สืบเนื่องจากกระทู้
รักษาต่อมลูกหมากโตด้วยไอน้ำ (Rezum Water Vapor Therapy) กระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/43261134 มีสมาชิกท่านหนึ่งได้เม้นถึงการกินมะเขือเทศที่จะช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโตได้ ก็เลยเกิดความคิดขึ้นมาว่า ถ้าเราสามารถยับยั้งหรือชะลอการเกิดต่อมลูกหมากโต (ในกรณีที่ยังไม่เป็น หรือเป็นยังไม่มาก) แล้วหากมันเกิดจะเป็นขึ้นมาในวันที่การรักษามีราคาที่ถูกลง ก็จะเป็นการดีอย่างยิ่งสำหรับเงินที่เก็บหอมรอมริบมานาน เพราะการรักษาต่อมลูกหมากโตด้วยวิธีนี้แม้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในปัจจุบัน แต่ค่ารักษาก็แรงเอาการ ระดับ
150,000 ถึง
250,000 อัพ เลยทีเดียว !!
แต่ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกับสาเหตุของการเป็นต่อมลูกหมากโตก่อนครับ
📌
สาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต (BPH - Benign Prostatic Hyperplasia)
โรคต่อมลูกหมากโต เป็นภาวะที่ต่อมลูกหมากขยายขนาดขึ้น ซึ่งเกิดจาก ปัจจัยหลักๆ 3 ประการ ได้แก่ ฮอร์โมน, อายุ, และพันธุกรรม รวมถึงปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
🔹
1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน (ปัจจัยหลักที่สุด)
- เมื่ออายุมากขึ้น ระดับ ฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน, Testosterone) จะลดลง
- แต่ระดับ ฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของเทสโทสเตอโรนกลับเพิ่มขึ้น
- DHT กระตุ้นให้เซลล์ต่อมลูกหมากโตขึ้น จึงทำให้เกิดอาการปัสสาวะติดขัด
🔹
2. อายุที่มากขึ้น
- มักเกิดใน ผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป
- อายุ 50 ปี มีโอกาสเป็นประมาณ 50%
- อายุ 70 - 80 ปี มีโอกาสเป็น 80-90%
- อายุมากขึ้น เนื้อเยื่อต่อมลูกหมากมีการเปลี่ยนแปลงและเสื่อมสภาพ ทำให้โตขึ้นได้
🔹
3. พันธุกรรม
- หาก พ่อหรือพี่น้องในครอบครัวมีประวัติต่อมลูกหมากโต ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น
- พันธุกรรมมีผลต่อความไวของตัวรับฮอร์โมนที่ทำให้ต่อมลูกหมากโตเร็วขึ้น
🔹
4. ปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
📌 ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง
❌ โรคอ้วน (Obesity) – ไขมันสะสมส่งผลต่อระดับฮอร์โมนและเพิ่มการอักเสบ
❌ เบาหวานและภาวะดื้ออินซูลิน – มีความสัมพันธ์กับต่อมลูกหมากโต
❌ ความดันโลหิตสูง – มีงานวิจัยชี้ว่าคนที่เป็นโรคนี้มีโอกาสเป็นต่อมลูกหมากโตสูงขึ้น
❌ ขาดการออกกำลังกาย – การนั่งนานๆ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีและเพิ่มความเสี่ยงของโรค
❌ อาหารไขมันสูงและเนื้อแดงมากเกินไป – อาจเพิ่มการอักเสบของต่อมลูกหมาก
📌 ปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยง
✅ อาหารที่มีไลโคปีนสูง เช่น มะเขือเทศ ฝรั่งไส้แดง แตงโม – มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
✅ ออกกำลังกายเป็นประจำ – ช่วยลดระดับฮอร์โมนที่กระตุ้นให้ต่อมลูกหมากโต
✅ ดื่มน้ำให้เพียงพอ – ช่วยลดการตกค้างของปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ
📌
สรุป
🔹 ฮอร์โมน DHT และอายุเป็นปัจจัยหลัก
🔹 พันธุกรรมมีผล – หากครอบครัวมีประวัติต่อมลูกหมากโต คุณมีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้น
🔹 พฤติกรรมการใช้ชีวิตมีผล – โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง อาหารไขมันสูง และขาดการออกกำลังกายเพิ่มความเสี่ยง
ทีนี้ เรามาดูว่า อาหารชนิดใดบ้างที่มีส่วนในการยับยั้งการเป็นต่อมลูกหมากโตได้
📌
อาหารที่ช่วยยับยั้งการเกิดโรคต่อมลูกหมากโต และเหตุผลที่ช่วยป้องกัน
อาหารบางชนิดสามารถช่วยชะลอหรือป้องกันการเกิดโรค ต่อมลูกหมากโต (BPH - Benign Prostatic Hyperplasia) ได้ โดยมีผลต่อระดับฮอร์โมน การอักเสบ และสุขภาพโดยรวมของต่อมลูกหมาก
1️⃣
อาหารที่มีไลโคปีนสูง (Lycopene)
✅
ตัวอย่าง:
- มะเขือเทศ 🍅 (โดยเฉพาะปรุงสุก เช่น ซอสมะเขือเทศ, น้ำมะเขือเทศ)
- ฝรั่งไส้แดง 🍈 <-- จขกท กินทุกวัน เพราะมีสีของผลไม้ถึง 4 สีในผลเดียวกัน (ตามแนวทางการกินผลไม้ 5 สี)
- แตงโม 🍉
- ส้มโอสีชมพู 🍊
- พริกหวานสีแดง 🌶
🔹
ทำไมช่วยได้?
- ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดการอักเสบของต่อมลูกหมาก
- มีงานวิจัยพบว่า ไลโคปีนช่วยลดระดับ DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมลูกหมากโต
- การกินไลโคปีนเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมาก
2️⃣
อาหารที่มีสารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)
✅
ตัวอย่าง:
- เมล็ดฟักทอง 🎃
- ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง (เช่น เต้าหู้, นมถั่วเหลือง)
- อัลมอนด์, วอลนัท, เมล็ดแฟลกซ์
🔹
ทำไมช่วยได้?
- ไฟโตสเตอรอลช่วย ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล และปรับสมดุลฮอร์โมน
- สาร เบต้า-ซิโทสเตอรอล (Beta-sitosterol) ในน้ำมันเมล็ดฟักทองและถั่วเหลืองช่วยลดอาการปัสสาวะขัดของผู้ที่มีต่อมลูกหมากโต
3️⃣
อาหารที่มีโอเมก้า-3 สูง (Omega-3 Fatty Acids)
✅
ตัวอย่าง:
- ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ปลาซาร์ดีน 🐟
- เมล็ดเจีย, เมล็ดแฟลกซ์, วอลนัท
🔹
ทำไมช่วยได้?
- โอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบของต่อมลูกหมาก และลดความเสี่ยงของภาวะต่อมลูกหมากโต
- มีงานวิจัยชี้ว่า การบริโภคโอเมก้า-3 สูงช่วยลดระดับ DHT ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมลูกหมากขยายตัว
4️⃣
ผักตระกูลกะหล่ำ (Cruciferous Vegetables)
✅
ตัวอย่าง:
- บรอกโคลี 🥦
- กะหล่ำปลี, กะหล่ำดอก
- คะน้า, ผักกาดเขียว
🔹
ทำไมช่วยได้?
- มี สารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) และอินโดล-3-คาร์บินอล (I3C) ที่ช่วย ลดระดับฮอร์โมน DHT และป้องกันการเจริญเติบโตของต่อมลูกหมาก
- ช่วย ลดการอักเสบและป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
5️⃣
อาหารที่มีสังกะสีสูง (Zinc)
✅
ตัวอย่าง:
- หอยนางรม 🦪
- เมล็ดฟักทอง
- ถั่วและธัญพืชเต็มเมล็ด
🔹
ทำไมช่วยได้?
- สังกะสีช่วย ควบคุมการทำงานของต่อมลูกหมากและลดการขยายตัวของเซลล์ผิดปกติ
- มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีระดับสังกะสีต่ำมีแนวโน้มเป็นต่อมลูกหมากโตสูงขึ้น
6️⃣
ชาเขียวและชาเปลือกสน (Green Tea & Pycnogenol)
✅
ตัวอย่าง:
- ชาเขียว 🍵
- ชาเปลือกสน (Pycnogenol tea)
🔹
ทำไมช่วยได้?
- มีสาร คาเทชิน (Catechins) ที่ช่วยต้านการอักเสบและลดความเสี่ยงของโรคต่อมลูกหมากโต
- มีงานวิจัยพบว่า ชาเขียวช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่เปลี่ยนเทสโทสเตอโรนเป็น DHT
📌
สรุป: อาหารที่ช่วยยับยั้งการเป็นต่อมลูกหมากโต

📌
แถมด้วย เคล็ดลับการกินเพื่อป้องกันต่อมลูกหมากโต
✅ กิน มะเขือเทศปรุงสุก (เพิ่มการดูดซึมไลโคปีน)
✅ กิน เมล็ดฟักทองหรือถั่วเหลือง เป็นของว่าง
✅ ดื่ม ชาเขียวหรือชาเปลือกสน เป็นประจำ
✅ กิน ปลาและผักใบเขียว แทนเนื้อแดง
✅ หลีกเลี่ยง อาหารแปรรูปและไขมันอิ่มตัวสูง
มาถึงวิธีการออกกำลังกายที่ช่วยยับยั้งต่อมลูกหมากโต
📌
การออกกำลังกายช่วยยับยั้งการเป็นต่อมลูกหมากโตได้อย่างไร?
การออกกำลังกาย มีบทบาทสำคัญ ในการป้องกันและชะลอการขยายตัวของ ต่อมลูกหมากโต (BPH - Benign Prostatic Hyperplasia) โดยช่วยในด้าน ฮอร์โมน การไหลเวียนเลือด ลดการอักเสบ และลดความเสี่ยงของโรคร่วม
1️⃣
ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมน DHT และเทสโทสเตอโรน
- ฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) เป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมลูกหมากโต
- การออกกำลังกายช่วย ลดระดับ DHT และ ปรับสมดุลเทสโทสเตอโรน ทำให้ต่อมลูกหมากไม่ขยายตัวเร็วเกินไป
🔹
การออกกำลังกายที่ช่วยลด DHT ได้ดี:
✅
คาร์ดิโอระดับปานกลางถึงสูง (เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน)
✅
เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) ช่วยเพิ่มฮอร์โมนที่ดีและลดความเสี่ยงของต่อมลูกหมากโต
2️⃣
ลดไขมันสะสม และป้องกันโรคอ้วน
- ไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง ทำให้เกิด ฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกิน ซึ่งไปกระตุ้นการโตของต่อมลูกหมาก
- โรคอ้วน เชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของ อินซูลิน และ DHT ซึ่งทำให้ต่อมลูกหมากโตเร็วขึ้น
-
คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีโอกาสเป็นต่อมลูกหมากโตน้อยกว่าคนที่มีวิถีชีวิตอยู่ประจำ (Sedentary lifestyle)
🔹
วิธีออกกำลังกายที่ช่วยลดไขมันดีที่สุด:
✅
HIIT (High-Intensity Interval Training) เช่น วิ่งสลับเดินเร็ว
✅
เวทเทรนนิ่ง เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมัน
3️⃣
ลดการอักเสบของต่อมลูกหมาก
- การอักเสบเรื้อรังเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ต่อมลูกหมากขยายตัว
- การออกกำลังกายช่วย ลดการอักเสบในร่างกาย และ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานดีขึ้น
🔹
การออกกำลังกายที่ช่วยลดการอักเสบ:
✅
โยคะ หรือ พิลาทิส ช่วยลดความเครียดและลดการอักเสบ
✅
ว่ายน้ำ ลดการกระแทกและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวดีขึ้น
4️⃣
กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดการคั่งของเลือดในต่อมลูกหมาก
- การนั่งเป็นเวลานาน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีในอุ้งเชิงกราน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ต่อมลูกหมากโตเร็วขึ้น
- การออกกำลังกายช่วยให้ เลือดไหลเวียนไปยังต่อมลูกหมากได้ดีขึ้น และลดอาการปัสสาวะติดขัด
🔹
การออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต:
✅
เดินเร็ว 30-40 นาทีต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงของ BPH ได้ถึง 25%
✅
ออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel exercises) ช่วยให้ระบบปัสสาวะทำงานดีขึ้น
5️⃣
ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
- คนที่เป็น เบาหวานหรือความดันโลหิตสูง มีโอกาสเป็นต่อมลูกหมากโตสูงกว่าคนทั่วไป
- การออกกำลังกายช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต ลดความเสี่ยงของโรคร่วมที่เกี่ยวข้องกับต่อมลูกหมากโต
🔹
วิธีออกกำลังกายเพื่อลดความเสี่ยงโรคเหล่านี้:
✅
เดินเร็ว หรือ วิ่งจ๊อกกิ้ง อย่างน้อย 30 นาที/วัน
✅
ปั่นจักรยานเบาๆ เพื่อเสริมระบบไหลเวียนเลือดโดยไม่กระทบต่ออุ้งเชิงกรานมากเกินไป
📌
สรุป: ออกกำลังกายช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโตอย่างไร?

📌
คำแนะนำในการออกกำลังกายเพื่อป้องกันต่อมลูกหมากโต
✅ ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
✅ หลีกเลี่ยง การนั่งเป็นเวลานาน (ลุกเดินทุกๆ 1 ชั่วโมง)
✅ ผสมผสาน คาร์ดิโอ + เวทเทรนนิ่ง + การออกกำลังกายอุ้งเชิงกราน
✅ ควบคู่กับ โภชนาการที่ดี เช่น อาหารที่มีไลโคปีนและโอเมก้า-3
📢
สรุปง่ายๆ: ออกกำลังกายยังไงให้ห่างไกลต่อมลูกหมากโต?
💪
เวทเทรนนิ่ง + คาร์ดิโอ ลด DHT และเผาผลาญไขมัน
🚶
เดินเร็ว หรือ ว่ายน้ำ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
🧘
โยคะ หรือ Kegel Exercise ช่วยให้ระบบปัสสาวะทำงานดีขึ้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีการเหล่านี้จะต้องทำเป็นประจำ การ์ดต้องไม่ตก ในระหว่างนี้ก็เก็บตังค์ไปเรื่อยๆ ครับ เพื่อความพร้อมทุกเมื่อหากโรคภัยมาเยือน. ขอให้โชคดีทุกท่านครับ
“อาหาร” และ “วิธีการออกกำลังกาย” ที่ช่วยยับยั้ง “ต่อมลูกหมากโต”
📌 สาเหตุของโรคต่อมลูกหมากโต (BPH - Benign Prostatic Hyperplasia)
โรคต่อมลูกหมากโต เป็นภาวะที่ต่อมลูกหมากขยายขนาดขึ้น ซึ่งเกิดจาก ปัจจัยหลักๆ 3 ประการ ได้แก่ ฮอร์โมน, อายุ, และพันธุกรรม รวมถึงปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
🔹 1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน (ปัจจัยหลักที่สุด)
- เมื่ออายุมากขึ้น ระดับ ฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน, Testosterone) จะลดลง
- แต่ระดับ ฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของเทสโทสเตอโรนกลับเพิ่มขึ้น
- DHT กระตุ้นให้เซลล์ต่อมลูกหมากโตขึ้น จึงทำให้เกิดอาการปัสสาวะติดขัด
🔹 2. อายุที่มากขึ้น
- มักเกิดใน ผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไป
- อายุ 50 ปี มีโอกาสเป็นประมาณ 50%
- อายุ 70 - 80 ปี มีโอกาสเป็น 80-90%
- อายุมากขึ้น เนื้อเยื่อต่อมลูกหมากมีการเปลี่ยนแปลงและเสื่อมสภาพ ทำให้โตขึ้นได้
🔹 3. พันธุกรรม
- หาก พ่อหรือพี่น้องในครอบครัวมีประวัติต่อมลูกหมากโต ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น
- พันธุกรรมมีผลต่อความไวของตัวรับฮอร์โมนที่ทำให้ต่อมลูกหมากโตเร็วขึ้น
🔹 4. ปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต
📌 ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง
❌ โรคอ้วน (Obesity) – ไขมันสะสมส่งผลต่อระดับฮอร์โมนและเพิ่มการอักเสบ
❌ เบาหวานและภาวะดื้ออินซูลิน – มีความสัมพันธ์กับต่อมลูกหมากโต
❌ ความดันโลหิตสูง – มีงานวิจัยชี้ว่าคนที่เป็นโรคนี้มีโอกาสเป็นต่อมลูกหมากโตสูงขึ้น
❌ ขาดการออกกำลังกาย – การนั่งนานๆ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีและเพิ่มความเสี่ยงของโรค
❌ อาหารไขมันสูงและเนื้อแดงมากเกินไป – อาจเพิ่มการอักเสบของต่อมลูกหมาก
📌 ปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยง
✅ อาหารที่มีไลโคปีนสูง เช่น มะเขือเทศ ฝรั่งไส้แดง แตงโม – มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
✅ ออกกำลังกายเป็นประจำ – ช่วยลดระดับฮอร์โมนที่กระตุ้นให้ต่อมลูกหมากโต
✅ ดื่มน้ำให้เพียงพอ – ช่วยลดการตกค้างของปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ
📌 สรุป
🔹 ฮอร์โมน DHT และอายุเป็นปัจจัยหลัก
🔹 พันธุกรรมมีผล – หากครอบครัวมีประวัติต่อมลูกหมากโต คุณมีโอกาสเสี่ยงสูงขึ้น
🔹 พฤติกรรมการใช้ชีวิตมีผล – โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง อาหารไขมันสูง และขาดการออกกำลังกายเพิ่มความเสี่ยง
ทีนี้ เรามาดูว่า อาหารชนิดใดบ้างที่มีส่วนในการยับยั้งการเป็นต่อมลูกหมากโตได้
📌 อาหารที่ช่วยยับยั้งการเกิดโรคต่อมลูกหมากโต และเหตุผลที่ช่วยป้องกัน
อาหารบางชนิดสามารถช่วยชะลอหรือป้องกันการเกิดโรค ต่อมลูกหมากโต (BPH - Benign Prostatic Hyperplasia) ได้ โดยมีผลต่อระดับฮอร์โมน การอักเสบ และสุขภาพโดยรวมของต่อมลูกหมาก
1️⃣ อาหารที่มีไลโคปีนสูง (Lycopene)
✅ ตัวอย่าง:
- มะเขือเทศ 🍅 (โดยเฉพาะปรุงสุก เช่น ซอสมะเขือเทศ, น้ำมะเขือเทศ)
- ฝรั่งไส้แดง 🍈 <-- จขกท กินทุกวัน เพราะมีสีของผลไม้ถึง 4 สีในผลเดียวกัน (ตามแนวทางการกินผลไม้ 5 สี)
- แตงโม 🍉
- ส้มโอสีชมพู 🍊
- พริกหวานสีแดง 🌶
🔹 ทำไมช่วยได้?
- ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยลดการอักเสบของต่อมลูกหมาก
- มีงานวิจัยพบว่า ไลโคปีนช่วยลดระดับ DHT (Dihydrotestosterone) ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมลูกหมากโต
- การกินไลโคปีนเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมาก
2️⃣ อาหารที่มีสารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols)
✅ ตัวอย่าง:
- เมล็ดฟักทอง 🎃
- ถั่วเหลืองและผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง (เช่น เต้าหู้, นมถั่วเหลือง)
- อัลมอนด์, วอลนัท, เมล็ดแฟลกซ์
🔹 ทำไมช่วยได้?
- ไฟโตสเตอรอลช่วย ลดการดูดซึมคอเลสเตอรอล และปรับสมดุลฮอร์โมน
- สาร เบต้า-ซิโทสเตอรอล (Beta-sitosterol) ในน้ำมันเมล็ดฟักทองและถั่วเหลืองช่วยลดอาการปัสสาวะขัดของผู้ที่มีต่อมลูกหมากโต
3️⃣ อาหารที่มีโอเมก้า-3 สูง (Omega-3 Fatty Acids)
✅ ตัวอย่าง:
- ปลาแซลมอน, ปลาทูน่า, ปลาซาร์ดีน 🐟
- เมล็ดเจีย, เมล็ดแฟลกซ์, วอลนัท
🔹 ทำไมช่วยได้?
- โอเมก้า-3 ช่วยลดการอักเสบของต่อมลูกหมาก และลดความเสี่ยงของภาวะต่อมลูกหมากโต
- มีงานวิจัยชี้ว่า การบริโภคโอเมก้า-3 สูงช่วยลดระดับ DHT ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมลูกหมากขยายตัว
4️⃣ ผักตระกูลกะหล่ำ (Cruciferous Vegetables)
✅ ตัวอย่าง:
- บรอกโคลี 🥦
- กะหล่ำปลี, กะหล่ำดอก
- คะน้า, ผักกาดเขียว
🔹 ทำไมช่วยได้?
- มี สารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) และอินโดล-3-คาร์บินอล (I3C) ที่ช่วย ลดระดับฮอร์โมน DHT และป้องกันการเจริญเติบโตของต่อมลูกหมาก
- ช่วย ลดการอักเสบและป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
5️⃣ อาหารที่มีสังกะสีสูง (Zinc)
✅ ตัวอย่าง:
- หอยนางรม 🦪
- เมล็ดฟักทอง
- ถั่วและธัญพืชเต็มเมล็ด
🔹 ทำไมช่วยได้?
- สังกะสีช่วย ควบคุมการทำงานของต่อมลูกหมากและลดการขยายตัวของเซลล์ผิดปกติ
- มีการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีระดับสังกะสีต่ำมีแนวโน้มเป็นต่อมลูกหมากโตสูงขึ้น
6️⃣ ชาเขียวและชาเปลือกสน (Green Tea & Pycnogenol)
✅ ตัวอย่าง:
- ชาเขียว 🍵
- ชาเปลือกสน (Pycnogenol tea)
🔹 ทำไมช่วยได้?
- มีสาร คาเทชิน (Catechins) ที่ช่วยต้านการอักเสบและลดความเสี่ยงของโรคต่อมลูกหมากโต
- มีงานวิจัยพบว่า ชาเขียวช่วยยับยั้งเอนไซม์ที่เปลี่ยนเทสโทสเตอโรนเป็น DHT
📌 สรุป: อาหารที่ช่วยยับยั้งการเป็นต่อมลูกหมากโต
📌 แถมด้วย เคล็ดลับการกินเพื่อป้องกันต่อมลูกหมากโต
✅ กิน มะเขือเทศปรุงสุก (เพิ่มการดูดซึมไลโคปีน)
✅ กิน เมล็ดฟักทองหรือถั่วเหลือง เป็นของว่าง
✅ ดื่ม ชาเขียวหรือชาเปลือกสน เป็นประจำ
✅ กิน ปลาและผักใบเขียว แทนเนื้อแดง
✅ หลีกเลี่ยง อาหารแปรรูปและไขมันอิ่มตัวสูง
มาถึงวิธีการออกกำลังกายที่ช่วยยับยั้งต่อมลูกหมากโต
📌 การออกกำลังกายช่วยยับยั้งการเป็นต่อมลูกหมากโตได้อย่างไร?
การออกกำลังกาย มีบทบาทสำคัญ ในการป้องกันและชะลอการขยายตัวของ ต่อมลูกหมากโต (BPH - Benign Prostatic Hyperplasia) โดยช่วยในด้าน ฮอร์โมน การไหลเวียนเลือด ลดการอักเสบ และลดความเสี่ยงของโรคร่วม
1️⃣ ช่วยควบคุมระดับฮอร์โมน DHT และเทสโทสเตอโรน
- ฮอร์โมน DHT (Dihydrotestosterone) เป็นตัวกระตุ้นให้ต่อมลูกหมากโต
- การออกกำลังกายช่วย ลดระดับ DHT และ ปรับสมดุลเทสโทสเตอโรน ทำให้ต่อมลูกหมากไม่ขยายตัวเร็วเกินไป
🔹 การออกกำลังกายที่ช่วยลด DHT ได้ดี:
✅ คาร์ดิโอระดับปานกลางถึงสูง (เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน)
✅ เวทเทรนนิ่ง (Weight Training) ช่วยเพิ่มฮอร์โมนที่ดีและลดความเสี่ยงของต่อมลูกหมากโต
2️⃣ ลดไขมันสะสม และป้องกันโรคอ้วน
- ไขมันส่วนเกิน โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง ทำให้เกิด ฮอร์โมนเอสโตรเจนส่วนเกิน ซึ่งไปกระตุ้นการโตของต่อมลูกหมาก
- โรคอ้วน เชื่อมโยงกับการเพิ่มขึ้นของ อินซูลิน และ DHT ซึ่งทำให้ต่อมลูกหมากโตเร็วขึ้น
- คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีโอกาสเป็นต่อมลูกหมากโตน้อยกว่าคนที่มีวิถีชีวิตอยู่ประจำ (Sedentary lifestyle)
🔹 วิธีออกกำลังกายที่ช่วยลดไขมันดีที่สุด:
✅ HIIT (High-Intensity Interval Training) เช่น วิ่งสลับเดินเร็ว
✅ เวทเทรนนิ่ง เพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและเผาผลาญไขมัน
3️⃣ ลดการอักเสบของต่อมลูกหมาก
- การอักเสบเรื้อรังเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้ต่อมลูกหมากขยายตัว
- การออกกำลังกายช่วย ลดการอักเสบในร่างกาย และ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้ทำงานดีขึ้น
🔹 การออกกำลังกายที่ช่วยลดการอักเสบ:
✅ โยคะ หรือ พิลาทิส ช่วยลดความเครียดและลดการอักเสบ
✅ ว่ายน้ำ ลดการกระแทกและช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวดีขึ้น
4️⃣ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดการคั่งของเลือดในต่อมลูกหมาก
- การนั่งเป็นเวลานาน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดีในอุ้งเชิงกราน ซึ่งเป็นสาเหตุให้ต่อมลูกหมากโตเร็วขึ้น
- การออกกำลังกายช่วยให้ เลือดไหลเวียนไปยังต่อมลูกหมากได้ดีขึ้น และลดอาการปัสสาวะติดขัด
🔹 การออกกำลังกายที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต:
✅ เดินเร็ว 30-40 นาทีต่อวัน ช่วยลดความเสี่ยงของ BPH ได้ถึง 25%
✅ ออกกำลังกายกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel exercises) ช่วยให้ระบบปัสสาวะทำงานดีขึ้น
5️⃣ ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง
- คนที่เป็น เบาหวานหรือความดันโลหิตสูง มีโอกาสเป็นต่อมลูกหมากโตสูงกว่าคนทั่วไป
- การออกกำลังกายช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต ลดความเสี่ยงของโรคร่วมที่เกี่ยวข้องกับต่อมลูกหมากโต
🔹 วิธีออกกำลังกายเพื่อลดความเสี่ยงโรคเหล่านี้:
✅ เดินเร็ว หรือ วิ่งจ๊อกกิ้ง อย่างน้อย 30 นาที/วัน
✅ ปั่นจักรยานเบาๆ เพื่อเสริมระบบไหลเวียนเลือดโดยไม่กระทบต่ออุ้งเชิงกรานมากเกินไป
📌 สรุป: ออกกำลังกายช่วยป้องกันต่อมลูกหมากโตอย่างไร?
📌 คำแนะนำในการออกกำลังกายเพื่อป้องกันต่อมลูกหมากโต
✅ ออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
✅ หลีกเลี่ยง การนั่งเป็นเวลานาน (ลุกเดินทุกๆ 1 ชั่วโมง)
✅ ผสมผสาน คาร์ดิโอ + เวทเทรนนิ่ง + การออกกำลังกายอุ้งเชิงกราน
✅ ควบคู่กับ โภชนาการที่ดี เช่น อาหารที่มีไลโคปีนและโอเมก้า-3
📢 สรุปง่ายๆ: ออกกำลังกายยังไงให้ห่างไกลต่อมลูกหมากโต?
💪 เวทเทรนนิ่ง + คาร์ดิโอ ลด DHT และเผาผลาญไขมัน
🚶 เดินเร็ว หรือ ว่ายน้ำ กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
🧘 โยคะ หรือ Kegel Exercise ช่วยให้ระบบปัสสาวะทำงานดีขึ้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วิธีการเหล่านี้จะต้องทำเป็นประจำ การ์ดต้องไม่ตก ในระหว่างนี้ก็เก็บตังค์ไปเรื่อยๆ ครับ เพื่อความพร้อมทุกเมื่อหากโรคภัยมาเยือน. ขอให้โชคดีทุกท่านครับ