.

เมื่อประมาณ 1,200 ปีก่อน 
ลูกแมวตัวหนึ่ง
ได้นวดดินเหนียวเหยือกน้ำดินเผา
ที่กำลังตากแห้งในกรุงเยรูซาเล็ม
ทิ้งร่องรอยหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด
คือ รอยเท้า กับ กรงเล็บ ลูกแมว
แสดงพฤติกรรมแมวไว้เป็นพยานหลักฐาน

นักโบราณคดีในกรุงเยรูซาเล็ม
ได้ค้นพบชิ้นส่วนเหยือกน้ำอายุ 1,200 ปี
ที่มีรอยของแมวตัวเล็กฝากกรงเล็บไว้
หลังจากที่ได้นวดดินเหนียวสักพัก
กลายเป็นหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด
ของลูกแมวที่ได้มีการบันทึกไว้

ทีมวิจัยสันนิษฐานว่า
ลูกแมวทิ้งรอยอุ้งเท้า/กรงเล็บแมวไว้
คล้ายรอยหยุม(ขยุ้ม)ขนมบิสกิต
เมื่อช่างปั้นหม้อเอาเหยือกน้ำที่เพิ่งทำเสร็จ
ไปตากแดดให้แห้งก่อนจะเผาในเตาเผา
พื้นผิวของเหยือกน้ำยังคงชื้นและยืดหยุ่นได้
ซึ่งอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์แบบเพียงพอ
ให้ลูกแมวที่เดินผ่านไปมาบริเวณนั้น
สามารถนวดดินเล่นก่อน
จะฝากรอยเท้า/กรงเล็บ
หรือลงยันต์ห้าแถว ไว้เป็นที่ระลึก

“ เราคิดว่า ลูกแมวกำลัง นวด ดินเหนียว
มากกว่าแค่วางพักเท้าอยู่บนเหยือก
เพราะกรงเล็บของมันยื่นออกมา
และทิ้งรอยลึกไว้บนพื้นผิวดินเหนียว ”
Simon Gibson นักโบราณคดี
University of North Carolina ที่ Charlotte
ทำวิจัยร่วมกับ Rafael Lewis นักโบราณคดี
Bar-Ilan University ใน Israel
ร่วมกันขุดค้นโบราณคดี ที่ Mount Zion
ตอบกลับ Live Science ทาง email
.
.

การสังเกตเห็นรอยต่าง ๆ บนชิ้นส่วนของ
เครื่องปั้นดินเผา ภายหลังการขุดค้น
รูปร่างของรอยประทับขนาดเล็ก
ซึ่งรวมถึงส่วนหนึ่งของขาหน้าของแมว
แสดงว่า แมวตัวนั้นนอนอยู่บนขอบเหยือก
บางทีอาจจะเพื่ออาบแดดก็เป็นไปได้
รอยเท้าแมวมีขนาด
1.2 x 1.2 นิ้ว (3 x 3 เซนติเมตร)
ในขณะที่ส่วนของแขน
มีขนาด 0.8 x 0.4 นิ้ว (2 x 1 เซนติเมตร)

“ เราทำได้แค่ [จินตนาการ] ว่า
มันส่งเสียงครางขณะที่มันอาบแดดที่เยรูซาเล็ม ”
Simon Gibson ในอีเมลที่ส่งถึง Live Science

แมว นวด ด้วยเหตุผลหลายประการ
เมื่อเป็นลูกแมว มันจะเหยียบย่ำร่างกายแม่มัน
เป็นจังหวะเพื่อกระตุ้นการไหลของน้ำนม

แมวที่โตแล้วก็จะนวดเช่นกัน
โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับคนที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย
เพราะพวกมันมักจะเชื่อมโยงพฤติกรรมนี้
กับความสบายใจ ที่พวกมันรู้สึกได้
เมื่อลูกแมวได้กินนมจากแม่แมว

นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า
การนวดอาจช่วยให้แมวได้กลิ่นของมันด้วย

เหยือกน้ำที่มีรอยนวด(กรงเล็บแมว)
น่าจะใช้สำหรับใส่ของเหลว เช่น
น้ำ ไวน์ และน้ำมันมะกอกในบ้าน
เหยือกน้ำดังกล่าวถูกค้นพบจาก
บริเวณที่อยู่อาศัยโบราณ
ใกล้ยอดเขา Mount Zion
(เนินทางตะวันตกเฉียงใต้
ตรงกันข้ามกับเมือง City of David
บนเนินทางตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งเรียกเหมือนกันว่า Mount Zion
ในยุคเหล็กและยุคจักรวรรดิ์เปอร์เซีย

นักโบราณคดีได้ระบุเครื่องปั้นดินเผาอื่น ๆ
จากยุคจักรวรรดิ์อับบาซียะฮ์  Abbasid
(ค.ศ. 750-1258) ได้อย่างมีหลักฐาน
ซึ่งทำให้ระบุอายุของชิ้นส่วนเหยือกได้
ว่าสร้างประมาณศตวรรษที่ 9
.
.

แมวที่อาศัยอยู่ในสมัยราชวงศ์อับบาซียะฮ์ 
ซึ่งเป็นราชวงศ์ของกาหลิบคนใหม่
ที่ขับไล่กาหลิบราชวงศ์อุมัยยะฮ์
Umayyad (ค.ศ.661–750)

กาหลิบที่ปกครองนครเยรูซาเล็ม
นับถือศาสนาอิสลาม
แต่ผู้อยู่อาศัยบางส่วนในพื้นที่
ยังมีทั้งชาวยิว ชาวคริสเตียน
และแน่นอนว่ารวมทั้ง แมว ด้วย

ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์
มีการค้นพบซากแมวในอิสราเอล
และมีความสำคัญเป็นพิเศษ
ในวัฒนธรรมอิสลามในช่วงยุคอับบาซียะฮ์
" ซากแมว ถูกกล่าวถึงในแหล่งข้อมูล
อิสลามยุคแรก ๆ รวมถึงวรรณกรรมฮาดิษ
และ ศาสดาโมฮัมหมัดก็ชื่นชอบแมวมาก

โดยทั่วไป
รอยต่างๆ บนเครื่องปั้นดินเผาโบราณนั้น
พบได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นรอยของนก ใบไม้
หรือสัตว์ต่างๆ เช่น จิ้งจกและงู
โดยรอยที่พบมากที่สุดคือลายนิ้วมือ
รอยเท้าสัตว์มีอยู่มากมาย
แต่ยังไม่มีร่องรอยของแมว
เช่น กรงเล็บหรือรอยนวดแมว "
Simon Gibson ให้ข้อมูลเพิ่มเติม

ที่แหล่งโบราณคดี Mount Zion
นักโบราณคดียังพบรอยนิ้วมือเล็ก ๆ
บนเศษเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมาก
ซึ่งน่าจะเป็นของลูก ๆ ของช่างปั้นหม้อ
ซึ่งมักจะมีส่วนในการติดหูโถด้วย

สำหรับตอนนี้ เศษเหยือกน้ำที่มีรอยแมว
ได้รับการประมวลผลแล้ว 
และจะส่งมอบให้กับทางการอิสราเอล
ซึ่งจะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับรอยเหล่านี้
.

เรียบเรียง/ที่มา

Livescience
Smithsonain

.

---

.

หมายเหตุ

บทบาทและอำนาจของกาหลิบ

1. ด้านศาสนา
- เป็นผู้นำทางศาสนาสูงสุดของชาวมุสลิม
- รักษาและปกป้องหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม
- เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากท่านศาสดาโมฮัมหมัด

2. ด้านการปกครอง
- เป็นประมุขของรัฐ มีอำนาจในการปกครองประเทศ
- ออกกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายตามหลักชารีอะห์
- แต่งตั้งข้าราชการ/ผู้ปกครองในพื้นที่ต่างๆ

3. ด้านการทหาร
- เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด
- มีอำนาจในการประกาศสงครามและสันติภาพ
- ควบคุมกองทัพเพื่อปกป้องดินแดนมุสลิม

4. ด้านการคลัง
- ดูแลการจัดเก็บภาษี/การใช้จ่ายเงินของรัฐ
- จัดสรรทรัพยากรเพื่อสวัสดิการชาวบ้าน
- ควบคุมระบบเศรษฐกิจตามหลักศาสนา

ระบบกาหลิบนี้เริ่มต้นขึ้น
หลังการเสียชีวิตของท่านศาสดาโมฮัมหมัด
และดำเนินต่อเนื่องมาในหลายราชวงศ์
เช่น ราชวงศ์อุมัยยะฮ์ และราชวงศ์อับบาซิด
รุ่งเรือง/เริงอำนาจในหลายพื้นที่
ภายใต้จักรวรรดิ์ออตโตมัน มีการค้าทาส
ทาสทุกชาติทุกภาษามากทึ่สุดในโลกยุคนั้น
จากการชนะในการสู้รบ/ซื้อจากพ่อค้าทาส
บางส่วนมีการ Export ทาสมายังสยาม
ในรูปนักเทษ ขันที ให้กษัตริย์กรุงศรีอยุธยา
มีจำนวนมากพอถึงกับตั้ง กรมขันที


(คนมุสลิมจะจับตัวเป็นทาสไม่ได้
เพราะมีบัญญัติห้ามไว้ในศาสนา)

ระบบกาหลิบ จักรวรรดิ์ออตโตมัน
ล่มสลาย/สิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1924
โดย มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก
ผู้นำยุคใหม่/บิดาของชนชาติตุรกี

การล่มสลายอาณาจักรออตโตมัน
ทำให้เกิดชาติใหม่ ๆ ในตะวันออกกลาง
โดยบรรดาชนเผ่าอาหรับ-ชนเผ่าเซมาติค
ซึ่งแต่เดิมถูกกดขี่/ปกครองโดยชนเผ่าเตอร์กิก

ในปี ค.ศ.2014-2015
กลุ่ม ISIS ได้รื้อฟื้นระบบกาหลิบ
กินพื้นที่ 1/3 ในซีเรีย 40% ในอีรัค
ก่อนถูกสหรัฐฯ รัสเซีย ล้อมปราบ/ทำลาย
จนเหลือเซลล์ใต้ดิน/เครือข่ายปฏิบัติการ
กระจัดกระจายไปหลายแห่ง/หลายพื้นที่
.