ไม่ไหวแล้วครับช่วยหน่อยครับ ขอระบายหน่อย ขอเกริ่นก่อนผมอายุ 28ปี และมีแฟนอายุ 20 ซื่งเราอายุห่างกันโดยประมาณ8ปี
ผมไม่ค่อยได้อยู่ไทยเท่าไหร่ อาจจะกลับปีละครั้งแต่กลับแต่ละครั้ง จะกลับไปอยู่พักผ่อนต่ำๆก็ครึ่งปี ซึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ช่วงต้นเดือนธันวาคมผมก็ได้เดินทางกลับประเทศไทยเพื่อกลับไปพักผ่อน ซึ่งได้เที่ยวพักผ่อนที่ กทม อยู่ เกือบอาทิตย์ ก็เลยตัดสินใจกลับเชียงใหม่ไปพักผ่อนที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตัวเอง ปกติเป็นคนไม่ได้ติดโซเซียลเท่าไหร่ ซึ่งวันหลัง ลงจากเครื่องปุ๊บน้องชายมารับก็แวะซื้ออาหารให้น้องแมวที่บ้านแล้วของเล่นต่างๆของน้องแมว แล้วก็อัพสตอรรี่ลงในเฟสว่าสวัสดีครับเชียงใหม่ ซึ่งทีนี้เพื่อนๆ ที่อยู่แต่ละจังหวัดแต่พอเห็นโพสต์ว่าผมได้กลับมายังประเทศไทยแล้ว ซึ่งผมถึงเชียงใหม่ตอนประมาณบ่ายสามโมงเย็นเชื่อไหมเพื่อนที่อยู่เชียงรายกำลังจะทำข้าวเย็นทานกันอยู่กับแฟนของเขาก็รีบบอกให้แฟนเตรียมตัวแล้วขับรถลงมาผมที่เชียงใหม่เพื่อมาทานข้าวด้วยกัน เพื่อนๆในเชียงใหม่ก็นัดกันทานข้าวด้วยกัน พอตกดึกก็ได้พากันนั่งดื่มชิวๆ ผ่านไปสักช่วงสามทุ่มกว่าๆมีเพื่อนคนหนึ่งบอกเราไปนั่งชิวๆกันที่ร้านชิวๆสักที่ไหม คุยกันอยู่สักพักก็เลยพากันไปนั่งดื่มในร้านชิวๆร้านหนึ่ง แล้วเรื่องทุกอย่างก็เกิดขึ้น
เมื่อผมเดินเข้าร้านไป ผมไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงโซฟาตรงที่เค้าเล่นสนุกเกอร์กันใส่เสื้อกีฬาสีน้ำเงินเกงขาสั้นปกติ แล้วเธอก็หันหน้ามามองผม และผมก็มองเธอกลับไปด้วยอาการที่หัวใจเต้นแรงแล้วคิดในใจ ทำไมคนๆนี้ถึงทำให้หัวใจผมเต้นได้แรงขนาดนี้ แต่กลับกันสายตาที่เธอมองผมนั้นเป็นสายตาที่ดุมากเหมือนไปโกรธไรมาแล้วจะฆ่าผมให้ได้เลย แต่ผมกลับตกหลุมรักในสายตานั้น นั่งดื่มสักพักเพื่อนก็ชวนกันเข้าห้องวีเพื่อที่จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเดิมและสามารถร้องเพลงกัน ผมซึ่งคิดว่าเธออาจจะมากับแฟนของเธอซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งในผู้ชายที่กำลังเล่นสนุกเกอร์กันอยู่ก็เลยติดสินใจ โอเครตกลงเข้าห้องวีกับเพื่อนไป พนักงานในนั้นก็ถามเรียกน้องๆมานั่งเป็นเพื่อนกันไหม ซึ่งเพื่อนก็ตอบตกลง พอมีน้องๆเดินเข้ามาทุกคนก็เลือกน้องๆที่ตัวเองต้องการแล้วทีนี้ผมไม่เลือกใครเพราะว่าไม่ได้ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้วเที่ยวดื่มก็คือดื่ม แต่ทีนี้มีน้องคนหนึ่งอยู่หลังสุดผมก็มองไปแล้วเป็นเธอคนนั้นที่ทำให้ใจผมเต้นแรงนั้นเอง ที่เธอมาช้าเพราะว่ากำลังไปเปลี่ยนชุดมา (ซึ่งตอนหลังเธอบอกว่ากำลังจะกลับแต่พี่เจ้าของเรียกให้เข้ามาก่อน ) ผมก็เลยตัดสินใจเรียกเธอให้มานั่งชมเหล้าให้ ก็ดื่มร้องเพลงกันไปตามปกติ ผมก็ขอแลกไลน์เธอ และแลกเฟส แลกไอจี และขอทั้งเบอร์ของเธอไว้ ดื่มเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน อีกวันก็ทักไปคุยกับเธอคนนี้ ก็ทักคำตอบคำ ทักคำตอบคำแบบนี้ไป3วันได้มั้งครับ (ที่นี้เลยตัดสินใจ ขอเปลี่ยนจากเธอเป็นน้องนะครับ) ทักไปชวนน้องเค้าออกมาเที่ยว ไม่ได้ชวนไปดื่มนะชวนไปทานข้าวไปเดินเล่นอะไรประมาณนี้ ซึ่งผมไม่อยากไปเจอเธอในร้านเหล้า
เพราะไม่อยากให้น้องเค้ามองผมแบบลูกค้า ซึ่งน้องเค้าก็ปฏิเสธไป แล้วก็ปฏิเสธอีกสองสามรอบ มีวันหนึ่งเลยถามอายุน้องเค้าเล่นๆ น้องก็ตอบว่า17ซึ่งผมก็ตกใจ เลยคิดว่าต้องตัดความคิดที่จะจีบน้องเค้าแล้ว ก็เลยตัดสินใจบล็อกเฟสน้องเค้าไป แล้วผมก็กลับไปพักผ่อนบนดอยรับอากาศ จากที่น้องเค้าไม่ได้สนใจอะไรผมเลยแต่แรก ทีนี้กลับกันน้องเค้าเห็นว่าผมบล็อกน้องเค้าไปน้องเค้าโทรมาถามทางไอจีทันทีว่าบล็อกเค้าทำไม ผมก็เลยบอกไปว่าน้องยังเด็กพี่ซึ่งพี่เป็นผู้ใหญ่ไม่ควรไปยุ่งกับน้องพร้อมกับความรู้สึกแบบนั้น แล้วทีนี้น้องเค้าก็หัวเราะ แล้วบอกพี่หนูอายุ19 อีก2เดือนนิดๆ ก็จะ20แล้วพี่สบายใจได้ เอาแล้วไงทีนี้ จากที่ตัดใจไปแล้วว่าจะไม่ยุ่งกับน้องเค้า กลายเป็นว่าน้องเค้าดันมาสนใจผมแบบเต็ม100เลย ทักมาคุยมาถามโทรมา ทำไรก็ถ่ายมาให้ดูตลอด ทีนี้ก็คุยกันยาวเลย แต่ไม่ได้ไปหาหรือเจอน้องเค้าแล้วนะ น้องเค้าทำงานก็เปิดกล้องไว้ ให้เห็นว่าทำไรอยู่ หรือไม่ก็โทรเสียงไว้ตลอดเวลาซึ่งมันทำให้ผมสบายใจไม่ต้องมานั่งกังวนว่าน้องเค้าจะทำไรไม่ดีหรือว่าเกินกว่างานตัวเอง ก็เลยคุยกันไปเปิดกล้องกันวันละ 10ชั่วโมงกว่าไม่คุยก็เปิดไว้งั้นเหละ กลางเดือนมกราคมวันที่7ผมก็ชวนน้องเค้าไปเที่ยวงานฤดูหนาวกันน้องเค้าตกลง ก็เลยรถจากดอยลงมาในตัวเมืองแล้วไปเช่าโรงแรมใกล้ๆพักเอาเพราะว่ามีเพื่อนมาเที่ยวด้วย ก็เที่ยวปกตินะแต่น้องเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่
พอกลับพาเพื่อนๆไปส่งที่โรงแรม บอกกับเพื่อนว่าเดียวไปส่งน้องเค้าแล้วกลับมา ผมดันไปเห็นสีหน้าน้องเค้าดูนอยด์
เหมือนอยากขึ้นไปด้วย แต่ผมก็เลือกขับรถไปส่งน้องเค้าที่หอแต่น้องเค้าบอกว่าเราไปดื่มเบียร์กันที่ลานเบียร์ไหมซึ่งอยู่ใกล้ๆหอน้องเค้าเอง ก็เลยตกลงดื่มกัน ดื่มจนถึงตี4 ก็บอกน้องเค้าพอเรากลับกันเถอะ ทีนี้ดื่มเยอะเลยถามไปว่าไปนอนห้องหนูได้ไหม เมาแล้วขับไม่ดี น้องเค้าบอกห้องแคบนอนไม่ได้ ผมก็เลยบอกว่างั้นเดียวไปเปิดโรงแรมแถวนี้เอา แล้วดันเผลอหลุดปากพูดว่างั้นไปนอนกับพี่ไหมน้องเค้าดันตอบตกลง ทีนี้ก็ตื่นเลยไม่เปิดละขับตรงกลับไปยังโรงแรมเดิม
(ผมกับเพื่อนเปิดคนละห้องนะครับ) ซึ่งคืนนั้นก็ผ่านไปโดยที่ผมไม่ได้แตะต้องตัวน้อวเค้า มีแต่ต้องเค้าชอบหมุดเข้าหาผม เที่ยวเล่นในตัวเมืองอยู่วันสองวันก็กลับไปบนดอยปกติก็คุยกันปกติ ต้นเดือนกุมภาน้องเค้าบอกว่าจะย้ายหอเอาที่ห้องกว้างๆแล้วเวลาพี่อยู่ตัวเมืองก็มาพักกับหนูได้แบบสบายๆผมก็เลยตัดสินใจย้ายไปอยู่กับน้องเค้าโดยไม่ไปพักอยู่บ้านในตัวเมือง ซึ่งฟังมาถึงตรงนี้ความรักมันดีมากๆ เลยใช่ไหมครับ นี้เหละครับปัญหามันเริ่มจากนี้เลยครับ วันที่7 ซึ่งคือวันเกิดของผม ก็เลยจัดงานกันดื่มกันนิดหน่อยแต่น้องเค้าไปทำงานนะครับเพราะว่าไม่ได้ลาล่วงหน้าไว้ ทานข้าวกับเพื่อนได้สักพัก ก็เลยบอกเพื่อนว่าไปเราไปที่ร้านแฟนผมกัน ไปจัดนุ้นดีกว่าแฟนก็อยู่ด้วย เชื่อไหมวันนั้นเค้กสักก้อนก็ไม่มี คำอวยพรก็ไม่มี แฮปปี้เบิดน์เดย์ก็ไม่มี น้องเค้าก็ทำงานปกติ ทีนี้เจ้าของร้านนึกว่าเป็นวันเกิดเพื่อนผมเลยเอาเค้กมาให้เพื่อนผมเป่า (พึ่งมารู้เจ้าร้านกับเพื่อนเค้ารู้จักกันมานาน) วันนั้นผมเลยมีเค้กเป่า ก็ไม่ได้ว่าอะไรซึ่งเหตุผลที่น้องเค้าให้กับผมก็คือ เราคบกันยังไม่มีใครรู้เลยก็เลยไม่กล้าเข้าไปกวนซึ่งเหตุผลที่น้องเค้าให้ก็ฟังขึ้น ผ่านไปสักช่วงบ้านที่บนดอยก็มีการจัดงานปีใหม่ตรุษจีนก็เลยถือโอกาสพาไปพอเจอคุณตาคุณยายแล้วพาเที่ยวงานด้วยเลย ซึ่งก่อนหน้าก็บอกกับทางบ้านแล้วน้องเค้าคุยไม่เก่งนะ แต่พอไปถึงถึงกับปวดหัวเลย น้องเค้าไม่คุยกับใครเลย พาไปเจอเพื่อนๆ ก็ไม่คุยกันเลย โชคดีหน่อยที่บ้ายที่ดอยสร้างไว้สองหลังติดกันเลยทำให้บรรยกาศไม่ได้อึดอัดจนขนาดนั้น (แต่กับเพื่อนของน้องเค้าหรือว่าคนที่รู้จักก็คุยยิ้มแย้มนะ) ทีนี้ก็กลับมาในตัวเมืองก็เลยถามน้องเค้าว่าอยากทำอะไรเป็นของตัวเองไหมเดียวพี่ทำให้(น้องเค้าเป็นชาวเพื่อนบ้านแต่มาเติบโตที่ไทยและก็ไม่ได้เรียนสูง) ไปเรียนอาชีพไรไหมเดียวส่งให้แล้วมาเปิดเป็นของเรา ซึ่งเธอก็ปฏิเสธ ผมก็ไม่ได้ว่าไรก็มีคุยนะ ไปเรียน กศษ ไหมเดียวจบแล้วพี่ส่งเรียนมหาลัยแบบเล่นออนไลน์ไม่ก็เล่นภาคพิเศษเอาจะได้เปิดโลกหน่อย จะได้มีเพื่อนๆ ที่สามารถพาเราไปเจออะไรที่ดีกว่าตอนนี้ (ซึ่งน้องเค้าทำงานร้านชิวเดินเสริฟอาหารเสริฟเบียร์ตั้งคบกันน้องเค้าก็ไม่นั้งกับลูกค้าเปลี่ยนร้านมาทำร้านธรรมดาแทนซึ่งตรงนี้เห็นถึงความจริงใจของน้องเค้า) น้องเค้าก็ไม่เอาผมเลยตัดสินใจเปิดร้านตรงข้างๆร้านที่น้องทำงานเป็นร้านเมนูเส้นที่เอามาจากจีน ซึ่งก็บอกกับน้องเค้านะเดียวกำไรทั้งหมดหนูเอาไปเลยนะ ซึ้งของแต่ละชิ้นในร้านเลาะของเก่าทิ้งหมด ซื้อใหม่หมดทุกอย่าทำให้อย่างดี แต่น้องเค้าก็ไม่สนใจไม่อยากเข้าไปดูแลก็เลยเข้าไปดูแลเอง แล้วบอกว่าถ้าชอบทำงานแบบร้านเครื่องดื่มเรามาเปิดกันหนูดูแลนะน้องเค้าบอกไม่เอาเหนื่อยผมก็เลยหยุดความคิดนั้นเลย (น้องเค้าทำงานร้านชิวเริ่มงาน 22:00ถึง05:30และเดินเสริฟตลอด) ซึ่งตอนเปิดร้านใหม่ก็จะมีพวกเพื่อนๆ ญาติๆมาเที่ยวมาอุดหนุดกันเยอะมาก ซื้อดอกไม้ซื้อของมาต้อนรับร้านใหม่ ตลอดเวลาน้องเค้าไม่เคยคุยกับเพื่อนๆหรือว่าญาติๆที่มาเยี่ยมเลย
มีถึงขั้นนั้งอยู่ด้วยกัน น้าสาวพูดคุยด้วยแต่น้องเค้าทำหน้านิ่งเฉยแล้วพูดอะไรอยู่ในคอ จนทำให้น้าสาวหน้าเสียไปเลย
พอผมพูดว่าน้าเค้าถามนี้ๆอยู่แกก็นั่งเงียบไม่พูดไรจนบรรยกาศเสีย เราก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุยกัน ช่วงพ่อแม่ลงมาจากเชียงรายเพื่อมาเยียมดูร้านที่เชียงใหม่ น้องพนักงานที่ร้านก็โทรมาบอกมีคนมายเยอะมากเลยถามหาแต่พี่ พี่เข้าร้านหน่อยสิ ก็เคยถามน้องพนักงานว่ารูปร่างหน้าตาเป็นไงก็เลยได้คำตอบว่าเป็นพ่อกับแม่พร้อมญาติๆซื้อมากันเยอะมาก
จนทุกคนไม่ได้ทานกันครบ ผมก็ชวนน้องเค้านะว่าพ่อกับแม่มาไปเราไปเจอพ่อกับแม่กัน แต่น้องเค้าก็บอกไม่ไป
ชวนยังไงก็ไม่ไปจนจนผมคิดในใจว่าถ้าไม่ไปก็คงต้องเลิกกันแล้วละ พ่อแม่อุตสามาเยี่ยม จนผมขอจนเธอยอมไปด้วย
แต่พอไปถึงร้านคนเยอะมาก ผมก็เข้าไปช่วยน้องพนักงงานซึ้งน้องเค้าก็ไม่ได้มาช่วยอะไรเลยผมก็เดินเสริฟๆ น้องเค้าก็นั้งเล่นโทรศัพท์ซึ้งก็นั่งโต๊ะข้างๆ พ่อกับแม่แต่ไม่คุยหรือสวัสดีพ่อแม่ผมสักคำ ผมก็เก็บอาการไว้ พอพ่อกับแม่จะกลับ แต่กลายเป็นพ่อแม่ผมต้องเดินมาคุยแล้วสวัสดีลาน้องเค้ากลับสะงั้น ซึ่งผมโกรธมากแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการได้แต่เก็บอาการไว้ เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบมากๆ ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเป็นกลุ่ม ทานข้าวหรือนัดดื่มกันน้องเค้าก็จะเป็นแบบนี้แสดงสีหน้าไม่ดีใครคุยด้วยก็ตอบไม่อยากตอบก็เงียบจนคนคุยด้วยหน้าเสียกันไปเป็นแถวๆ แค่สั่งข้าวพนักงานเอามาผิดก็หน้านิ่งเงียบไม่พูดแล้วทำหน้าโกรธจนเพื่อนๆ ในวงต้องถามกันเกือบทุกคนสั่งให้ใหม่ไหม เดียวสั่งให้ก็บอกไม่เอาๆ แต่ก็นั่งเงียบแสดงสีหน้าไม่พอใจ จนเพื่อนๆผมในกลุ่มบางคนถึงขั้นขอตัวกลับ้านเป็นแบบนี้ประจำ ซึ้งผมก็ถามเธอนะว่าทำไมเป็นแบบนี้น้องเค้าก็ตอบว่าหนูก็เป็นแบบนี้เหละ ว่างๆผมก็จะไปนั่งดื่มร้านที่น้องเค้าทำงานไปก็เห็นน้องเค้าคุยยิ้มแย้ม พูดคุยกับลูกค้าทุกคน บางทีก็มีแบบคุยๆกับผมอยู่ มีคนรู้จักที่ไม่ได้สนิทแต่รู้ว่ารู้จักก็เดินออกไปไหว้ยิ้มแย้มพูดคุยสนุก ไปนั่งทานข้าวหรือว่าไปดื่มกันก็พูดคุยกับโต๊ะข้างๆ ได้สนุกเฮฮา ถามว่ารู้จักไหมก็บอกว่าไม่ พอถามว่าคุยทำไมสนุกขนาดนั้นน้องเค้าก็บอกก็เค้าคุยด้วย โต๊ะไหนยกแก้วชนยิ้มให้ก็ชนยิ้มให้เหมือนเป็นคนที่ชอบพูดคุย
ช่วยด้วยครับ ไม่ไหวกับความสัมพันธ์แบบนี้แล้ว
ผมไม่ค่อยได้อยู่ไทยเท่าไหร่ อาจจะกลับปีละครั้งแต่กลับแต่ละครั้ง จะกลับไปอยู่พักผ่อนต่ำๆก็ครึ่งปี ซึ่งเมื่อปลายปีที่แล้ว ช่วงต้นเดือนธันวาคมผมก็ได้เดินทางกลับประเทศไทยเพื่อกลับไปพักผ่อน ซึ่งได้เที่ยวพักผ่อนที่ กทม อยู่ เกือบอาทิตย์ ก็เลยตัดสินใจกลับเชียงใหม่ไปพักผ่อนที่เชียงใหม่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตัวเอง ปกติเป็นคนไม่ได้ติดโซเซียลเท่าไหร่ ซึ่งวันหลัง ลงจากเครื่องปุ๊บน้องชายมารับก็แวะซื้ออาหารให้น้องแมวที่บ้านแล้วของเล่นต่างๆของน้องแมว แล้วก็อัพสตอรรี่ลงในเฟสว่าสวัสดีครับเชียงใหม่ ซึ่งทีนี้เพื่อนๆ ที่อยู่แต่ละจังหวัดแต่พอเห็นโพสต์ว่าผมได้กลับมายังประเทศไทยแล้ว ซึ่งผมถึงเชียงใหม่ตอนประมาณบ่ายสามโมงเย็นเชื่อไหมเพื่อนที่อยู่เชียงรายกำลังจะทำข้าวเย็นทานกันอยู่กับแฟนของเขาก็รีบบอกให้แฟนเตรียมตัวแล้วขับรถลงมาผมที่เชียงใหม่เพื่อมาทานข้าวด้วยกัน เพื่อนๆในเชียงใหม่ก็นัดกันทานข้าวด้วยกัน พอตกดึกก็ได้พากันนั่งดื่มชิวๆ ผ่านไปสักช่วงสามทุ่มกว่าๆมีเพื่อนคนหนึ่งบอกเราไปนั่งชิวๆกันที่ร้านชิวๆสักที่ไหม คุยกันอยู่สักพักก็เลยพากันไปนั่งดื่มในร้านชิวๆร้านหนึ่ง แล้วเรื่องทุกอย่างก็เกิดขึ้น
เมื่อผมเดินเข้าร้านไป ผมไปเจอผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงโซฟาตรงที่เค้าเล่นสนุกเกอร์กันใส่เสื้อกีฬาสีน้ำเงินเกงขาสั้นปกติ แล้วเธอก็หันหน้ามามองผม และผมก็มองเธอกลับไปด้วยอาการที่หัวใจเต้นแรงแล้วคิดในใจ ทำไมคนๆนี้ถึงทำให้หัวใจผมเต้นได้แรงขนาดนี้ แต่กลับกันสายตาที่เธอมองผมนั้นเป็นสายตาที่ดุมากเหมือนไปโกรธไรมาแล้วจะฆ่าผมให้ได้เลย แต่ผมกลับตกหลุมรักในสายตานั้น นั่งดื่มสักพักเพื่อนก็ชวนกันเข้าห้องวีเพื่อที่จะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเดิมและสามารถร้องเพลงกัน ผมซึ่งคิดว่าเธออาจจะมากับแฟนของเธอซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งในผู้ชายที่กำลังเล่นสนุกเกอร์กันอยู่ก็เลยติดสินใจ โอเครตกลงเข้าห้องวีกับเพื่อนไป พนักงานในนั้นก็ถามเรียกน้องๆมานั่งเป็นเพื่อนกันไหม ซึ่งเพื่อนก็ตอบตกลง พอมีน้องๆเดินเข้ามาทุกคนก็เลือกน้องๆที่ตัวเองต้องการแล้วทีนี้ผมไม่เลือกใครเพราะว่าไม่ได้ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้วเที่ยวดื่มก็คือดื่ม แต่ทีนี้มีน้องคนหนึ่งอยู่หลังสุดผมก็มองไปแล้วเป็นเธอคนนั้นที่ทำให้ใจผมเต้นแรงนั้นเอง ที่เธอมาช้าเพราะว่ากำลังไปเปลี่ยนชุดมา (ซึ่งตอนหลังเธอบอกว่ากำลังจะกลับแต่พี่เจ้าของเรียกให้เข้ามาก่อน ) ผมก็เลยตัดสินใจเรียกเธอให้มานั่งชมเหล้าให้ ก็ดื่มร้องเพลงกันไปตามปกติ ผมก็ขอแลกไลน์เธอ และแลกเฟส แลกไอจี และขอทั้งเบอร์ของเธอไว้ ดื่มเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้าน อีกวันก็ทักไปคุยกับเธอคนนี้ ก็ทักคำตอบคำ ทักคำตอบคำแบบนี้ไป3วันได้มั้งครับ (ที่นี้เลยตัดสินใจ ขอเปลี่ยนจากเธอเป็นน้องนะครับ) ทักไปชวนน้องเค้าออกมาเที่ยว ไม่ได้ชวนไปดื่มนะชวนไปทานข้าวไปเดินเล่นอะไรประมาณนี้ ซึ่งผมไม่อยากไปเจอเธอในร้านเหล้า
เพราะไม่อยากให้น้องเค้ามองผมแบบลูกค้า ซึ่งน้องเค้าก็ปฏิเสธไป แล้วก็ปฏิเสธอีกสองสามรอบ มีวันหนึ่งเลยถามอายุน้องเค้าเล่นๆ น้องก็ตอบว่า17ซึ่งผมก็ตกใจ เลยคิดว่าต้องตัดความคิดที่จะจีบน้องเค้าแล้ว ก็เลยตัดสินใจบล็อกเฟสน้องเค้าไป แล้วผมก็กลับไปพักผ่อนบนดอยรับอากาศ จากที่น้องเค้าไม่ได้สนใจอะไรผมเลยแต่แรก ทีนี้กลับกันน้องเค้าเห็นว่าผมบล็อกน้องเค้าไปน้องเค้าโทรมาถามทางไอจีทันทีว่าบล็อกเค้าทำไม ผมก็เลยบอกไปว่าน้องยังเด็กพี่ซึ่งพี่เป็นผู้ใหญ่ไม่ควรไปยุ่งกับน้องพร้อมกับความรู้สึกแบบนั้น แล้วทีนี้น้องเค้าก็หัวเราะ แล้วบอกพี่หนูอายุ19 อีก2เดือนนิดๆ ก็จะ20แล้วพี่สบายใจได้ เอาแล้วไงทีนี้ จากที่ตัดใจไปแล้วว่าจะไม่ยุ่งกับน้องเค้า กลายเป็นว่าน้องเค้าดันมาสนใจผมแบบเต็ม100เลย ทักมาคุยมาถามโทรมา ทำไรก็ถ่ายมาให้ดูตลอด ทีนี้ก็คุยกันยาวเลย แต่ไม่ได้ไปหาหรือเจอน้องเค้าแล้วนะ น้องเค้าทำงานก็เปิดกล้องไว้ ให้เห็นว่าทำไรอยู่ หรือไม่ก็โทรเสียงไว้ตลอดเวลาซึ่งมันทำให้ผมสบายใจไม่ต้องมานั่งกังวนว่าน้องเค้าจะทำไรไม่ดีหรือว่าเกินกว่างานตัวเอง ก็เลยคุยกันไปเปิดกล้องกันวันละ 10ชั่วโมงกว่าไม่คุยก็เปิดไว้งั้นเหละ กลางเดือนมกราคมวันที่7ผมก็ชวนน้องเค้าไปเที่ยวงานฤดูหนาวกันน้องเค้าตกลง ก็เลยรถจากดอยลงมาในตัวเมืองแล้วไปเช่าโรงแรมใกล้ๆพักเอาเพราะว่ามีเพื่อนมาเที่ยวด้วย ก็เที่ยวปกตินะแต่น้องเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่
พอกลับพาเพื่อนๆไปส่งที่โรงแรม บอกกับเพื่อนว่าเดียวไปส่งน้องเค้าแล้วกลับมา ผมดันไปเห็นสีหน้าน้องเค้าดูนอยด์
เหมือนอยากขึ้นไปด้วย แต่ผมก็เลือกขับรถไปส่งน้องเค้าที่หอแต่น้องเค้าบอกว่าเราไปดื่มเบียร์กันที่ลานเบียร์ไหมซึ่งอยู่ใกล้ๆหอน้องเค้าเอง ก็เลยตกลงดื่มกัน ดื่มจนถึงตี4 ก็บอกน้องเค้าพอเรากลับกันเถอะ ทีนี้ดื่มเยอะเลยถามไปว่าไปนอนห้องหนูได้ไหม เมาแล้วขับไม่ดี น้องเค้าบอกห้องแคบนอนไม่ได้ ผมก็เลยบอกว่างั้นเดียวไปเปิดโรงแรมแถวนี้เอา แล้วดันเผลอหลุดปากพูดว่างั้นไปนอนกับพี่ไหมน้องเค้าดันตอบตกลง ทีนี้ก็ตื่นเลยไม่เปิดละขับตรงกลับไปยังโรงแรมเดิม
(ผมกับเพื่อนเปิดคนละห้องนะครับ) ซึ่งคืนนั้นก็ผ่านไปโดยที่ผมไม่ได้แตะต้องตัวน้อวเค้า มีแต่ต้องเค้าชอบหมุดเข้าหาผม เที่ยวเล่นในตัวเมืองอยู่วันสองวันก็กลับไปบนดอยปกติก็คุยกันปกติ ต้นเดือนกุมภาน้องเค้าบอกว่าจะย้ายหอเอาที่ห้องกว้างๆแล้วเวลาพี่อยู่ตัวเมืองก็มาพักกับหนูได้แบบสบายๆผมก็เลยตัดสินใจย้ายไปอยู่กับน้องเค้าโดยไม่ไปพักอยู่บ้านในตัวเมือง ซึ่งฟังมาถึงตรงนี้ความรักมันดีมากๆ เลยใช่ไหมครับ นี้เหละครับปัญหามันเริ่มจากนี้เลยครับ วันที่7 ซึ่งคือวันเกิดของผม ก็เลยจัดงานกันดื่มกันนิดหน่อยแต่น้องเค้าไปทำงานนะครับเพราะว่าไม่ได้ลาล่วงหน้าไว้ ทานข้าวกับเพื่อนได้สักพัก ก็เลยบอกเพื่อนว่าไปเราไปที่ร้านแฟนผมกัน ไปจัดนุ้นดีกว่าแฟนก็อยู่ด้วย เชื่อไหมวันนั้นเค้กสักก้อนก็ไม่มี คำอวยพรก็ไม่มี แฮปปี้เบิดน์เดย์ก็ไม่มี น้องเค้าก็ทำงานปกติ ทีนี้เจ้าของร้านนึกว่าเป็นวันเกิดเพื่อนผมเลยเอาเค้กมาให้เพื่อนผมเป่า (พึ่งมารู้เจ้าร้านกับเพื่อนเค้ารู้จักกันมานาน) วันนั้นผมเลยมีเค้กเป่า ก็ไม่ได้ว่าอะไรซึ่งเหตุผลที่น้องเค้าให้กับผมก็คือ เราคบกันยังไม่มีใครรู้เลยก็เลยไม่กล้าเข้าไปกวนซึ่งเหตุผลที่น้องเค้าให้ก็ฟังขึ้น ผ่านไปสักช่วงบ้านที่บนดอยก็มีการจัดงานปีใหม่ตรุษจีนก็เลยถือโอกาสพาไปพอเจอคุณตาคุณยายแล้วพาเที่ยวงานด้วยเลย ซึ่งก่อนหน้าก็บอกกับทางบ้านแล้วน้องเค้าคุยไม่เก่งนะ แต่พอไปถึงถึงกับปวดหัวเลย น้องเค้าไม่คุยกับใครเลย พาไปเจอเพื่อนๆ ก็ไม่คุยกันเลย โชคดีหน่อยที่บ้ายที่ดอยสร้างไว้สองหลังติดกันเลยทำให้บรรยกาศไม่ได้อึดอัดจนขนาดนั้น (แต่กับเพื่อนของน้องเค้าหรือว่าคนที่รู้จักก็คุยยิ้มแย้มนะ) ทีนี้ก็กลับมาในตัวเมืองก็เลยถามน้องเค้าว่าอยากทำอะไรเป็นของตัวเองไหมเดียวพี่ทำให้(น้องเค้าเป็นชาวเพื่อนบ้านแต่มาเติบโตที่ไทยและก็ไม่ได้เรียนสูง) ไปเรียนอาชีพไรไหมเดียวส่งให้แล้วมาเปิดเป็นของเรา ซึ่งเธอก็ปฏิเสธ ผมก็ไม่ได้ว่าไรก็มีคุยนะ ไปเรียน กศษ ไหมเดียวจบแล้วพี่ส่งเรียนมหาลัยแบบเล่นออนไลน์ไม่ก็เล่นภาคพิเศษเอาจะได้เปิดโลกหน่อย จะได้มีเพื่อนๆ ที่สามารถพาเราไปเจออะไรที่ดีกว่าตอนนี้ (ซึ่งน้องเค้าทำงานร้านชิวเดินเสริฟอาหารเสริฟเบียร์ตั้งคบกันน้องเค้าก็ไม่นั้งกับลูกค้าเปลี่ยนร้านมาทำร้านธรรมดาแทนซึ่งตรงนี้เห็นถึงความจริงใจของน้องเค้า) น้องเค้าก็ไม่เอาผมเลยตัดสินใจเปิดร้านตรงข้างๆร้านที่น้องทำงานเป็นร้านเมนูเส้นที่เอามาจากจีน ซึ่งก็บอกกับน้องเค้านะเดียวกำไรทั้งหมดหนูเอาไปเลยนะ ซึ้งของแต่ละชิ้นในร้านเลาะของเก่าทิ้งหมด ซื้อใหม่หมดทุกอย่าทำให้อย่างดี แต่น้องเค้าก็ไม่สนใจไม่อยากเข้าไปดูแลก็เลยเข้าไปดูแลเอง แล้วบอกว่าถ้าชอบทำงานแบบร้านเครื่องดื่มเรามาเปิดกันหนูดูแลนะน้องเค้าบอกไม่เอาเหนื่อยผมก็เลยหยุดความคิดนั้นเลย (น้องเค้าทำงานร้านชิวเริ่มงาน 22:00ถึง05:30และเดินเสริฟตลอด) ซึ่งตอนเปิดร้านใหม่ก็จะมีพวกเพื่อนๆ ญาติๆมาเที่ยวมาอุดหนุดกันเยอะมาก ซื้อดอกไม้ซื้อของมาต้อนรับร้านใหม่ ตลอดเวลาน้องเค้าไม่เคยคุยกับเพื่อนๆหรือว่าญาติๆที่มาเยี่ยมเลย
มีถึงขั้นนั้งอยู่ด้วยกัน น้าสาวพูดคุยด้วยแต่น้องเค้าทำหน้านิ่งเฉยแล้วพูดอะไรอยู่ในคอ จนทำให้น้าสาวหน้าเสียไปเลย
พอผมพูดว่าน้าเค้าถามนี้ๆอยู่แกก็นั่งเงียบไม่พูดไรจนบรรยกาศเสีย เราก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุยกัน ช่วงพ่อแม่ลงมาจากเชียงรายเพื่อมาเยียมดูร้านที่เชียงใหม่ น้องพนักงานที่ร้านก็โทรมาบอกมีคนมายเยอะมากเลยถามหาแต่พี่ พี่เข้าร้านหน่อยสิ ก็เคยถามน้องพนักงานว่ารูปร่างหน้าตาเป็นไงก็เลยได้คำตอบว่าเป็นพ่อกับแม่พร้อมญาติๆซื้อมากันเยอะมาก
จนทุกคนไม่ได้ทานกันครบ ผมก็ชวนน้องเค้านะว่าพ่อกับแม่มาไปเราไปเจอพ่อกับแม่กัน แต่น้องเค้าก็บอกไม่ไป
ชวนยังไงก็ไม่ไปจนจนผมคิดในใจว่าถ้าไม่ไปก็คงต้องเลิกกันแล้วละ พ่อแม่อุตสามาเยี่ยม จนผมขอจนเธอยอมไปด้วย
แต่พอไปถึงร้านคนเยอะมาก ผมก็เข้าไปช่วยน้องพนักงงานซึ้งน้องเค้าก็ไม่ได้มาช่วยอะไรเลยผมก็เดินเสริฟๆ น้องเค้าก็นั้งเล่นโทรศัพท์ซึ้งก็นั่งโต๊ะข้างๆ พ่อกับแม่แต่ไม่คุยหรือสวัสดีพ่อแม่ผมสักคำ ผมก็เก็บอาการไว้ พอพ่อกับแม่จะกลับ แต่กลายเป็นพ่อแม่ผมต้องเดินมาคุยแล้วสวัสดีลาน้องเค้ากลับสะงั้น ซึ่งผมโกรธมากแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการได้แต่เก็บอาการไว้ เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบมากๆ ไปไหนมาไหนกับเพื่อนเป็นกลุ่ม ทานข้าวหรือนัดดื่มกันน้องเค้าก็จะเป็นแบบนี้แสดงสีหน้าไม่ดีใครคุยด้วยก็ตอบไม่อยากตอบก็เงียบจนคนคุยด้วยหน้าเสียกันไปเป็นแถวๆ แค่สั่งข้าวพนักงานเอามาผิดก็หน้านิ่งเงียบไม่พูดแล้วทำหน้าโกรธจนเพื่อนๆ ในวงต้องถามกันเกือบทุกคนสั่งให้ใหม่ไหม เดียวสั่งให้ก็บอกไม่เอาๆ แต่ก็นั่งเงียบแสดงสีหน้าไม่พอใจ จนเพื่อนๆผมในกลุ่มบางคนถึงขั้นขอตัวกลับ้านเป็นแบบนี้ประจำ ซึ้งผมก็ถามเธอนะว่าทำไมเป็นแบบนี้น้องเค้าก็ตอบว่าหนูก็เป็นแบบนี้เหละ ว่างๆผมก็จะไปนั่งดื่มร้านที่น้องเค้าทำงานไปก็เห็นน้องเค้าคุยยิ้มแย้ม พูดคุยกับลูกค้าทุกคน บางทีก็มีแบบคุยๆกับผมอยู่ มีคนรู้จักที่ไม่ได้สนิทแต่รู้ว่ารู้จักก็เดินออกไปไหว้ยิ้มแย้มพูดคุยสนุก ไปนั่งทานข้าวหรือว่าไปดื่มกันก็พูดคุยกับโต๊ะข้างๆ ได้สนุกเฮฮา ถามว่ารู้จักไหมก็บอกว่าไม่ พอถามว่าคุยทำไมสนุกขนาดนั้นน้องเค้าก็บอกก็เค้าคุยด้วย โต๊ะไหนยกแก้วชนยิ้มให้ก็ชนยิ้มให้เหมือนเป็นคนที่ชอบพูดคุย