เล่าเรื่องอาหาร บะหมี่แห้งของอากง

มื้อกลางวันวันนี้ ฉันกินบะหมี่แห้งหมูแดง ราคา 50 บาท บะหมี่หนึ่งก้อนจิ๋ว ๆ กับหมูแดงสไลด์บางเฉียบ ราวกับจะปลิวไปพร้อมสายลม ซึ่งแปะบนบะหมี่มาเพียงไม่กี่ชิ้น เวลาคลุกเคล้าเส้นให้เข้ากันแทบไม่กล้าหายใจแรงเพราะเกรงว่าชิ้นหมูจะปลิวหายไป

ฉันใช้ตะเกียบคีบใส่ปาก ไม่กี่คำก็หมดชามอย่างรวดเร็ว ยัง…ยังไม่อิ่มหรอกแต่จำเป็นต้องหยุดเพราะเกรงว่าไขมันในร่างกายจะเพิ่มไปมากกว่านี้

   นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ย้อนนึกในสมัยวัยเด็กอาหารโปรดของอากงอีกอย่าง ที่ไม่ใช่  เมนูที่อาม่าทำคือ บะหมี่แห้ง อากงมักใช้ให้หลาน ๆ ไปซื้อที่ร้านประจำแถวบ้าน เพียงแค่โผล่หน้าไปแล้วตะโกนบอกว่า “ของอากง” เพียงเท่านี้เจ้าของร้านก็รู้ได้ทันทีว่าคือเมนูอะไร

อากงของฉันเป็นคนดังในละแวกนั้น ใคร ๆ ก็รู้จัก ไม่ได้เป็นคนมีชื่อเสียงหรอก แต่เป็นเพราะว่าอยู่มานานกว่าใครนั่นเอง

บะหมี่เหลืองสองก้อนทำเป็น บะหมี่แห้ง ส่วนหมูนั้น อากงให้ใช้ กระดูกที่ต้มน้ำซุป เอามาขูดแต่ส่วนเนื้อซึ่งถูกต้มจนเปื่อย ล่อนออกจากกระดูกอย่างง่ายดาย แถมด้วยกระดูกอ่อนกรุบ ๆ ที่ติดมา ใส่แทนลูกชิ้นหรือเนื้อหมู บะหมี่ถูกห่อด้วยใบตอง ซ้อนด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ด้านนอกอีกชั้น สมัยนั้นไม่มีใครมาบอกว่า หมึกพิมพ์มันอันตรายนะ ห่ออาหารไม่ด้ายยย..และมัดด้วยเชือกฟางที่ทำเป็นที่หิ้วพร้อมสรรพ ไม่ต้องเปลืองถุงพลาสติก รักษ์โลกไปอีกขั้น


เจ้าของร้านจะขูดเนื้อหมูให้ปริมาณมาก ๆ ห่อใหญ่มากกว่า 2 เท่าของขนาดปกติ ในราคา 20 บาท (ราคาปกติที่ขายน่าจะเป็น 15 บาท ของอากงพิเศษทั้งเส้นและหมู)  ซึ่งจริง ๆ แล้วในสมัยก่อน กระดูกต้มน้ำซุปพวกนี้หลังจากจบวัน ก็จะกลายเป็นอาหารอันเอร็ดอร่อยของเจ้าตูบทั้งหลายที่เจ้าของร้านเลี้ยงไว้ อากงมักพูดล้อตัวเองเสมอว่าชอบแย่งอาหารเจ้าตูบมากิน

อ้อ มีเทคนิคอีกเรื่องคือ เราจะต้องไปซื้อหลังเที่ยง เพราะกระดูกหมูนั้นจะถูกเคี่ยวในหม้อน้ำซุปตั้งแต่เช้า ยิ่งเคี่ยวนานก็ยิ่งนุ่ม แต่ถ้าช้า จนบ่ายแก่ ๆ ละก็ อาจไม่ทันการ เจ้าของร้านเตรียมจะปิดร้าน กระดูกนั้นก็จะโดนตัดหน้าโดยเจ้าตูบไปเสียก่อน…

เมื่อก่อนฉันคิดว่า อากงชอบกินเนื้อติดกระดูกพวกนี้เพราะว่ามันราคาถูก เจ้าของร้านจะให้ปริมาณที่เยอะมาก ฉันไม่เคยสนใจที่จะลิ้มลอง แต่เมื่อโตขึ้นฉันเพิ่งรู้ว่ามัน  นุ่ม กรุบกรอบ หอมหวาน เอร็ดอร่อยแค่ไหน คิดแล้วก็อยากกินอีก ปัจจุบันคงจะหายากแล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เคี่ยวน้ำซุปจากกระดูกหมูด้วยตัวเอง

ถ้าทุกคนอยากรู้รสชาติก็คงจะประมาณต้มเล้งของยุคปัจจุบัน ในเวอร์ชั่นที่ไม่เผ็ด แต่มีความกลมกล่อม อีกทั้งเนื้อเยอะและนุ่มกว่า…
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่