เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ค่ะทุกคน เราคุยกับผู้ชายคนนึงที่เจอกันผ่านแอพหาคู่ ตอนแรกเราก็คุยกันในแอพคุยได้สักนึงเขาก็ขอไลน์ไปคุย(เขาว่าแอพมันไม่แจ้งเตือน) โปรไฟล์เขาคือหล่อ แล้วแอบดูมีฐานะหน่อยๆ เขาอายุ32 เคยมีแฟนแต่แฟนเสียไปเพราะอุบัติเหตุ ทำใจอยู่3ปีพึ่งกลับมาเปิดใจ)คุยกันได้สักพักเขาก็ขอเราเป็นแฟน ตอนแรกเราก็ไม่ได้ตอบตกลง พยายามหาเรื่องอื่นมาคุยแทน ต่อมาเขาก็มาขอเป็นแฟนอีกรอบนึง รอบนี้เราเลยตอบตกลงไป พอตกลงปุ๊บเขาก็แทนตัวเราว่ามะม๊า ตัวเขาว่าปะป๊าทันที(อันนี้เราก็ถามเขานะ เขาว่าอายุขนาดนี้เเล้ว พร้อมที่จะสร้างอนาคตกับใครสักคนแล้ว) มีโทรคุยกันบ้าง แต่ไม่เคยวิดีโอคอลกัน เราก็คุยมาเรื่อยๆแบบคิดจริงจังบ้าง ไม่จริงจังบ้าง เพราะส่วนตัวเรายังคงไม่เชื่อเรื่องต่างๆที่เขาเล่ามา
เขาบอกว่าตอนแรกก็มีงานประจำอยู่กทม.แต่ตอนนี้แม่ป่วยต้องกลับไปดูแลแม่กับบริษัทของแม่ที่เชียงราย(งานประจำก็ย้ายสาขาไปที่นู่น) แต่เดี๋ยวก็จะกลับมาเดือนเมษา ตลอดเวลาที่คุยกันเขาก็พูดเชิงจะสร้างอนาคต จะทำกิจการของตัวเองแล้วให้เราออกจากงานประจำไปช่วยเขาดูแล จะพาไปนู่นนี่นั่น ไปกินนั่นนี่ เขาก็บอกแม่เขาแล้วว่ามีแฟน เอารูปให้แม่ดูให้คนครอบครัวดู
เรื่องมันมาถึงตรงนี้ เราคุยกันจิปาถะมาเรื่อยๆจนประมาณครึ่งเดือนเขาก็มาถามว่าเราเคยคิดจะเก็บเงินสร้างอนาคตกับเขามั้ย เราก็ตอบว่าเคยคิด(อันนี้เราโกหกเขา) เขาก็ว่างั้นมาลงทุนตราสารทุนกับเขามั้ย เพื่อนพึ่งถอนชื่อออกไปแล้วมันว่างอยู่(ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดอยู่ว่าเพื่อนเขาจะถอนตราสารทุนออกเพราะเขาใช้ชื่อเพื่อนเขาถือไว้ ในจุดนี้ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจอะไร) เขาก็พูดแนะนำว่าเราลงทุนโปรแกรมแรก ลงทุน……บาท แล้วจะได้%ต่อเดือนเท่านี้นี้นี้(อันนี้เราจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่เพราะจริงๆเราก็ไม่ได้อยากทำ) เรามาฝากเงินกันคนละครึ่ง ชื่อบัญชีให้เป็นชื่อเรา เราก็ว่าถ้าเงินขนาดนั้นเรามีไม่พอหรอก จากการต่อรองกันอยู่พักใหญ่ก็สรุปได้ว่าเขาจะออกให้60%เรา40% ถามเราว่าเราพร้อมเมื่อไหร่(พูดกดดันเรามากๆๆๆ)เราก็เลยว่าก็สิ้นเดือนแหละ เงินออกถึงจะมีเงิน เขาก็ตกลง(ตอนนี้เราโทรคุยกัน) ตอนที่เราตอบตกลงไปเราสังเกตได้อย่างนึงคือเสียงเขาดูดีใจ แบบดีใจมาก ซึ่งตลอดเวลาที่เราคุยกันเรื่องนี้เราก็ยังคงคิดอยู่ว่าในตอนแรกที่เขาบอกว่าเพื่อนเขาถอนชื่อออกแล้วทำไมเขาถึงไม่ใช้ชื่อตัวเอง(เราไม่ได้ถามเหตุผลเขา) ตอนนี้เรายังไม่ได้ให้เงินเขาไปนะคะ
พอเรื่องมันมาถึงตรงนี้เราเริ่มคิดว่าเขามาหลอกเราใช่มั้ย เพราะเราเคยมีประสบการณ์จากแก๊งตบทรัพย์มาครั้งนึง มันเลยมีความรู้สึกระแวงอยู่ตลอด
ตั้งแต่ที่เราเริ่มคุยกัน เราก็ยังไม่ได้มีความรู้สึกรักเขานะ แต่อาจจะชอบหน้าอยู่เพราะหน้าหล่อ55555
ชวนลงทุนแบบนี้เป็นพี่มิจจี้มั้ย
เขาบอกว่าตอนแรกก็มีงานประจำอยู่กทม.แต่ตอนนี้แม่ป่วยต้องกลับไปดูแลแม่กับบริษัทของแม่ที่เชียงราย(งานประจำก็ย้ายสาขาไปที่นู่น) แต่เดี๋ยวก็จะกลับมาเดือนเมษา ตลอดเวลาที่คุยกันเขาก็พูดเชิงจะสร้างอนาคต จะทำกิจการของตัวเองแล้วให้เราออกจากงานประจำไปช่วยเขาดูแล จะพาไปนู่นนี่นั่น ไปกินนั่นนี่ เขาก็บอกแม่เขาแล้วว่ามีแฟน เอารูปให้แม่ดูให้คนครอบครัวดู
เรื่องมันมาถึงตรงนี้ เราคุยกันจิปาถะมาเรื่อยๆจนประมาณครึ่งเดือนเขาก็มาถามว่าเราเคยคิดจะเก็บเงินสร้างอนาคตกับเขามั้ย เราก็ตอบว่าเคยคิด(อันนี้เราโกหกเขา) เขาก็ว่างั้นมาลงทุนตราสารทุนกับเขามั้ย เพื่อนพึ่งถอนชื่อออกไปแล้วมันว่างอยู่(ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดอยู่ว่าเพื่อนเขาจะถอนตราสารทุนออกเพราะเขาใช้ชื่อเพื่อนเขาถือไว้ ในจุดนี้ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจอะไร) เขาก็พูดแนะนำว่าเราลงทุนโปรแกรมแรก ลงทุน……บาท แล้วจะได้%ต่อเดือนเท่านี้นี้นี้(อันนี้เราจำไม่ได้ว่าเท่าไหร่เพราะจริงๆเราก็ไม่ได้อยากทำ) เรามาฝากเงินกันคนละครึ่ง ชื่อบัญชีให้เป็นชื่อเรา เราก็ว่าถ้าเงินขนาดนั้นเรามีไม่พอหรอก จากการต่อรองกันอยู่พักใหญ่ก็สรุปได้ว่าเขาจะออกให้60%เรา40% ถามเราว่าเราพร้อมเมื่อไหร่(พูดกดดันเรามากๆๆๆ)เราก็เลยว่าก็สิ้นเดือนแหละ เงินออกถึงจะมีเงิน เขาก็ตกลง(ตอนนี้เราโทรคุยกัน) ตอนที่เราตอบตกลงไปเราสังเกตได้อย่างนึงคือเสียงเขาดูดีใจ แบบดีใจมาก ซึ่งตลอดเวลาที่เราคุยกันเรื่องนี้เราก็ยังคงคิดอยู่ว่าในตอนแรกที่เขาบอกว่าเพื่อนเขาถอนชื่อออกแล้วทำไมเขาถึงไม่ใช้ชื่อตัวเอง(เราไม่ได้ถามเหตุผลเขา) ตอนนี้เรายังไม่ได้ให้เงินเขาไปนะคะ
พอเรื่องมันมาถึงตรงนี้เราเริ่มคิดว่าเขามาหลอกเราใช่มั้ย เพราะเราเคยมีประสบการณ์จากแก๊งตบทรัพย์มาครั้งนึง มันเลยมีความรู้สึกระแวงอยู่ตลอด
ตั้งแต่ที่เราเริ่มคุยกัน เราก็ยังไม่ได้มีความรู้สึกรักเขานะ แต่อาจจะชอบหน้าอยู่เพราะหน้าหล่อ55555