เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.matichon.co.th/foreign/news_5046710

รอยเตอร์ รายงานว่า เชฟรอน จะเลย์ออฟพนักงานทั่วโลก 15-20% ภายในสิ้นปี 2569

บริษัทน้ำมันอันดับ 2 ของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า บริษัทพยายามจะลดต้นทุน ลดความซับซ้อนทางธุรกิจ และ เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่
เชฟรอน เผชิญความท้าทายด้านการผลิต รวมถึงต้นทุนที่สูงเกินไป และความล่าช้าในโครงการบ่อน้ำมันขนาดใหญ่ในคาซัคสถาน ขณะเดียวกัน ข้อตกลงมูลค่า 53,000 ล้านดอลลาร์ของบริษัท นอกจากนี้โครงการลงทุนในลักษณะเดียวกันในประเทศกายอานาในอเมริกาใต้ ยังคงไม่มีความชัดเจน และตกอยู่ในความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากยังคงมีคดีความกับบริษัทเอ็กซ์ซ่อน ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกา

เชฟรอน ระบุว่า ได้ตั้งเป้าลดต้นทุน 3 พันล้านดอลลาร์ จนถึงปี 2569 จากการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี การขายสินทรัพย์ และ การเปลี่ยนแปลงวิธีการและสถานที่ปฏิบัติงาน ณ สิ้นปี 2566 เชฟรอน จ้างงานพนักงาน 40,212 คน
การเลิกจ้างพนักงาน 20% ของพนักงานทั้งหมด จะอยู่ที่ประมาณ 8,000 คน ตัวเลขดังกล่าวไม่รวมพนักงานอีก 5,400 คน ของสถานีบริการน้ำมัน
อัตรากำไรขั้นต้นที่อ่อนแอในการผลิตน้ำมันเบนซินและดีเซล ยังส่งผลกระทบต่อผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของเชฟรอน เนื่องจากธุรกิจการกลั่นของบริษัท มีผลขาดทุนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อซีอีโอ ไมค์ เวิร์ธ

หุ้นของเชฟรอนลดลง 1.3% ในการซื้อขายช่วงบ่าย ดัชนีกลุ่มพลังงาน S&P 500 ที่กว้างขึ้นลดลง 2.4% หุ้นของเชฟรอนเพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี
มีรายงานว่า เชฟรอน จะจัดโครงสร้างธุรกิจใหม่ และ ประกาศโครงสร้างผู้นำใหม่ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมน้ำมัน มีการรวมตัวกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมุ่งเน้นไปที่การควบรวมกิจการ และประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากกว่าการขุดเจาะหลุมใหม่

เอ็กซอน บริษัทน้ำมันอันดับ 1 ของสหรัฐ ซื้อบริษัท Pioneer Natural Resources เมื่อปีที่แล้วเพื่อเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในลุ่มน้ำเพอร์เมียน โดยบริษัท มีสัดส่วนการถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในกิจการร่วมค้าน้ำมันของกายอานา ซึ่งค้นพบน้ำมันมากกว่า 11,000 ล้านบาร์เรล... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/foreign/news_5046710