"นาทีระทึก! พ่อแกล้งขย่มสะพาน ทำให้ลูกสาวร่วงต่อหน้า – จากเรื่องสนุกกลายเป็นฝันร้ายของเด็ก"
โชเชียลจีนเดือด คลิปพ่อเล่นสนุกเกินเบอร์ แกล้งขย่มสะพานแขวน เกือบแลกมาด้วยชีวิตลูกสาว
คลิปวิดีโอที่เคยเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ของประเทศจีน ภาพเหตุการณ์ขณะที่พ่อขย่มสะพานแขวนอย่างรุนแรง ทำให้ลูกสาวตัวเล็กๆ ที่พยายามยึดเกาะราวสะพานเอาไว้ ต้องร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด แต่พ่อก็ยังคงหัวเราะและเขย่าต่อไปไม่หยุด กระทั่งเสี้ยววินาทีต่อมาเกิดเป็นภาพช็อกคาตา เมื่อตัวของเด็กตกลงไปในช่องว่างของสะพานแขวน
ตามรายงานพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โชคดีที่เด็กหญิงคนนี้รอดชีวิตมาได้ ต้องขอบคุณตาข่ายที่ติดอยู่ด้านล่างของสะพาน แต่ถึงอย่างไรเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นฝันร้าย ที่ได้สร้างบาดแผลในใจให้กับเด็กน้อยไปแล้ว เธอยังคงร้องไห้อย่างหนักจนถึงในตอนที่พ่อพาเดินออกไปจากที่เกิดเหตุ
แม้ผู้เป็นพ่ออาจรู้อยู่แล้วว่ามีตาข่ายนิรภัยด้านล่าง ถึงได้กล้าเล่นพิเรนท์อันตรายอย่างในคลิป แต่ก็ต้องยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวเป็น "ความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง" นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง โดยมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรมีข้อแก้ตัวใดๆ เลย และไม่ควรมองว่ามันเป็น "อุบัติเหตุ" ด้วยซ้ำ พ่อควรได้รับคำตำหนิอย่างตรงไปตรงมา
"ใบหน้าของเด็กแสดงออกถึงความกลัวอย่างสุดขีด แต่พ่อยังคงเขย่าสะพานต่อไปอย่างมีความสุข โชคดีที่มีตาข่ายอยู่ด้านล่าง ไม่เช่นนั้นน้ำตาจะชดเชยความเสียใจไม่ได้!”
"ไม่ใช่อุบัติเหตุจากความประมาท เขาทำโดยตั้งใจ ในขณะที่เด็กร้องไห้ แต่เขายังคงหัวเราะและเขย่าสะพานอย่างชั่วร้าย ราวกับว่าเขาพอใจกับความกลัวของลูกสาว"
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
📌สรุปข้อคิดทีได้รับจากเหตุการณ์ในข่าวครั้งนี้ครับ!!
เหตุการณ์ที่พ่อแกล้งขย่มสะพานแขวนจนลูกสาวตกลงไป แม้จะมีตาข่ายนิรภัยรองรับ แต่ก็สร้างความหวาดกลัวและบาดแผลทางจิตใจให้กับเด็ก เหตุการณ์นี้สอนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของความรับผิดชอบและความระมัดระวังในการดูแลเด็ก การกระทำที่คิดว่าเป็นเรื่องสนุกสำหรับผู้ใหญ่ อาจส่งผลกระทบทางลบต่อจิตใจและความปลอดภัยของเด็ก ดังนั้น ผู้ปกครองควรพิจารณาและใส่ใจถึงผลที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของตน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก...
🙏ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก :
https://www.sanook.com/news
"นาทีระทึก! พ่อแกล้งขย่มสะพาน ทำให้ลูกสาวร่วงต่อหน้า – จากเรื่องสนุกกลายเป็นฝันร้ายของเด็ก"
โชเชียลจีนเดือด คลิปพ่อเล่นสนุกเกินเบอร์ แกล้งขย่มสะพานแขวน เกือบแลกมาด้วยชีวิตลูกสาว
คลิปวิดีโอที่เคยเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ของประเทศจีน ภาพเหตุการณ์ขณะที่พ่อขย่มสะพานแขวนอย่างรุนแรง ทำให้ลูกสาวตัวเล็กๆ ที่พยายามยึดเกาะราวสะพานเอาไว้ ต้องร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด แต่พ่อก็ยังคงหัวเราะและเขย่าต่อไปไม่หยุด กระทั่งเสี้ยววินาทีต่อมาเกิดเป็นภาพช็อกคาตา เมื่อตัวของเด็กตกลงไปในช่องว่างของสะพานแขวน
ตามรายงานพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน โชคดีที่เด็กหญิงคนนี้รอดชีวิตมาได้ ต้องขอบคุณตาข่ายที่ติดอยู่ด้านล่างของสะพาน แต่ถึงอย่างไรเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ถือเป็นฝันร้าย ที่ได้สร้างบาดแผลในใจให้กับเด็กน้อยไปแล้ว เธอยังคงร้องไห้อย่างหนักจนถึงในตอนที่พ่อพาเดินออกไปจากที่เกิดเหตุ
แม้ผู้เป็นพ่ออาจรู้อยู่แล้วว่ามีตาข่ายนิรภัยด้านล่าง ถึงได้กล้าเล่นพิเรนท์อันตรายอย่างในคลิป แต่ก็ต้องยอมรับว่าการกระทำดังกล่าวเป็น "ความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง" นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง โดยมองว่าเรื่องนี้ไม่ควรมีข้อแก้ตัวใดๆ เลย และไม่ควรมองว่ามันเป็น "อุบัติเหตุ" ด้วยซ้ำ พ่อควรได้รับคำตำหนิอย่างตรงไปตรงมา
"ใบหน้าของเด็กแสดงออกถึงความกลัวอย่างสุดขีด แต่พ่อยังคงเขย่าสะพานต่อไปอย่างมีความสุข โชคดีที่มีตาข่ายอยู่ด้านล่าง ไม่เช่นนั้นน้ำตาจะชดเชยความเสียใจไม่ได้!”
"ไม่ใช่อุบัติเหตุจากความประมาท เขาทำโดยตั้งใจ ในขณะที่เด็กร้องไห้ แต่เขายังคงหัวเราะและเขย่าสะพานอย่างชั่วร้าย ราวกับว่าเขาพอใจกับความกลัวของลูกสาว"
📌สรุปข้อคิดทีได้รับจากเหตุการณ์ในข่าวครั้งนี้ครับ!!
เหตุการณ์ที่พ่อแกล้งขย่มสะพานแขวนจนลูกสาวตกลงไป แม้จะมีตาข่ายนิรภัยรองรับ แต่ก็สร้างความหวาดกลัวและบาดแผลทางจิตใจให้กับเด็ก เหตุการณ์นี้สอนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของความรับผิดชอบและความระมัดระวังในการดูแลเด็ก การกระทำที่คิดว่าเป็นเรื่องสนุกสำหรับผู้ใหญ่ อาจส่งผลกระทบทางลบต่อจิตใจและความปลอดภัยของเด็ก ดังนั้น ผู้ปกครองควรพิจารณาและใส่ใจถึงผลที่อาจเกิดขึ้นจากการกระทำของตน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก...
🙏ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : https://www.sanook.com/news