การชาร์จแบต PHEV ปล่อย CO2e เท่าใด?

จากการแบบสอบถาม 
https://ppantip.com/topic/43233884/comment8
จะเห็นได้ว่า ท่านทั้งหลายคิดว่า ชาร์จแบตรถ PHEV ด้วยน้ำมันไม่คุ้ม
ผมเห็นด้วยครับ มันแพงกว่าชาร์จที่บ้านเท่าตัวได้ หรือ ‘แพงเท่ากับตู้ชาร์จที่แพงสุดในไทย’ 10 บาทต่อ kW
ในอีกแง่ การไม่เสียเวลาจอดชาร์จ (จะแย่มากถ้าของรัฐที่จอดเต็มแล้วอยากชาร์จ แต่ต้องไปจอดชาร์จของเอกชนแพง ๆ) จขกท.มองว่า ‘คุ้มดี ไม่เสียเวลา’ โดยเมื่อมองจำนวนน้ำมันที่ผมเสียไปในการชาร์จ จะตรงกับที่สหรัฐสำรวจ เป๊ะเลย
‘According to the EIA (Energy Information Administration), in the US, approximately 0.08 gallons of petroleum liquids (including gasoline) are used to produce 1 kilowatt-hour (kWh) of electricity, which roughly translates to 0.3 liters of gasoline per kWh.‘
 
อีกประเด็นในประทู้ใหม่นี้ คือ เรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เรามาดูกันครับ
จากกระทู้เดิม ผมได้ไฟ 2.9 kW ทำให้รถผมวิ่งในเมืองได้ 13 km
คำถามคือ รถผมปล่อย CO2equivalent เท่าใด?
เมื่อใช้ Gemini AI จะพบผลการปล่อย CO2e ต่อการปั่นไฟ 1 kWh ด้วยน้ำมันเบนซิน ‘263 g’
รถในแบบสอบถามผมชาร์จ 2.9 kW จึงปล่อย CO2e 263*2.9 = 762.7 g
เมื่อหาร 13 km จะตก km ละ 58.67 g CO2e
นับว่า ปล่อยมลพิษ จากการแปลงน้ำมันมาเป็นไฟฟ้า *น้อยมาก* ต่อ กิโลเมตร คือ มันสะอาดต่อประเทศ *มหาศาล* เทียบได้กับ BEV (หรืออาจดีกว่า)
ถ้าไม่มีท่านอื่นให้ความเห็นในทางอื่นจนผมเชื่อได้ ผมว่าพฤติกรรมผมตอนออกต่างจังหวัด จะเปลี่ยนเป็น ‘วิ่งเร็ว ๆ ผมชาร์จแบตด้วยน้ำมันแน่นอน เพื่อเอามาวิ่งไฟฟ้าตอนวิ่งช้า ๆ’
(เดิม ผมแทบไม่ชาร์จแบตด้วยน้ำมันตอนทริปไกล ๆ เลย)
ปล. ดังนั้น BEV และ PHEV สำหรับผม ตอนนี้ ปล่อยมลพิษเท่ากันแม้วิ่งระยะ หลักร้อยกิโลเมตร (เดิม ผมคิดว่ารถผมแย่กว่า BEV ถ้าขับไกล ๆ เพราะตอนความเร็วไม่สูงผมดันเผาเบนซิน แต่ตอนนี้ ผมรู้แล้วว่า *ถ้าผมชาร์จด้วยน้ำมันตอนความเร็วสูง ด้วยเงินเท่าจอดชาร์จตู้แพง จะทำให้ทุกย่านความเร็ว PHEV จขกท.ปล่อย CO2e เท่า BEV ทั่วไป)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่