เดือนนี้อายุ29 ครับ ทุกครั้งที่มีความรักมักจะมีความรู้สึกบางอย่างที่มันขาดหายไปซึ่งก็ไม่รู้ว่าอะไรแล้วก็ไม่เคยหาคำตอบเจอเลยทั้งที่ทักครั้งที่มีความรักเราจะรักและซัพพอตทุกๆคน แล้วอาการนี้มักจะมาในช่วงที่เรามีความรัก เล่าก่อนเคยผ่านความรักมาทั้งหมด4ครั้ง ครั้งแรกมีแฟนคนแรกตอนอายุ15 คบค่อนข้างนานครับ4ปี คนนี้สวยน่ารักเป็นทั้งนางรำทั้งประกวดธิดาเรียนก็เก่ง เค้าซัพพอตผมเรื่องเงินมากๆครับตอนเด็กบ้านผมถือว่าจนเลยเหละแต่บ้านเค้าถือว่ารวยมากๆถือว่าในอำเภอนี้รวยที่สุดแล้ว คบแบบอยู่ใกล้กันหนึ่ง1ปีและก็ต้องย้ายไปเรียนต่างจังหวัด และระหว่างทางเค้าก็แอบไปมีใหม่3-4รอบแต่ผมก็พยายามดึงเค้ากลับจนสุดท้ายก็ยื้อไม่ไหวเลยเลิกกันไป ครั้งนี้ทำใจ 3ปี
( ปัจจุบันคนนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในชีวิตครับ ยังเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกัน เค้าก็เริ่มใหม่ผมก็เช่นกัน แต่ทางบ้านฝ่ายหญิงก็ชอบผมมากๆอยากให้กลับ และพยายามอยากให้ผมกับเค้ากลับมารักกันเหมือนเดิมตอนคบกันทางบ้านเค้าไม่รู้ครับ แต่พึ่งมารู้ตอนเลิกกันว่าเลิกกัน ทุกวันนี้ทางบ้านเค้าก็ยังรักและเรียกผมว่าลูกตลอด )
จนมาเปิดใจให้คนใหม่อีกคนคือคนที่2 เจอกันตอนที่ทำงานแล้ว คนนี้เป็นคนดีมากๆ สวยแบบผู้ใหญ่แบบผู้ดีที่ดีมากๆเรียบร้อยตลอดชีวิตแกไม่เคยเที่ยวกลางคืน เป็นคนเก่งหาเงินก็เก่งรู้จักสร้างอนาคต ดีแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอ แต่ก็ยังมีความรู้สึกบางอย่างที่ก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ใจเราตามหามาโดยตลอด เหมือนเรากำลังตามหาอะไรอยู่ก็ไม่รู้ พยายามตามหายังไงก็ไม่เคยเจอเลยความรู้สึกที่ขาดหายไปนั้นคืออะไร พอเข้าปีที่2แฟนก็เริ่มพูดถึงเรื่องแต่งงาน ผมก็เลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนรวมทั้งที่เรื่องที่ผมค้นหามาตลอด เพื่อนบอกมีอยู่ที่หนึ่งที่ประเทศพม่า มีภูเขาอยู่ลูกหนึ่งซึ่งศักดิ์สิทธิ์มากๆ มีเรื่องเล่ามากมายบางคนเดินทางไปถึงก็ไม่สามารถเดินขึ้นเขาลูกนั้นได้ หรือว่าบางคนก็สามารถเดินขึ้นได้แค่ครึ่งเขาก็ไม่สามารถผ่านทางรอดเล็กๆจุดๆหนึ่งได้ ซึ่งมีผู้คนมากมายที่ตั้งใจที่จะไปแล้วไม่สามารถบีนขึ้นไปกราบไหว้ตรงยอดเขานั้นได้ เพื่อนบอกว่าเราสามารถไปขออะไรท่านก็ได้นะที่นั้น ผมก็เลยตัดสินใจเดินทางไปกับเพื่อนที่พม่าเป็นเวลา4วัน ซึ่งทางที่จะไปยังภูเขาลูกนี่ค่อนข้างที่จะยากมากๆ ซึ่งมอไซธรรมดาไม่สามารถไปได้ และต้องขับคนละคันเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3ชั่วโมงกว่า แล้วยังต้องเดินเท้าเปล่าเข้าไปอีก30นาที พอถึงตีนเขาก็จะมีวัดเล็กๆอยู่แล้วจะมีนกยูงอยู่กันเป็นฝุงเลยซึ่งสวยมากๆ พอเห็นเขาลูกนั้นผมถึงกับตกใจ เพราะว่าเป็นเขาที่เป็นหินทั้งลูกเลยแล้วสุงมากๆ ซึ่งเข้าจะเอาตะปูลูกใหญ่ๆปักไว้ในหินแล้วเราต้องปีนขึ้นไปจะมีบางช่วงที่ดีหน่อยที่มีโซ่เหล็กทำเป็นบรรไดให้เราได้ปีน แต่ก็ยังน่ากลัวมากๆ อยู่ดี แล้วพอถึงกลางดอยจะมีจุดที่สามารถเดินได้ แล้วผมก็เจอจุดที่เพื่อนบอกว่าจุดนี้มีหลายคนที่ลอดผ่านไปไม่ได้ บางคนร่างกายผอมบางก็ไม่สามาถลอดผ่านไปได้ แต่ก็ผ่านจุดนั้นไปได้จนปีนไปถึงยอดเขา เชื่อไหมใช้เวลาปีนเขาตรงนั้นอยู่ประมาณ40นาที ตรงนั้นมีพระพูทธรูปอยู่องค์หนึ่งกับรอยเท้าที่ใหญ่มากๆ อยู่บนยอดเขา ผมก็เลยขอเลยขอให้พอเจอสิ่งที่ใจผมตามหามาตลอดด้วยเถอะ ซึ่งไม่ได้ขอไรนอกจากนี้เลยจริงๆ พอขอเสร็จ ก็เลยเดินทางกลับไปที่พักยังหมูบ้านที่อยู่ใกล้ๆตรงนั้น เชื่อไหมตอนกลับจะมีฝนตกตรงหน้าตลอดเวลาห่างไปประมาณ800-900เมตรตลอดซึ่งมันทำให้การเดินทางกลับแบบไม่ต้องทนเจอกับฝุ่น เพราะว่าผมไปในช่วงเดือนเมษา คือฝุ่นเยอะมากๆ บางจุดหนาเกือบคืบ พอขับไปถึงจุดที่ฝนตกฝนก็จะหยุดแล้วทำให้การเดินทางกลับเป็นเรื่องที่สนุกมากๆไม่เหมือนตอนไป จุดเริ่มตอนเริ่มจากตรงนี้ครับ อีกวันเพื่อนบอกที่นี้สงกรานต์เค้าเริ่มจัดแล้วนะ เพื่อนก็เลยพาไปนั่งดื่มชิวๆ ตรงลำน้ำซึ่งใสมากๆ แล้วก็จะมีร้านค้าที่เราสามารถนั่งดื่มได้ตรงนั้นเลยกลางน้ำ รู้ไหมตอนนั่งชมนั่งดื่มความสวยงามของที่นั้น ใจผมก็เผลอคิดว่ามันจะดีแค่ไหนเนาะ ถ้าได้แต่งงานกับคนที่นี้สักคน แล้วสร้างครอบครัวอยู่กับธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่ๆสวยมากๆ ขนาดลำธานหน้าบ้านยังใส่มองเห็นปลาเลย แล้วสักพักผมก็เห็นเด็กผู้หญิง3คนตัวเล็กเดินผ่านสะพานข้างหลังผมไปคนหนึ่งใส่เสื้อสีเขียวอีกสองใส่เสื้อสีดำ ซึ่งคือมันติดกับจุดที่ผมนั่ง แล้วเด็กพวกนี้ก็พูดคุยกันภาษาถิ่นเค้า ผมก็มองแล้วยิ้มนึกในใจเด็กพวกนี้ เค้าดูมีความสุขจัง แล้วเวลาก็ผ่านไปผมกลับมาไทย ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิมครับยังไม่หายไปผมเลยตัดสินใจ บอกแฟนว่าจะไปทำงานที่ต่างประเทศนะ เค้าก็ดูไม่ค่อยยอมแต่สุดท้ายผมก็เลือกไป อะไรที่หาได้ผมก็จะโอนหรือว่ามอบให้เป็นชื่อแฟนทั้งหมดนะครับ จนอยู่ได้เกือบปี
ผมก็ได้ขยับหน้าที่การงานจนได้มาเป็นผู้จัดการ แล้ววันหนึ่งก็ได้มีพนักงานใหม่เข้ามา ซึ่งมีอยู่คนๆหนึ่งสวยมากๆ ครับมีคนมากมายที่เข้าไปพยายามจะจีบเธอ ซึ่งมีผมคนเดียวที่ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเธอเพราะว่าผมก็มีแฟนอยู่แล้ว ถึงไม่มีผมก็จีบไม่ติดหรอกเพราะว่าแค่ดูผมยังว่าเธออยู่สูงเกินไป ก็เลยไม่ได้สนใจ
ช่วงเวลานี้เลยครับ ที่ผมพยายามห่างกับแฟนคนที่2 และสุดท้ายผมก็เลยตัดสินใจบอกเลิก แล้วอยู่ๆน้องพนักงานใหม่ที่ผมพูดถึงเค้าก็พยายามเข้าหาผม
แต่ผมก็พยายามออกห่างครับ ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเค้ามากนัก แต่มีวันหนึ่งอยู่ๆน้องเค้าก็เดินมาถามว่า พี่มีแฟนยังค่ะ ผมก็ตอบไปว่ามีแล้วครับแต่ตอนนั้นเลิกกับคนที่2ไปแล้วแล้วก็โสดด้วย แต่ก็ตอบไปว่ามีแฟนแล้วครับ แล้วน้องเค้าถามว่าสวยกว่าหนูไหม ผมก็ตอบไปว่าสวยครับ ผมก็เลยเอารูปให้ดูเพราะว่ายังทำใจลบไม่ได้ น้องเค้าก็หายไปสักพัก แล้วน้องเค้าก็กลับเข้ามาจีบผมอีกจนสุดท้ายใจอ่อนเพราะว่าน้องเค้าหยอดทุกวันเลย เวลาขึ้นลิฟพร้อมกันเพื่อนน้องเค้าถามพี่ไปชั้นไหนค่ะ น้องเค้าก็จะพูดออกมาเลย ชั้นรักเธออะไรประมาณนี้ จนใจอ่อนเลย ตัดสินใจคบ
คนนี้คนที่ 3 คบได้หนึ่งปี เพราะว่าระหว่างที่คบกันผมไม่ได้รักน้องเค้าเต็ม100 ซึ่งผมแสดงออกชัดเจนครับว่าผมไม่ได้รู้สึกกับน้องเค้าแบบคนรักจริงๆ พยายามไม่กลับห้อง พยายามหยุดไม่พร้อมกัน ซึ่งน้องเค้าก็ร้องไห้บ่อยครับเรื่องที่ผมไม่เปิดตัวในออนไลน์มั้งอยากมีตัวตนในโลกออนไลน์ของผมมั้ง ขนของกลับห้องไปไม่รู้กี่รอบแต่ไม่เกินสองวันครับน้องเค้าก็จะกลับมาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม เหมือนไม่เคยเสียใจแล้วกลับมาอยู่ด้วยแบบนี้เป็นครึ่งปีได้ครับ จนผมตัดสินลาออกจากงานแล้วกลับไทย เพื่อให้ผมได้เข้าใจหัวใจตัวเอง ผมเลยกลับไปอยู่บ้านแล้วชอบไปเที่ยวตามดอยบ่อยๆ น้องเค้าก็โทรหาผมบ่อยนะ แต่ทุกครั้งที่โทรมาก็จะบอกว่าพี่ทำนี้นะ ไม่ว่างนะ วันๆ คุยกันไม่ถึง2นาที มีอยู่วันหนึ่งผมดันไปเจอบุหรี่พม่าที่เป็นที่เป็นทำมาจากใบไม้ แล้วน้องเค้าโทรมาพอดีพอเปิดกล้องกัน น้องเค้าก็ทำเหมือนจะร้องไห้แล้วอยู่ๆน้องเค้าก็ร้องไห้ออกมา เค้าร้องไห้แล้วพูดว่า พี่ไม่มีเงินหรอ พี่ไม่มีทำไมไม่บอกหนู ผมอึ่งครับจุกในใจว่า เค้ารักเราขนาดนี้เลยหรอ ผมก็เลยบอกน้องเค้าไปว่ามีครับ เรื่องเงินไม่มีปัญหาเลย แต่พี่แค่อยากลอง น้องเค้าเลยยิ้มได้ ผมเลยขอนั่งเล่นกับเพื่อน น้องเค้าก็วางสายไป แล้วอยู่ๆ ก็มีเงินเข้ามาในบัญชี 50000บาท ผมเลยทักไปหนูโอนมาหรอโอนมาทำไม แล้วคำตอบที่น้องเค้าตอบมา เค้าบอกว่ารู้อยู่ว่าบุหรี่มันไม่ดี แล้วหนูก็ไม่ห้ามพี่ด้วย ถ้าจะดูดก็ดูดที่มันดีหน่อยจะได้อยู่ด้วยกันนานๆเป็นคำตอบที่อึ่งมากๆครับ ผ่านเข้าเดือนที่3ที่ผมกลับบ้าน น้องเค้าก็ขอกลับมาอยู่กับผมที่บ้านซึ่งผมก็ยังไม่พร้อมที่จะให้น้องเค้ากลับมาอยู่กับผมเลย เพราะว่าน้องเค้าพูดถึงเรื่องอยากสร้างครอบครัวอยากแต่งงานแล้วแล้วน้องเค้าบอกบ้านหนูมีสวนกาแฟเยอะเลยนะ ที่เปล่าๆก็เยอะด้วยเดียวไปคุยกับแม่เองขอที่มาสักหน่อยเราหาไรทำกัน ผมก็เลยบอกน้องเค้าว่า หนูกลับมาแล้วเที่ยวก่อนสักเดือนไหม เดียวมาอยู่บ้านแล้วอยากไปเที่ยวอาจจะไม่ได้เที่ยวมากมายเท่าไหร่นะ น้องเค้าก็ฟังผมนะ น้องเค้าก็ไปเที่ยว ครบเดือนก็ถามอีก หนูไปหาพี่ได้ยังผมก็บอกว่าลองเที่ยวอีกสักเดือนไหมใช่ครับน้องเค้าก็ฟังผม แล้วเที่ยวอีกรอบ ไม่ทันถึงเดือนครับน้องเค้าก็มาบอกเลิกผมว่า เค้าทนไม่ไหวแล้วที่ผมทำแบบนี้กับเค้าตลอด พยายามหนีห่างตลอด แล้วเราก็เลิกกันไปซึ่งช่วงแรกผมไม่ได้มีสุขหรือว่าทุกข์นะกับการเลิกกันครั้งนี้ แต่สุขอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ผ่านไป3เดือนผมเริ่มมีอาการที่อธิบายไม่ออก เหมืนมีอะไรจุกอยู่ในใจที่อธิบายไม่ได้ เลยตัดสินใจเดินทางมาทำงานที่จีนครับ แล้วผมก็ใช้เวลาทำความเข้าใจกับความรู้สึกนี้อยู่3ปีครับ แล้วไม่คุยใคร ไม่คบใคร ทำงานกลับบ้านนอนแบบนี้ประจำ แต่การนอนก็ต้องกินยานอนหลับครับ กินเป็นปีๆ แล้วก็มาวันหนึ่งวันที่ ออกไปเที่ยววันตรุษจีนกับเพื่อนๆ แล้วนั่งดื่มกัน ปกติผมไม่ดื่มครับ แต่วันนั้นดื่มเบียร์ได้หวานได้มีความสุขมากๆ อยู่ๆผมก็ร้องไห้ ร้องไห้ออกมาแบบไม่รู้ตัวร้องไห้พร้อมกับเสียงที่ดังเหมือนเด็กร้องไห้จนเดินไม่ไหว เพื่อนต้องพยุงซ้ายขวาพากลับ เดินผ่านผู้คนมากมายกลับไปยังบ้านแล้วก็หลับไป ตื่นเช้ามาอีกวันความรู้สึกโล่งก็เข้ามาแทนความรู้สึกที่ขาดหายไปนั้นก็ยังอยู่นะครับไม่รู้ว่าชีวิตนี้มันจะหาเจอเมื่อไหร่ ก็เลยติดสินใจกลับไทย (ปีที่2ของการอยู่จีน มีครั้งหนึ่งที่ผมตัดสินใจกลับไทยแล้วบวชอยู่ช่วงหนึ่งแต่ก็ยังไม่ช่วยอะไรเลยกลับไปต่อ)
คนรักคนที่3 เป็นช่วงที่ผมกลับไทยครั้งล่าสุดครับ มีแพลนเที่ยวมากมายครับ แต่สุดท้ายก็มีเรืองให้ต้องกลับเชียงใหม่ ยอมทิ้งโรงแรมต่างๆที่จองไว้ยอมทิ้งคอนเสิรตที่อยากดูเพียงเพราะว่าพี่สาวจะกลับจีนเลยตัดสินใจไปส่งแล้วซื้อตั๋วกลับเชียงใหม่เลย วันนั้นไปถึงเชียงใหม่เย็นเลย แล้วอัพรูปลงเฟสว่า ดีเชียงใหม่ เพื่อนสนิทคนหนึ่งโทรเข้ามาถามว่าอยู่ไหน ผมบอกว่าอยู่เชียงใหม่แล้ว แล้วผมถามว่าทานข้าวยัง เพื่อนตอบกำลังทานเลย เค้าก็ถามกลับทานข้าวยัง ผมก็ตอบยัง เพื่อนถามหิวมากไหมผมก็บอกทุ่มกว่าๆ เหละค่อยออกไปหาไรทาน เพื่อนรีบบอกแฟนเลย เดียวเราไปทานข้าวที่เชียงใหม่กันเชื่อไหมเพื่อนทิ้งข้าวบนโต๊ะแล้วรีบขับรถลงมาหาผมเลย พอถึงก็ออกไปทานข้าวกันปกติ เพื่อนก็ส่งแฟนกลับโรงแรมแล้วออกมานั่งคุยกันเล่นๆตรงร้านชิวน้องชาย
เพื่อนกิอีกคนก็ชวนออกไปดื่มชิวๆ อีกร้านก็เลยติดสินใจไปนั่งชิวกัน นี้เหละครับ ตอนผมเดินเข้าร้าน มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งติดกับทางเข้า ผมก็มองไม่ละสายตาเธอก็มองไม่ละสายตา แต่ผมนึกว่าเค้าคงมานั่งรอแฟนตัวเองเล่นพลูมั้ง ก็เลยได้แค่มอง มองจนคอหัน นั่งดื่มสักพักก็เลยติดสินใจเดินเข้าไปขอเฟสน้องเค้า ขอทั้งไลน์ ไอจีเลย กลัวน้องเค้าจะคิดว่าเรามีแฟน หรือไม่จริงใจ แล้วจากนั้นมา ผมกับน้องเค้าก็คุยกันได้สักพักแต่ไม่ได้คุยเยอะนะ แชทหาตอนเช้าตอบเย็นอะไรแบบนี้ แต่ช่วงนี้ผมก็คุยอีกคนที่คุยตลอดเวลาอยู่แล้ว แล้ววันหนึ่งเพื่อนชวนไปไหว้พระรอบเชียงใหม่เลย แต่ทุกวัดที่ไปจะอยู่อย่างเดียวเลย ขอคนรักสักคนที่ใช่คนที่ไม่ใช่ขอให้ออกไป เชื่อไหมกลับมาผมขอหยุดคุยกับคนที่ผมคุยอยู่ แล้วมาคุยกับน้องเค้า แล้วถามชื่ออายุ การงานต่างงๆ น้องเค้าตอบว่าหนูอายุ17เองนะ ผมตกใจไม่ได้ตอบไรเลย เลยรีบบล็อกช่องทางติดต่อทันที แต่ไอจีไม่บล็อกน้องก็เลยโทรมาทางไอจีเลยก่อนหน้าไม่เคยโทรมีแต่พิมพ์คุย น้องเค้าบอกล่อเล่นหนู19แล้วนะ อีก 2เดือนกว่าก็20แล้ว ก็เลยติดสินใจคุยแล้วจนได้คบ ตลอดเวลาไม่ว่าทำไรอยู่ก็เปิดกล้องทิ้งไว้ตลอดผมไม่ได้ขอนะ แต่น้องเค้าเป็นคนขอและทำเองทั้งเปิดทิ้งไว้ตอนเที่ยว ตอนดื่ม น้องเค้าก็อยากให้อยยู่ในสายตลอด เวลานอนก็เปิดไว้ซึ่งมันดีมากๆ ครับ ความรักดีถึงจุดที่ว่าไม่รู้ว่าทำไมมันดีได้ขนาดนี้ คุยหนึ่งเดือนตกลงเป็นแฟน อาทิตย์เดียวผมพากลับบ้านพาไปเจอผู้ใหญ่ เอาแหวนประจำตกูลให้เลยแล้วย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่เชื่อไหมครับน้องคนนี้เป็นทุกอย่างที่ผมไม่ชอบเลย พอเริ่มอยู่ด้วยกันน้องเค้าหึงแรงมากครับ หึงทุกอย่างงอลทุกอย่าง
แม้แต่พนักงานที่ร้านตัวเองยังหึงหรือว่างอลได้ แต่ๆเชื่อไหมครับ เรื่องที่ผมตามหามาตลอดชีวิตมันกลับหายไปเหมือนมันได้พบเจอสิ่งที่ขาดหายไปในใจผมตลอดมาซึ่งไม่รู้ว่ามันหายไปได้ไง แต่มันหายจริงๆ แต่ก็มีอาการประหลาดเข้ามาแทน น้องเค้าป่วยผมก็จะป่วย น้องเค้าเศร้าผมก็จะเศร้า น้องเค้าสุขผมก็จะสุขตาม
อาการแบบนี้มันคืออาการอะไร ยาวหน่อยช่วยหาคำตอบให้ผมที
( ปัจจุบันคนนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในชีวิตครับ ยังเป็นเพื่อนเป็นพี่เป็นน้องกัน เค้าก็เริ่มใหม่ผมก็เช่นกัน แต่ทางบ้านฝ่ายหญิงก็ชอบผมมากๆอยากให้กลับ และพยายามอยากให้ผมกับเค้ากลับมารักกันเหมือนเดิมตอนคบกันทางบ้านเค้าไม่รู้ครับ แต่พึ่งมารู้ตอนเลิกกันว่าเลิกกัน ทุกวันนี้ทางบ้านเค้าก็ยังรักและเรียกผมว่าลูกตลอด )
จนมาเปิดใจให้คนใหม่อีกคนคือคนที่2 เจอกันตอนที่ทำงานแล้ว คนนี้เป็นคนดีมากๆ สวยแบบผู้ใหญ่แบบผู้ดีที่ดีมากๆเรียบร้อยตลอดชีวิตแกไม่เคยเที่ยวกลางคืน เป็นคนเก่งหาเงินก็เก่งรู้จักสร้างอนาคต ดีแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะเจอ แต่ก็ยังมีความรู้สึกบางอย่างที่ก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ใจเราตามหามาโดยตลอด เหมือนเรากำลังตามหาอะไรอยู่ก็ไม่รู้ พยายามตามหายังไงก็ไม่เคยเจอเลยความรู้สึกที่ขาดหายไปนั้นคืออะไร พอเข้าปีที่2แฟนก็เริ่มพูดถึงเรื่องแต่งงาน ผมก็เลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนรวมทั้งที่เรื่องที่ผมค้นหามาตลอด เพื่อนบอกมีอยู่ที่หนึ่งที่ประเทศพม่า มีภูเขาอยู่ลูกหนึ่งซึ่งศักดิ์สิทธิ์มากๆ มีเรื่องเล่ามากมายบางคนเดินทางไปถึงก็ไม่สามารถเดินขึ้นเขาลูกนั้นได้ หรือว่าบางคนก็สามารถเดินขึ้นได้แค่ครึ่งเขาก็ไม่สามารถผ่านทางรอดเล็กๆจุดๆหนึ่งได้ ซึ่งมีผู้คนมากมายที่ตั้งใจที่จะไปแล้วไม่สามารถบีนขึ้นไปกราบไหว้ตรงยอดเขานั้นได้ เพื่อนบอกว่าเราสามารถไปขออะไรท่านก็ได้นะที่นั้น ผมก็เลยตัดสินใจเดินทางไปกับเพื่อนที่พม่าเป็นเวลา4วัน ซึ่งทางที่จะไปยังภูเขาลูกนี่ค่อนข้างที่จะยากมากๆ ซึ่งมอไซธรรมดาไม่สามารถไปได้ และต้องขับคนละคันเท่านั้น ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3ชั่วโมงกว่า แล้วยังต้องเดินเท้าเปล่าเข้าไปอีก30นาที พอถึงตีนเขาก็จะมีวัดเล็กๆอยู่แล้วจะมีนกยูงอยู่กันเป็นฝุงเลยซึ่งสวยมากๆ พอเห็นเขาลูกนั้นผมถึงกับตกใจ เพราะว่าเป็นเขาที่เป็นหินทั้งลูกเลยแล้วสุงมากๆ ซึ่งเข้าจะเอาตะปูลูกใหญ่ๆปักไว้ในหินแล้วเราต้องปีนขึ้นไปจะมีบางช่วงที่ดีหน่อยที่มีโซ่เหล็กทำเป็นบรรไดให้เราได้ปีน แต่ก็ยังน่ากลัวมากๆ อยู่ดี แล้วพอถึงกลางดอยจะมีจุดที่สามารถเดินได้ แล้วผมก็เจอจุดที่เพื่อนบอกว่าจุดนี้มีหลายคนที่ลอดผ่านไปไม่ได้ บางคนร่างกายผอมบางก็ไม่สามาถลอดผ่านไปได้ แต่ก็ผ่านจุดนั้นไปได้จนปีนไปถึงยอดเขา เชื่อไหมใช้เวลาปีนเขาตรงนั้นอยู่ประมาณ40นาที ตรงนั้นมีพระพูทธรูปอยู่องค์หนึ่งกับรอยเท้าที่ใหญ่มากๆ อยู่บนยอดเขา ผมก็เลยขอเลยขอให้พอเจอสิ่งที่ใจผมตามหามาตลอดด้วยเถอะ ซึ่งไม่ได้ขอไรนอกจากนี้เลยจริงๆ พอขอเสร็จ ก็เลยเดินทางกลับไปที่พักยังหมูบ้านที่อยู่ใกล้ๆตรงนั้น เชื่อไหมตอนกลับจะมีฝนตกตรงหน้าตลอดเวลาห่างไปประมาณ800-900เมตรตลอดซึ่งมันทำให้การเดินทางกลับแบบไม่ต้องทนเจอกับฝุ่น เพราะว่าผมไปในช่วงเดือนเมษา คือฝุ่นเยอะมากๆ บางจุดหนาเกือบคืบ พอขับไปถึงจุดที่ฝนตกฝนก็จะหยุดแล้วทำให้การเดินทางกลับเป็นเรื่องที่สนุกมากๆไม่เหมือนตอนไป จุดเริ่มตอนเริ่มจากตรงนี้ครับ อีกวันเพื่อนบอกที่นี้สงกรานต์เค้าเริ่มจัดแล้วนะ เพื่อนก็เลยพาไปนั่งดื่มชิวๆ ตรงลำน้ำซึ่งใสมากๆ แล้วก็จะมีร้านค้าที่เราสามารถนั่งดื่มได้ตรงนั้นเลยกลางน้ำ รู้ไหมตอนนั่งชมนั่งดื่มความสวยงามของที่นั้น ใจผมก็เผลอคิดว่ามันจะดีแค่ไหนเนาะ ถ้าได้แต่งงานกับคนที่นี้สักคน แล้วสร้างครอบครัวอยู่กับธรรมชาติ ซึ่งเป็นที่ๆสวยมากๆ ขนาดลำธานหน้าบ้านยังใส่มองเห็นปลาเลย แล้วสักพักผมก็เห็นเด็กผู้หญิง3คนตัวเล็กเดินผ่านสะพานข้างหลังผมไปคนหนึ่งใส่เสื้อสีเขียวอีกสองใส่เสื้อสีดำ ซึ่งคือมันติดกับจุดที่ผมนั่ง แล้วเด็กพวกนี้ก็พูดคุยกันภาษาถิ่นเค้า ผมก็มองแล้วยิ้มนึกในใจเด็กพวกนี้ เค้าดูมีความสุขจัง แล้วเวลาก็ผ่านไปผมกลับมาไทย ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิมครับยังไม่หายไปผมเลยตัดสินใจ บอกแฟนว่าจะไปทำงานที่ต่างประเทศนะ เค้าก็ดูไม่ค่อยยอมแต่สุดท้ายผมก็เลือกไป อะไรที่หาได้ผมก็จะโอนหรือว่ามอบให้เป็นชื่อแฟนทั้งหมดนะครับ จนอยู่ได้เกือบปี
ผมก็ได้ขยับหน้าที่การงานจนได้มาเป็นผู้จัดการ แล้ววันหนึ่งก็ได้มีพนักงานใหม่เข้ามา ซึ่งมีอยู่คนๆหนึ่งสวยมากๆ ครับมีคนมากมายที่เข้าไปพยายามจะจีบเธอ ซึ่งมีผมคนเดียวที่ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเธอเพราะว่าผมก็มีแฟนอยู่แล้ว ถึงไม่มีผมก็จีบไม่ติดหรอกเพราะว่าแค่ดูผมยังว่าเธออยู่สูงเกินไป ก็เลยไม่ได้สนใจ
ช่วงเวลานี้เลยครับ ที่ผมพยายามห่างกับแฟนคนที่2 และสุดท้ายผมก็เลยตัดสินใจบอกเลิก แล้วอยู่ๆน้องพนักงานใหม่ที่ผมพูดถึงเค้าก็พยายามเข้าหาผม
แต่ผมก็พยายามออกห่างครับ ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับเค้ามากนัก แต่มีวันหนึ่งอยู่ๆน้องเค้าก็เดินมาถามว่า พี่มีแฟนยังค่ะ ผมก็ตอบไปว่ามีแล้วครับแต่ตอนนั้นเลิกกับคนที่2ไปแล้วแล้วก็โสดด้วย แต่ก็ตอบไปว่ามีแฟนแล้วครับ แล้วน้องเค้าถามว่าสวยกว่าหนูไหม ผมก็ตอบไปว่าสวยครับ ผมก็เลยเอารูปให้ดูเพราะว่ายังทำใจลบไม่ได้ น้องเค้าก็หายไปสักพัก แล้วน้องเค้าก็กลับเข้ามาจีบผมอีกจนสุดท้ายใจอ่อนเพราะว่าน้องเค้าหยอดทุกวันเลย เวลาขึ้นลิฟพร้อมกันเพื่อนน้องเค้าถามพี่ไปชั้นไหนค่ะ น้องเค้าก็จะพูดออกมาเลย ชั้นรักเธออะไรประมาณนี้ จนใจอ่อนเลย ตัดสินใจคบ
คนนี้คนที่ 3 คบได้หนึ่งปี เพราะว่าระหว่างที่คบกันผมไม่ได้รักน้องเค้าเต็ม100 ซึ่งผมแสดงออกชัดเจนครับว่าผมไม่ได้รู้สึกกับน้องเค้าแบบคนรักจริงๆ พยายามไม่กลับห้อง พยายามหยุดไม่พร้อมกัน ซึ่งน้องเค้าก็ร้องไห้บ่อยครับเรื่องที่ผมไม่เปิดตัวในออนไลน์มั้งอยากมีตัวตนในโลกออนไลน์ของผมมั้ง ขนของกลับห้องไปไม่รู้กี่รอบแต่ไม่เกินสองวันครับน้องเค้าก็จะกลับมาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม เหมือนไม่เคยเสียใจแล้วกลับมาอยู่ด้วยแบบนี้เป็นครึ่งปีได้ครับ จนผมตัดสินลาออกจากงานแล้วกลับไทย เพื่อให้ผมได้เข้าใจหัวใจตัวเอง ผมเลยกลับไปอยู่บ้านแล้วชอบไปเที่ยวตามดอยบ่อยๆ น้องเค้าก็โทรหาผมบ่อยนะ แต่ทุกครั้งที่โทรมาก็จะบอกว่าพี่ทำนี้นะ ไม่ว่างนะ วันๆ คุยกันไม่ถึง2นาที มีอยู่วันหนึ่งผมดันไปเจอบุหรี่พม่าที่เป็นที่เป็นทำมาจากใบไม้ แล้วน้องเค้าโทรมาพอดีพอเปิดกล้องกัน น้องเค้าก็ทำเหมือนจะร้องไห้แล้วอยู่ๆน้องเค้าก็ร้องไห้ออกมา เค้าร้องไห้แล้วพูดว่า พี่ไม่มีเงินหรอ พี่ไม่มีทำไมไม่บอกหนู ผมอึ่งครับจุกในใจว่า เค้ารักเราขนาดนี้เลยหรอ ผมก็เลยบอกน้องเค้าไปว่ามีครับ เรื่องเงินไม่มีปัญหาเลย แต่พี่แค่อยากลอง น้องเค้าเลยยิ้มได้ ผมเลยขอนั่งเล่นกับเพื่อน น้องเค้าก็วางสายไป แล้วอยู่ๆ ก็มีเงินเข้ามาในบัญชี 50000บาท ผมเลยทักไปหนูโอนมาหรอโอนมาทำไม แล้วคำตอบที่น้องเค้าตอบมา เค้าบอกว่ารู้อยู่ว่าบุหรี่มันไม่ดี แล้วหนูก็ไม่ห้ามพี่ด้วย ถ้าจะดูดก็ดูดที่มันดีหน่อยจะได้อยู่ด้วยกันนานๆเป็นคำตอบที่อึ่งมากๆครับ ผ่านเข้าเดือนที่3ที่ผมกลับบ้าน น้องเค้าก็ขอกลับมาอยู่กับผมที่บ้านซึ่งผมก็ยังไม่พร้อมที่จะให้น้องเค้ากลับมาอยู่กับผมเลย เพราะว่าน้องเค้าพูดถึงเรื่องอยากสร้างครอบครัวอยากแต่งงานแล้วแล้วน้องเค้าบอกบ้านหนูมีสวนกาแฟเยอะเลยนะ ที่เปล่าๆก็เยอะด้วยเดียวไปคุยกับแม่เองขอที่มาสักหน่อยเราหาไรทำกัน ผมก็เลยบอกน้องเค้าว่า หนูกลับมาแล้วเที่ยวก่อนสักเดือนไหม เดียวมาอยู่บ้านแล้วอยากไปเที่ยวอาจจะไม่ได้เที่ยวมากมายเท่าไหร่นะ น้องเค้าก็ฟังผมนะ น้องเค้าก็ไปเที่ยว ครบเดือนก็ถามอีก หนูไปหาพี่ได้ยังผมก็บอกว่าลองเที่ยวอีกสักเดือนไหมใช่ครับน้องเค้าก็ฟังผม แล้วเที่ยวอีกรอบ ไม่ทันถึงเดือนครับน้องเค้าก็มาบอกเลิกผมว่า เค้าทนไม่ไหวแล้วที่ผมทำแบบนี้กับเค้าตลอด พยายามหนีห่างตลอด แล้วเราก็เลิกกันไปซึ่งช่วงแรกผมไม่ได้มีสุขหรือว่าทุกข์นะกับการเลิกกันครั้งนี้ แต่สุขอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ ผ่านไป3เดือนผมเริ่มมีอาการที่อธิบายไม่ออก เหมืนมีอะไรจุกอยู่ในใจที่อธิบายไม่ได้ เลยตัดสินใจเดินทางมาทำงานที่จีนครับ แล้วผมก็ใช้เวลาทำความเข้าใจกับความรู้สึกนี้อยู่3ปีครับ แล้วไม่คุยใคร ไม่คบใคร ทำงานกลับบ้านนอนแบบนี้ประจำ แต่การนอนก็ต้องกินยานอนหลับครับ กินเป็นปีๆ แล้วก็มาวันหนึ่งวันที่ ออกไปเที่ยววันตรุษจีนกับเพื่อนๆ แล้วนั่งดื่มกัน ปกติผมไม่ดื่มครับ แต่วันนั้นดื่มเบียร์ได้หวานได้มีความสุขมากๆ อยู่ๆผมก็ร้องไห้ ร้องไห้ออกมาแบบไม่รู้ตัวร้องไห้พร้อมกับเสียงที่ดังเหมือนเด็กร้องไห้จนเดินไม่ไหว เพื่อนต้องพยุงซ้ายขวาพากลับ เดินผ่านผู้คนมากมายกลับไปยังบ้านแล้วก็หลับไป ตื่นเช้ามาอีกวันความรู้สึกโล่งก็เข้ามาแทนความรู้สึกที่ขาดหายไปนั้นก็ยังอยู่นะครับไม่รู้ว่าชีวิตนี้มันจะหาเจอเมื่อไหร่ ก็เลยติดสินใจกลับไทย (ปีที่2ของการอยู่จีน มีครั้งหนึ่งที่ผมตัดสินใจกลับไทยแล้วบวชอยู่ช่วงหนึ่งแต่ก็ยังไม่ช่วยอะไรเลยกลับไปต่อ)
คนรักคนที่3 เป็นช่วงที่ผมกลับไทยครั้งล่าสุดครับ มีแพลนเที่ยวมากมายครับ แต่สุดท้ายก็มีเรืองให้ต้องกลับเชียงใหม่ ยอมทิ้งโรงแรมต่างๆที่จองไว้ยอมทิ้งคอนเสิรตที่อยากดูเพียงเพราะว่าพี่สาวจะกลับจีนเลยตัดสินใจไปส่งแล้วซื้อตั๋วกลับเชียงใหม่เลย วันนั้นไปถึงเชียงใหม่เย็นเลย แล้วอัพรูปลงเฟสว่า ดีเชียงใหม่ เพื่อนสนิทคนหนึ่งโทรเข้ามาถามว่าอยู่ไหน ผมบอกว่าอยู่เชียงใหม่แล้ว แล้วผมถามว่าทานข้าวยัง เพื่อนตอบกำลังทานเลย เค้าก็ถามกลับทานข้าวยัง ผมก็ตอบยัง เพื่อนถามหิวมากไหมผมก็บอกทุ่มกว่าๆ เหละค่อยออกไปหาไรทาน เพื่อนรีบบอกแฟนเลย เดียวเราไปทานข้าวที่เชียงใหม่กันเชื่อไหมเพื่อนทิ้งข้าวบนโต๊ะแล้วรีบขับรถลงมาหาผมเลย พอถึงก็ออกไปทานข้าวกันปกติ เพื่อนก็ส่งแฟนกลับโรงแรมแล้วออกมานั่งคุยกันเล่นๆตรงร้านชิวน้องชาย
เพื่อนกิอีกคนก็ชวนออกไปดื่มชิวๆ อีกร้านก็เลยติดสินใจไปนั่งชิวกัน นี้เหละครับ ตอนผมเดินเข้าร้าน มีผู้หญิงคนหนึ่งนั่งติดกับทางเข้า ผมก็มองไม่ละสายตาเธอก็มองไม่ละสายตา แต่ผมนึกว่าเค้าคงมานั่งรอแฟนตัวเองเล่นพลูมั้ง ก็เลยได้แค่มอง มองจนคอหัน นั่งดื่มสักพักก็เลยติดสินใจเดินเข้าไปขอเฟสน้องเค้า ขอทั้งไลน์ ไอจีเลย กลัวน้องเค้าจะคิดว่าเรามีแฟน หรือไม่จริงใจ แล้วจากนั้นมา ผมกับน้องเค้าก็คุยกันได้สักพักแต่ไม่ได้คุยเยอะนะ แชทหาตอนเช้าตอบเย็นอะไรแบบนี้ แต่ช่วงนี้ผมก็คุยอีกคนที่คุยตลอดเวลาอยู่แล้ว แล้ววันหนึ่งเพื่อนชวนไปไหว้พระรอบเชียงใหม่เลย แต่ทุกวัดที่ไปจะอยู่อย่างเดียวเลย ขอคนรักสักคนที่ใช่คนที่ไม่ใช่ขอให้ออกไป เชื่อไหมกลับมาผมขอหยุดคุยกับคนที่ผมคุยอยู่ แล้วมาคุยกับน้องเค้า แล้วถามชื่ออายุ การงานต่างงๆ น้องเค้าตอบว่าหนูอายุ17เองนะ ผมตกใจไม่ได้ตอบไรเลย เลยรีบบล็อกช่องทางติดต่อทันที แต่ไอจีไม่บล็อกน้องก็เลยโทรมาทางไอจีเลยก่อนหน้าไม่เคยโทรมีแต่พิมพ์คุย น้องเค้าบอกล่อเล่นหนู19แล้วนะ อีก 2เดือนกว่าก็20แล้ว ก็เลยติดสินใจคุยแล้วจนได้คบ ตลอดเวลาไม่ว่าทำไรอยู่ก็เปิดกล้องทิ้งไว้ตลอดผมไม่ได้ขอนะ แต่น้องเค้าเป็นคนขอและทำเองทั้งเปิดทิ้งไว้ตอนเที่ยว ตอนดื่ม น้องเค้าก็อยากให้อยยู่ในสายตลอด เวลานอนก็เปิดไว้ซึ่งมันดีมากๆ ครับ ความรักดีถึงจุดที่ว่าไม่รู้ว่าทำไมมันดีได้ขนาดนี้ คุยหนึ่งเดือนตกลงเป็นแฟน อาทิตย์เดียวผมพากลับบ้านพาไปเจอผู้ใหญ่ เอาแหวนประจำตกูลให้เลยแล้วย้ายมาอยู่ด้วยกัน แต่เชื่อไหมครับน้องคนนี้เป็นทุกอย่างที่ผมไม่ชอบเลย พอเริ่มอยู่ด้วยกันน้องเค้าหึงแรงมากครับ หึงทุกอย่างงอลทุกอย่าง
แม้แต่พนักงานที่ร้านตัวเองยังหึงหรือว่างอลได้ แต่ๆเชื่อไหมครับ เรื่องที่ผมตามหามาตลอดชีวิตมันกลับหายไปเหมือนมันได้พบเจอสิ่งที่ขาดหายไปในใจผมตลอดมาซึ่งไม่รู้ว่ามันหายไปได้ไง แต่มันหายจริงๆ แต่ก็มีอาการประหลาดเข้ามาแทน น้องเค้าป่วยผมก็จะป่วย น้องเค้าเศร้าผมก็จะเศร้า น้องเค้าสุขผมก็จะสุขตาม