตน เรา เขา ไม่เป็นอะไรท่านให้
เอาที่ไหน เวทนา ก็ดี สัญญา ก็ดี สิ่งทั้งหลาย
เหล่านี้ล้วนแต่เป็นขันธ์ห้า ท่านให้วาง..."
โอวาทธรรม
หลวงพ่อชา สุภัทโท