สมัยก่อนขนมสำเร็จรูปเป็นซอง ๆ ยังมีไม่มากนัก และยังเป็นของที่ราคาค่อนข้างสูง ที่บ้านฉันมักทำขนมกินเอง ด้วยความที่ในบ้านมีเด็กหลายคน เวลาทำขนมต้องทำทีละมาก ๆ ไม่อย่างนั้นกินไม่อิ่มกันเสียที ขนมราคาประหยัดที่ทำได้ปริมาณมาก ๆ ในราคาต้นทุนต่ำที่ฉันนึกถึงคือ ขนมแป้งจี่
ขนมแป้งจี่…ไม่แน่ใจว่าเป็นขนมที่ต้นกำเนิดมาจากที่ใด แต่คาดว่าไม่น่าจะเป็นของจีนเพราะอาม่าไม่เคยทำให้กิน
ที่เคยกินสมัยนั้น เพราะว่าแม่เป็นผู้ทำ
แม่เคยเล่าว่าขนมนี้บางทีเค้าเรียกว่าขนมคนจน เพราะว่าใช้เพียงแป้งข้าวเจ้าผสมกับกล้วยน้ำว้าสุกขยำให้เข้ากัน เติมน้ำเล็กน้อย ให้พอหนืด ๆ ไม่ต้องใช้เครื่องปรุงอะไรมากมาย
ยิ่งถ้าเป็นสมัยก่อนก็ข้าวสารที่ใช้กินนี่แหละ เอามาโม่เป็นแป้ง กับกล้วยน้ำว้าสุกที่มีปลูกกันแทบทุกบ้าน ไม่ต้องเสียสตางค์ซื้อ หรือบ้านไหนไม่มีก็ไปขอจากบ้านที่ปลูก เขาแบ่งให้ด้วยความยินดีเพราะกล้วยน้ำว้าเครือหนึ่งก็มีมากมายกินกันในบ้านไม่หมด
จากนั้นเอาส่วนผสมที่หนืด ๆ นั้นไปจี่บนกระทะแบน ๆ ซึ่งทาน้ำมันกันติด สมัยก่อนไม่มีกระทะเทฟลอนแบบปัจจุบันจึงต้องใช้น้ำมันทาเพื่อไม่ให้แป้งจี่ติดกระทะ แต่ถ้าโบราณจริง ๆ จะใช้ใบตองรองแล้วเทแป้งบนใบตองก่อน จึงจะเอาไปตั้งบนกระทะ ไม่ต้องใช้น้ำมันก็ได้
แม่เอาแป้งจี่ละเลงบนกระทะร้อน ๆ พอสุกก็จะร่อนออกมาจากผิวกระทะ พลิกกลับอีกด้านไม่นานก็ได้ขนมอร่อย ๆ ราคาประหยัด กินมากแค่ไหนก็ได้ พวกเราเด็กๆ มักจะไปนั่งรุมอยู่ที่หน้าเตา รออย่างใจจดใจจ่อ แป้งจี่ที่ขึ้นมาจากเตาใหม่ ๆ ร้อน ๆ นุ่มหวานหอม อร่อยจริง ๆ หรือถ้าจี่นาน จนด้านอกกรอบก็อร่อยไปอีกแบบ
พอโตขึ้นมา ฉันมักนึกไปว่า ลักษณะแป้งจี่ก็คล้ายกับแพนเค้กของต่างชาติ เพียงแต่แพนเค้กใช้แป้งสาลีและไข่กับนม ส่วนของบ้านเราใช้แป้งข้าวจ้าวกับกล้วย วัฒนธรรมอาหารที่มีจุดเริ่มต้นคล้าย ๆ กัน แต่แตกต่างกันตรงวัตถุดิบของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งใช้ของที่มีในพื้นที่ของตนเองมาปรุงอาหาร
เล่าเรื่องอาหาร ขนมแป้งจี่
สมัยก่อนขนมสำเร็จรูปเป็นซอง ๆ ยังมีไม่มากนัก และยังเป็นของที่ราคาค่อนข้างสูง ที่บ้านฉันมักทำขนมกินเอง ด้วยความที่ในบ้านมีเด็กหลายคน เวลาทำขนมต้องทำทีละมาก ๆ ไม่อย่างนั้นกินไม่อิ่มกันเสียที ขนมราคาประหยัดที่ทำได้ปริมาณมาก ๆ ในราคาต้นทุนต่ำที่ฉันนึกถึงคือ ขนมแป้งจี่
ขนมแป้งจี่…ไม่แน่ใจว่าเป็นขนมที่ต้นกำเนิดมาจากที่ใด แต่คาดว่าไม่น่าจะเป็นของจีนเพราะอาม่าไม่เคยทำให้กิน
ที่เคยกินสมัยนั้น เพราะว่าแม่เป็นผู้ทำ
แม่เคยเล่าว่าขนมนี้บางทีเค้าเรียกว่าขนมคนจน เพราะว่าใช้เพียงแป้งข้าวเจ้าผสมกับกล้วยน้ำว้าสุกขยำให้เข้ากัน เติมน้ำเล็กน้อย ให้พอหนืด ๆ ไม่ต้องใช้เครื่องปรุงอะไรมากมาย
ยิ่งถ้าเป็นสมัยก่อนก็ข้าวสารที่ใช้กินนี่แหละ เอามาโม่เป็นแป้ง กับกล้วยน้ำว้าสุกที่มีปลูกกันแทบทุกบ้าน ไม่ต้องเสียสตางค์ซื้อ หรือบ้านไหนไม่มีก็ไปขอจากบ้านที่ปลูก เขาแบ่งให้ด้วยความยินดีเพราะกล้วยน้ำว้าเครือหนึ่งก็มีมากมายกินกันในบ้านไม่หมด
จากนั้นเอาส่วนผสมที่หนืด ๆ นั้นไปจี่บนกระทะแบน ๆ ซึ่งทาน้ำมันกันติด สมัยก่อนไม่มีกระทะเทฟลอนแบบปัจจุบันจึงต้องใช้น้ำมันทาเพื่อไม่ให้แป้งจี่ติดกระทะ แต่ถ้าโบราณจริง ๆ จะใช้ใบตองรองแล้วเทแป้งบนใบตองก่อน จึงจะเอาไปตั้งบนกระทะ ไม่ต้องใช้น้ำมันก็ได้
แม่เอาแป้งจี่ละเลงบนกระทะร้อน ๆ พอสุกก็จะร่อนออกมาจากผิวกระทะ พลิกกลับอีกด้านไม่นานก็ได้ขนมอร่อย ๆ ราคาประหยัด กินมากแค่ไหนก็ได้ พวกเราเด็กๆ มักจะไปนั่งรุมอยู่ที่หน้าเตา รออย่างใจจดใจจ่อ แป้งจี่ที่ขึ้นมาจากเตาใหม่ ๆ ร้อน ๆ นุ่มหวานหอม อร่อยจริง ๆ หรือถ้าจี่นาน จนด้านอกกรอบก็อร่อยไปอีกแบบ
พอโตขึ้นมา ฉันมักนึกไปว่า ลักษณะแป้งจี่ก็คล้ายกับแพนเค้กของต่างชาติ เพียงแต่แพนเค้กใช้แป้งสาลีและไข่กับนม ส่วนของบ้านเราใช้แป้งข้าวจ้าวกับกล้วย วัฒนธรรมอาหารที่มีจุดเริ่มต้นคล้าย ๆ กัน แต่แตกต่างกันตรงวัตถุดิบของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งใช้ของที่มีในพื้นที่ของตนเองมาปรุงอาหาร