รัฐบาลรุกดึงเศรษฐกิจใต้ดินเข้าระบบ เดินหน้าสถานบันเทิงครบวงจร ส่ง 2 ฝ่ายบริหารร่วมถกคณะกฤษฎีกา แก้ปมฟอกเงิน-การพนัน คลังระบุ ปลดล็อคสุราได้มากกว่าเสีย “กทท.” รื้อแผนพัฒนา“ท่าเรือคลองเตย” 1 แสนล้าน รับเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์
หนึ่งในนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อที่จะดำเนินการทันทีของรัฐบาล"แพทองธาร ชินวัตร" ในการแถลงต่อรัฐสภาคือ การสร้างรายได้ใหม่ของรัฐด้วยการนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษี (Informal Economy) และเศรษฐกิจใต้ดิน (Underground Economy) เข้าสู่ระบบภาษี เพื่อนำไปจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค
ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไปแล้วคือ ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (Entertainment Complex) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)อยู่ระหว่างการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้การพนันออนไลน์ให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย
ขณะที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)อยู่ระหว่างการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้การพนันออนไลน์ให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย
โดยรัฐบาลประมาณการว่า จำนวนผู้เล่นพนันออนไลน์ในปัจจุบันมีถึง 4 ล้านคน มูลค่าเฉลี่ย 3 ล้านล้านบาทต่อปี โดยที่เจ้ามือจะมีกำไรประมาณ 1.5 แสนล้านบาท และหากรัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้แค่ 1% จากผู้เล่น จะสามารถสร้างรายได้เข้ารัฐถึงปีละ 3 หมื่นล้านบาท
ล่าสุดนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมครม.ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันศึกษาทบทวนกฎหมายการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อปรับรูปแบบ ข้อบังคับทางกฎหมายให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากหลักเกณฑ์การจำหน่ายมีมานานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 หรือเมื่อ 53 ปีที่แล้ว
คลังชี้ปลดล็อกขายสุราได้มากกว่าเสีย 
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การผลักดันสถานบันเทิงครบวงจรจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ หากกำกับดูแลได้ดีและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งที่ผ่านมา กฎหมายได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นแล้ว และก็มีคนเห็นด้วยกว่า 80%
“หากดูตัวอย่างจากประเทศที่มีแล้ว หากควบคุมไม่ดี ไม่ทำให้เป็นไปตามเป้าหมายก็เกิดผลไม่ดีได้ แต่หากสามารถที่จะกำกับดูแลได้ดี แล้วเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีในการช่วยเศรษฐกิจ"
อย่างไรก็ตาม กาสิโนเป็นแค่ส่วนประกอบของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ปัจจุบันสถานที่แบบนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อน ทานอาหาร เชื่อมโยงการท่องเที่ยวต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวไม่ได้เข้ามาเที่ยวที่เดียว แต่จะท่องเที่ยวสถานที่ใกล้เคียงด้วย
“พิชัย” หนุนสถานบันเทิงครบวงจร ดันเศรษฐกิจโต เชื่อมโยงท่องเที่ยว
ส่วนที่มีกระแสคัดค้าน เป็นธรรมดาที่ทุกโครงการจะมีทั้งคนสนับสนุนและคนค้าน ส่วนจะต้องทำประชามติหรือไม่นั้น ไม่แน่ใจว่า กฎหมายลักษณะนี้ต้องทำประชามติหรือไม่ ส่วนที่ฝ่ายค้านเสนอว่า ให้รัฐบาลลองทำก่อนแค่ที่เดียวนั้น เรื่องนี้รัฐบาลก็ขอรับไปพิจารณา ซึ่งรัฐบาลก็จะไปดูว่าจะเริ่มต้นโครงการอย่างไร
นายพิชัยยังกล่าวถึงนโยบายการผ่อนคลายระยะเวลาในการขายสุราในช่วงเวลา 14.00 – 17.00 น.และวันสำคัญทางศาสนา ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้ศึกษาเรื่องนี้ว่า หากดูในภาพรวมแล้วนโยบายนี้เป็นเรื่องที่ได้มากกว่าเสีย และไม่มีผลกระทบข้างเคียงกระทรวงการคลังพร้อมที่จะสนับสนุนเรื่องนี้
คลังยันประชาชนหนุน"สถานบันเทิงครบวงจร" 83% 
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กระทรวงการคลังได้เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... (Entertainment Complex) เป็นครั้งที่ 2 ถึงวันที่ 14 ก.พ.68 ซึ่งเป็นการปรับรายละเอียดบางส่วนตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาท้วงติง
ส่วนรายละเอียดเรื่องข้อกังวลเกิดการฟอกเงินนั้น ขณะนี้ได้มีการส่งฝ่ายบริหาร 2 รายคือ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ และนายฉัตริน จันทร์หอมเข้าไปอยู่ในคณะกรรมการกฤษีพิเศษและร่วมประชุมทุกครั้ง เพื่อดูแลข้อกังวลต่างๆ เหล่านี้
"แนวโน้มการเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ จะออกมาเป็นเช่นไรนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ โดยหลังจากที่ปิดรับฟังความคิดเห็นแล้ว สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)จะประมวลผล และสรุปอีกครั้ง ก่อนรายงานคณะกรรมการต่อไป"
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ทิศทางจะไม่แตกต่างจากรอบแรกที่เปิดรับฟังความคิดเห็นเท่าไหร่นัก โดยคราวนั้นประชาชนเห็นด้วยกว่า 82-83%
ก่อนหน้านี้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าถึงการชี้แจงร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า สิ่งที่สื่อและสังคมยังเข้าใจผิดเรื่องการเดินหน้า Entertainment Complex คือ การไปมองเปรียบเทียบว่า เป็นสถานที่เล่นการพนันหรือบ่อนกาสิโนแบบประเทศเพื่อนบ้าน
“ที่จริงไม่ใช่แบบนั้น ของเราคือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หากเปรียบเทียบเรามองถึงสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เราต้องการเดินหน้าให้เกิดเม็ดเงินลงทุน เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทยในเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจ”
ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่า ช่วงแรกของการก่อสร้างสถานบันเทิงครบวงจรจะทำให้จีดีพีขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเปิดให้บริการแล้วจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.7% โดยรัฐบาลประเมินว่า เม็ดเงินลงทุนเบื้องต้นจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.19 - 2.38 แสนล้านบาท
“จีดีพีไทยเคยโตเฉลี่ยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว 10% 20ปีที่แล้ว 5% 10ปีที่ผ่านมาเหลือ 2% ซึ่งแน่นอนว่า ประชาชนคนไทยรอการลืมตาอ้าปาก หากยังเป็นตัวเลขนี้มันเป็นไปไม่ได้
นายจุลพันธ์กล่าวว่า รัฐบาลจึงพยายามผลักดันเรื่องเศรษฐกิจจนโตมาถึง 2.7-2.8%ได้ โดยตั้งเป้าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยศักยภาพที่มีอยู่ สุดท้ายต้องโตอย่างต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ซึ่งกลไกเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วย
"ท่องเที่ยว" ติงอย่ามือถือสากปากถือศีล
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า รัฐบาลมีนโยบายยกธุรกิจใต้ดินมาอยู่บนดิน เพื่อทำให้ประเทศไทยได้รับการจัดเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ล่าสุดกรณีนายกรัฐมนตรีสั่งให้ศึกษาการยกเลิกการห้ามขายแอลกอฮอล์เวลา 14.00-17.00 น. และวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและไม่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น เรื่องนี้หน่วยงานหลักคือกระทรวงมหาดไทย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมขับเคลื่อนด้วย
“กระทรวงท่องเที่ยวได้เสนอความเห็นไปแล้วว่า การปลดล็อคเรื่องนี้ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวไทย ไม่รู้ว่าหรอกว่า วันไหนเป็นวันพระใหญ่ หรือเวลาไหนที่ห้ามขายแอลกอฮอล์"
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง แม้จะห้าม แต่ในต่างจังหวัด ก็มีการแอบขายอยู่แล้ว ดังนั้นการปลดล็อคจะเป็นการปิดช่องโหว่ไม่ให้เกิดการทุจริต ทำให้รัฐบาลมีรายได้กลับเข้ามาเพิ่มขึ้น แล้วเอาเวลาไปคุมเรื่องการห้ามขายแอลกอฮอล์ในพื้นที่ใกล้โรงเรียน ใกล้วัด อย่างจริงจังจะดีกว่า
เช่นเดียวกับเรื่องของเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ที่มีการออกมาโจมตีเรื่องกาสิโนกันมากมาย ทั้งๆที่มีพื้นที่กาสิโนแค่ 10% ซึ่งครม. ได้อนุมัติร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรไปแล้ว เรื่องนี้จะส่งผลดีต่อ ช่วยยกระดับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย ตอบสนองความต้องการสถานที่จัดงานระดับโลกและสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ
ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต งานกีฬา หรือเวิลด์คลาสอีเว้นท์ที่ประเทศไทยยังไม่มีโครงสร้างรองรับ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม การสร้างเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จะช่วยเสริมศักยภาพให้ไทยสามารถแข่งขันในตลาดการท่องเที่ยวโลก เช่นเดียวกับประเทศสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนหลังการเปิดตัวสถานบันเทิงครบวงจร
ทั้งนี้จากการคาดการณ์เบื้องต้น โครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์จะดึงดูดการลงทุนมากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อโครงการ และสร้างรายได้ให้ประเทศ 4-5 หมื่นล้านบาทต่อปี
ขณะเดียวกันมีการกำหนดค่าใบอนุญาตไว้ 5 พันล้านบาทต่อสัมปทานและค่าธรรมเนียมรายปีอีก 1พันล้านบาท ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของภาครัฐ เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 5-20% และเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวจาก 4 หมื่น บาท เป็น 6หมื่นบาทต่อคนต่อทริป
“เราต้องมองประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ เพราะทุกวันนี้การพนักผิดกฏหมายเกิดขึ้นอยู่แล้ว เราอย่ามือถือสากปากถือศีล”นายสรวงศ์กล่าว
ส่วนข้อกังวลที่มีคนมองว่า โครงการนี้อาจนำไปสู่การฟอกเงินนั้น รัฐบาลได้กำหนดหลักเกณฑ์การควบคุมไว้อย่างรัดกุม มีองค์กรกลางที่ทำหน้าที่กำกับดูแลโดยเฉพาะ และจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด การขับเคลื่อนนี้เป็นการนำสิ่งที่เคยอยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน ขอให้ประชาชนไว้วางใจ รัฐบาลไม่ได้ผ่านกฎหมายเพื่อเปิดกาสิโน แต่เป็นการสร้างสถานบันเทิงครบวงจรที่มีองค์ประกอบหลากหลาย
กกท.ตั้ง 4 คณะอนุกรรมการพัฒนาท่าเรือคลองเตย
แหล่งข่าวจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.)กล่าวว่า กทท. มีแผนงานพัฒนาโครงการต่างๆ ในพื้นที่ท่าเรือคลองเตย เนื้อที่ 943 ไร่ และแผนพัฒนาพื้นที่ภายนอกเขตรั้วศุลกากรท่าเรือกรุงเทพเนื้อที่ 1,410 ไร่
ปัจจุบันอยู่ระหว่างคณะอนุกรรมการทั้ง 4 ชุด ที่เกี่ยวข้อง รวบรวมความคิดเห็นก่อนศึกษาแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตยคาดว่า จะเริ่มศึกษาแผนฯได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ ใช้ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 6 เดือน ก่อนจะนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต่อไป
สำหรับแผนพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตย ในปี 2562 นั้นยังไม่ครอบคลุมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เช่น พื้นที่ศูนย์การแพทย์ พื้นที่การท่องเที่ยว ฯลฯ ทำให้กทท.มีแผนทบทวนผลการศึกษานี้ให้สอดคล้องต่อการพัฒนาพื้นที่ อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมการศึกษารูปแบบด้านการลงทุนทั้งการเช่าพื้นที่หรือการให้เอกชนร่วมลงุทนกับภาครัฐ (PPP)
“พื้นที่ท่าเรือคลองเตยมีศักยภาพเหมาะแก่การพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวทางกายภาพถือเป็นจุดไข่แดงถูกล้อมรอบด้วยตัวเมืองอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการศึกษาว่าสามารถรองรับเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวได้หรือไม่”
Cr.
https://www.thansettakij.com/economy/619550
รัฐบาลลุยไฟ ดึงพนันออนไลน์ 3ล้านล้าน ขึ้นบนดิน และ ปลดล็อคสุรา
หนึ่งในนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อที่จะดำเนินการทันทีของรัฐบาล"แพทองธาร ชินวัตร" ในการแถลงต่อรัฐสภาคือ การสร้างรายได้ใหม่ของรัฐด้วยการนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษี (Informal Economy) และเศรษฐกิจใต้ดิน (Underground Economy) เข้าสู่ระบบภาษี เพื่อนำไปจัดสรรสวัสดิการด้านการศึกษา สาธารณสุข และสาธารณูปโภค
ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไปแล้วคือ ร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... (Entertainment Complex) โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)อยู่ระหว่างการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้การพนันออนไลน์ให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย
ขณะที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอี)อยู่ระหว่างการศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อให้การพนันออนไลน์ให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย
โดยรัฐบาลประมาณการว่า จำนวนผู้เล่นพนันออนไลน์ในปัจจุบันมีถึง 4 ล้านคน มูลค่าเฉลี่ย 3 ล้านล้านบาทต่อปี โดยที่เจ้ามือจะมีกำไรประมาณ 1.5 แสนล้านบาท และหากรัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้แค่ 1% จากผู้เล่น จะสามารถสร้างรายได้เข้ารัฐถึงปีละ 3 หมื่นล้านบาท
ล่าสุดนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมครม.ให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันศึกษาทบทวนกฎหมายการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อปรับรูปแบบ ข้อบังคับทางกฎหมายให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากหลักเกณฑ์การจำหน่ายมีมานานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 หรือเมื่อ 53 ปีที่แล้ว
คลังชี้ปลดล็อกขายสุราได้มากกว่าเสีย
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การผลักดันสถานบันเทิงครบวงจรจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ หากกำกับดูแลได้ดีและเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ซึ่งที่ผ่านมา กฎหมายได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นแล้ว และก็มีคนเห็นด้วยกว่า 80%
“หากดูตัวอย่างจากประเทศที่มีแล้ว หากควบคุมไม่ดี ไม่ทำให้เป็นไปตามเป้าหมายก็เกิดผลไม่ดีได้ แต่หากสามารถที่จะกำกับดูแลได้ดี แล้วเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีในการช่วยเศรษฐกิจ"
อย่างไรก็ตาม กาสิโนเป็นแค่ส่วนประกอบของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ปัจจุบันสถานที่แบบนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อน ทานอาหาร เชื่อมโยงการท่องเที่ยวต่อเนื่อง โดยนักท่องเที่ยวไม่ได้เข้ามาเที่ยวที่เดียว แต่จะท่องเที่ยวสถานที่ใกล้เคียงด้วย
“พิชัย” หนุนสถานบันเทิงครบวงจร ดันเศรษฐกิจโต เชื่อมโยงท่องเที่ยว
ส่วนที่มีกระแสคัดค้าน เป็นธรรมดาที่ทุกโครงการจะมีทั้งคนสนับสนุนและคนค้าน ส่วนจะต้องทำประชามติหรือไม่นั้น ไม่แน่ใจว่า กฎหมายลักษณะนี้ต้องทำประชามติหรือไม่ ส่วนที่ฝ่ายค้านเสนอว่า ให้รัฐบาลลองทำก่อนแค่ที่เดียวนั้น เรื่องนี้รัฐบาลก็ขอรับไปพิจารณา ซึ่งรัฐบาลก็จะไปดูว่าจะเริ่มต้นโครงการอย่างไร
นายพิชัยยังกล่าวถึงนโยบายการผ่อนคลายระยะเวลาในการขายสุราในช่วงเวลา 14.00 – 17.00 น.และวันสำคัญทางศาสนา ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ให้ศึกษาเรื่องนี้ว่า หากดูในภาพรวมแล้วนโยบายนี้เป็นเรื่องที่ได้มากกว่าเสีย และไม่มีผลกระทบข้างเคียงกระทรวงการคลังพร้อมที่จะสนับสนุนเรื่องนี้
คลังยันประชาชนหนุน"สถานบันเทิงครบวงจร" 83%
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า กระทรวงการคลังได้เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... (Entertainment Complex) เป็นครั้งที่ 2 ถึงวันที่ 14 ก.พ.68 ซึ่งเป็นการปรับรายละเอียดบางส่วนตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกาท้วงติง
ส่วนรายละเอียดเรื่องข้อกังวลเกิดการฟอกเงินนั้น ขณะนี้ได้มีการส่งฝ่ายบริหาร 2 รายคือ นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ และนายฉัตริน จันทร์หอมเข้าไปอยู่ในคณะกรรมการกฤษีพิเศษและร่วมประชุมทุกครั้ง เพื่อดูแลข้อกังวลต่างๆ เหล่านี้
"แนวโน้มการเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ จะออกมาเป็นเช่นไรนั้น ยังไม่สามารถระบุได้ โดยหลังจากที่ปิดรับฟังความคิดเห็นแล้ว สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)จะประมวลผล และสรุปอีกครั้ง ก่อนรายงานคณะกรรมการต่อไป"
อย่างไรก็ตาม คาดว่า ทิศทางจะไม่แตกต่างจากรอบแรกที่เปิดรับฟังความคิดเห็นเท่าไหร่นัก โดยคราวนั้นประชาชนเห็นด้วยกว่า 82-83%
ก่อนหน้านี้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าถึงการชี้แจงร่างพ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต่อคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่า สิ่งที่สื่อและสังคมยังเข้าใจผิดเรื่องการเดินหน้า Entertainment Complex คือ การไปมองเปรียบเทียบว่า เป็นสถานที่เล่นการพนันหรือบ่อนกาสิโนแบบประเทศเพื่อนบ้าน
“ที่จริงไม่ใช่แบบนั้น ของเราคือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หากเปรียบเทียบเรามองถึงสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เราต้องการเดินหน้าให้เกิดเม็ดเงินลงทุน เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทยในเรื่องของการเติบโตทางเศรษฐกิจ”
ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่า ช่วงแรกของการก่อสร้างสถานบันเทิงครบวงจรจะทำให้จีดีพีขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเปิดให้บริการแล้วจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น 0.7% โดยรัฐบาลประเมินว่า เม็ดเงินลงทุนเบื้องต้นจากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท พร้อมสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 1.19 - 2.38 แสนล้านบาท
“จีดีพีไทยเคยโตเฉลี่ยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว 10% 20ปีที่แล้ว 5% 10ปีที่ผ่านมาเหลือ 2% ซึ่งแน่นอนว่า ประชาชนคนไทยรอการลืมตาอ้าปาก หากยังเป็นตัวเลขนี้มันเป็นไปไม่ได้
นายจุลพันธ์กล่าวว่า รัฐบาลจึงพยายามผลักดันเรื่องเศรษฐกิจจนโตมาถึง 2.7-2.8%ได้ โดยตั้งเป้าการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยศักยภาพที่มีอยู่ สุดท้ายต้องโตอย่างต่ำเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ซึ่งกลไกเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเป็นส่วนหนึ่งที่เข้ามาช่วย
"ท่องเที่ยว" ติงอย่ามือถือสากปากถือศีล
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากล่าวกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า รัฐบาลมีนโยบายยกธุรกิจใต้ดินมาอยู่บนดิน เพื่อทำให้ประเทศไทยได้รับการจัดเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ล่าสุดกรณีนายกรัฐมนตรีสั่งให้ศึกษาการยกเลิกการห้ามขายแอลกอฮอล์เวลา 14.00-17.00 น. และวันสำคัญทางศาสนา ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและไม่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น เรื่องนี้หน่วยงานหลักคือกระทรวงมหาดไทย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมขับเคลื่อนด้วย
“กระทรวงท่องเที่ยวได้เสนอความเห็นไปแล้วว่า การปลดล็อคเรื่องนี้ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวไทย ไม่รู้ว่าหรอกว่า วันไหนเป็นวันพระใหญ่ หรือเวลาไหนที่ห้ามขายแอลกอฮอล์"
อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง แม้จะห้าม แต่ในต่างจังหวัด ก็มีการแอบขายอยู่แล้ว ดังนั้นการปลดล็อคจะเป็นการปิดช่องโหว่ไม่ให้เกิดการทุจริต ทำให้รัฐบาลมีรายได้กลับเข้ามาเพิ่มขึ้น แล้วเอาเวลาไปคุมเรื่องการห้ามขายแอลกอฮอล์ในพื้นที่ใกล้โรงเรียน ใกล้วัด อย่างจริงจังจะดีกว่า
เช่นเดียวกับเรื่องของเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ที่มีการออกมาโจมตีเรื่องกาสิโนกันมากมาย ทั้งๆที่มีพื้นที่กาสิโนแค่ 10% ซึ่งครม. ได้อนุมัติร่างพ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรไปแล้ว เรื่องนี้จะส่งผลดีต่อ ช่วยยกระดับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศไทย ตอบสนองความต้องการสถานที่จัดงานระดับโลกและสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ
ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต งานกีฬา หรือเวิลด์คลาสอีเว้นท์ที่ประเทศไทยยังไม่มีโครงสร้างรองรับ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้หลากหลายกลุ่ม การสร้างเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์จะช่วยเสริมศักยภาพให้ไทยสามารถแข่งขันในตลาดการท่องเที่ยวโลก เช่นเดียวกับประเทศสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างชัดเจนหลังการเปิดตัวสถานบันเทิงครบวงจร
ทั้งนี้จากการคาดการณ์เบื้องต้น โครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์จะดึงดูดการลงทุนมากกว่า 1 แสนล้านบาทต่อโครงการ และสร้างรายได้ให้ประเทศ 4-5 หมื่นล้านบาทต่อปี
ขณะเดียวกันมีการกำหนดค่าใบอนุญาตไว้ 5 พันล้านบาทต่อสัมปทานและค่าธรรมเนียมรายปีอีก 1พันล้านบาท ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของภาครัฐ เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น สามารถเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวได้ถึง 5-20% และเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อหัวของนักท่องเที่ยวจาก 4 หมื่น บาท เป็น 6หมื่นบาทต่อคนต่อทริป
“เราต้องมองประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ เพราะทุกวันนี้การพนักผิดกฏหมายเกิดขึ้นอยู่แล้ว เราอย่ามือถือสากปากถือศีล”นายสรวงศ์กล่าว
ส่วนข้อกังวลที่มีคนมองว่า โครงการนี้อาจนำไปสู่การฟอกเงินนั้น รัฐบาลได้กำหนดหลักเกณฑ์การควบคุมไว้อย่างรัดกุม มีองค์กรกลางที่ทำหน้าที่กำกับดูแลโดยเฉพาะ และจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด การขับเคลื่อนนี้เป็นการนำสิ่งที่เคยอยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน ขอให้ประชาชนไว้วางใจ รัฐบาลไม่ได้ผ่านกฎหมายเพื่อเปิดกาสิโน แต่เป็นการสร้างสถานบันเทิงครบวงจรที่มีองค์ประกอบหลากหลาย
กกท.ตั้ง 4 คณะอนุกรรมการพัฒนาท่าเรือคลองเตย
แหล่งข่าวจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย(กทท.)กล่าวว่า กทท. มีแผนงานพัฒนาโครงการต่างๆ ในพื้นที่ท่าเรือคลองเตย เนื้อที่ 943 ไร่ และแผนพัฒนาพื้นที่ภายนอกเขตรั้วศุลกากรท่าเรือกรุงเทพเนื้อที่ 1,410 ไร่
ปัจจุบันอยู่ระหว่างคณะอนุกรรมการทั้ง 4 ชุด ที่เกี่ยวข้อง รวบรวมความคิดเห็นก่อนศึกษาแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตยคาดว่า จะเริ่มศึกษาแผนฯได้ภายใน 1-2 เดือนนี้ ใช้ระยะเวลาในการศึกษาประมาณ 6 เดือน ก่อนจะนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมต่อไป
สำหรับแผนพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตย ในปี 2562 นั้นยังไม่ครอบคลุมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เช่น พื้นที่ศูนย์การแพทย์ พื้นที่การท่องเที่ยว ฯลฯ ทำให้กทท.มีแผนทบทวนผลการศึกษานี้ให้สอดคล้องต่อการพัฒนาพื้นที่ อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมการศึกษารูปแบบด้านการลงทุนทั้งการเช่าพื้นที่หรือการให้เอกชนร่วมลงุทนกับภาครัฐ (PPP)
“พื้นที่ท่าเรือคลองเตยมีศักยภาพเหมาะแก่การพัฒนาเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวทางกายภาพถือเป็นจุดไข่แดงถูกล้อมรอบด้วยตัวเมืองอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการศึกษาว่าสามารถรองรับเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวได้หรือไม่”
Cr. https://www.thansettakij.com/economy/619550