‘แม็คยีนส์’ แบรนด์ไทย ฝ่าสมรภูมิแฟชั่นไทยและโซเชียล กวาดยอดขายมากที่สุดใน TikTok

‘แม็คยีนส์’ แบรนด์ไทย

ฝ่าสมรภูมิแฟชั่นไทยและโซเชียล

กวาดยอดขายมากที่สุดใน TikTok


หุ้น MC ‘แม็คยีนส์’ ประกาศจ่ายปันผล 0.55 บาท/หุ้น

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

'แม็คกรุ๊ป' ที่มีแบรนด์หลักกับ 'แม็คยีนส์' เร่งเครื่อง ฝ่าสมรภูมิแฟชั่นไทยและโซเชียลที่แข่งหนัก กวาดยอดขายในช่องทาง TikTok ครองอันดับหนึ่ง

แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC แบรนด์แฟชั่นสัญชาติไทย ที่อยู่ในตลาดมากกว่า 50 ปีแล้ว โดยมีโรงงานที่เป็นฐานผลิตสินค้าของบริษัทเอง และมีช่องทางทำตลาดในประเทศ ที่เป็นออฟไลน์ประมาณ 575 แห่ง โดยได้วางแนวทางเน้นทำตลาดผ่านออนไลน์มากขึ้น ซึ่งมีแนวรุกสำคัญกับ “ติ๊กต๊อก” (TikTok) ที่มีการไลฟ์นำเสนอสินค้ารุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเร่งขยายฐานแบรนด์ไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่

เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ “แม็คยีนส์” เปิดเผยว่า บริษัทได้วางกลยุทธ์ขยายทำตลาดแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น และมีเปิดร้านค้าออนไลน์ (E-Commerce) ใน TikTok พร้อมร่วมมือ อินฟลูเอนเซอร์มาร่วมขยายการทำตลาด และการนำเสนอสินค้ารุ่นใหม่ รวมถึงการ ไลฟ์ (LIVE) อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้จากกลยุทธ์ที่วางไว้ ทำให้แบรนด์แม็คยีนส์ติดอันดับหนึ่งแบรนด์ที่มียอดขายมากที่สุดใน TikToK จึงมีผลต่อภาพรวมผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของปีบัญชี 2568 (รอบปีบัญชีบริษัทเริ่มตั้งแต่ ก.ค.2567 - 30 มิ.ย.2568) โดยมีรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์ 337 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108 ล้านบาท หรือ 47.3% ทำให้ยอดขายผ่านออนไลน์มีสัดส่วนเพิ่มมาที่ 16% ของยอดขายโดยรวม จากเดิมมีสัดส่วน 10% สวนทางข่องทางอื่นๆ 

ขณะที่ภาพรวมช่วงครึ่งปีแรก 2568 บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,178 ล้านบาท ลดลง 0.3 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากกำลังซื้อในช่องทางออฟไลน์ลดลง โดยช่องทางออฟไลน์ มีทั้งช่องทางร้านค้าปลีกของตนเอง (Free-standing Shop) มีสัดส่วน 65% สร้างรายได้ 1,426 ล้านบาท จากเดิมครองส่วนแบ่ง 68%, ห้างสรรพสินค้า (Department Store) มีรายได้ 379 ล้านบาท สร้างสัดสัดส่วนรายได้ที่ 17% จากเดิม 19%, และช่องทางอื่น ๆ คิดเป็น 1% จากเดิมอยู่ที่ 3%

ทั้งนี้แผนการขยายธุรกิจตลอดปี 2568 โดยวางแนวทางรุกช่องทางออนไลน์อย่างเข้มข้น พร้อมได้มีการปรับปรุงพัฒนาเว็บไซด์ mchop.com รวมถึงช่องทางในตลาดต่างประเทศที่สนใจทั้งการซื้อขาย และควบรวมกิจการ อีกทั้งวางแผนการเปิดชอปใหม่รวม 15 จุด ทั้งการปรับปรุงจุดจำหน่ายเดิมและปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร 

ขณะเดียวกันได้ขยายโครงการ Solar Rooftop ไปใน 2 สาขาที่ผ่านมา ได้แก่ Mc Outlet ปตท. มานะชัย นครปฐม และ Mc Outlet ปตท. เกียรติสมพงษ์ นครสวรรค์ เพื่อร่วมส่งเสริมพลังงานสะอาดและการร่วมประหยัดค่าไฟฟ้า รวมถึงมีแผนขยายการติดตั้ง Solar Rooftop ที่ Mc Outlet สาขาอื่นๆ ในรอบปี 2568-2569 

ทั้งนี้ บริษัทได้มีการประเมินว่า จากมาตรการของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้ง มาตรการช่วยเหลือ ชาวไร่ ชาวนาไร่ละ 1,000 บาท และมาตรการ Easy E-Receipt ในช่วงเดือน ม.ค. จนถึง ก.พ. 2568 รวมถึงมาตรการแจกเงินผู้สูงอายุ 10,000 บาท รวมถึงการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวภายหลังการเปิดประเทศ และการเปิดฟรีวีซ่า รวมถึงการขยายเวลาพำนักของนักท่องเที่ยวจะผลักดันทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีขึ้น 

ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ของปี 2568 (1 ต.ค.- 31 ธ.ค. 2567 ) กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130% จากไตรมาสแรกปีบัญชี 2568 ส่วนงวด 6 เดือนแรก ปีบัญชี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.1% มาจากการปรับแผนธุรกิจ พร้อมมีการบริหารต้นทุนการขายและควบคุมค่าใช้จ่าย อีกทั้งบริษัทไม่มีหนี้เงินกับสถาบันการเงิน และมีเงินสดในมือเพิ่มขึ้น ซึ่งสิ้น ธ.ค. 2567 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และเงินลงทุนชั่วคราว 1,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ บริษัท แม็คได้ระบุว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทได้ผสมผสานกลยุทธ์ O2O ที่มีทั้งการเปิดให้ลูกค้าเลือกซื้อออนไลน์และไปรับที่สาขา (ออฟไลน์) ได้ หรือซื้อผ่านสาขาแล้วส่งถึงบ้านได้เช่นกัน ทำให้ลูกค้าเลือกซื้อได้สะดวกในทุกช่องทางแบบไร้รอยต่อ พร้อมประเมินยอดขายออนไลน์จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 20% ได้ใน 2-3 ปี

ส่วนภาพรวมบริษัทมีสินค้า สร้างยอดขายต่อปี 6 ล้านชิ้น มาจากกลุ่มเดนิม 35% นอนเดนิม 65% ลูกค้าซื้อสินค้าหน้าร้านเฉลี่ย 2,800 บาทต่อคนต่อบิล หรือ 3 ชิ้น ซื้อออนไลน์ 1,000 บาท ราว 1 ชิ้นครึ่ง

สำหรับพฤติกรรมการเลือกซื้อกางเกงยีนส์ของคนไทย จากการที่บริษัท ได้เก็บข้อมูลของผู้บริโภคคนไทยในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ผู้หญิงมีกางเกงยีนส์เฉลี่ยถึง 20 ตัว ส่วนผู้ชาย มีกางเกงยีนส์เฉลี่ย 10 ตัว และบางตัวซื้อมาเมื่อ 15 ปีก่อน แต่ยังเลือกใส่มาจนถึงปัจจุบัน

https://www.facebook.com/share/p/15wsJmJmyt/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่