สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาวพันทิพทุกท่าน
อยากจะบอกเล่าเรื่องนี้เพื่อเป็นวิทยาทานความรู้ให้เพื่อนๆทุกท่านได้ตระหนักถึงความอันตรายที่หลายๆท่านในที่นี้อาจจะไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำและอาจจะเคยเกิดขึ้นแล้วด้วยซ้ำแต่ละเลยมองข้ามมันไป
ก่อนอื่นมารู้จัก HPV แบบคร่าวๆ อาจจะยาวไปนิดเสียเวลาหน่อยแต่มีประโยชน์นะคะ
(HPV : Human papilloma virus) เจ้าไวรัสตัวนี้เรียกง่ายๆ คือ
ไวรัสหูด หรือ หูด ที่หลายคนอาจจะเคยเป็น เชื้อตัวนี้เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อเนื้อเยื่อบุผิว และก่อโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย สามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสทางผิวหนังและทางเพศสัมพันธ์ ทางช่องคลอด, ปาก และทวารหนัก โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังที่เกิดการถลอก มีรอยขีดข่วน การเสียดสีมีแผล การสัมผัสกับบริเวณผิวหนังที่เป็นหูดหรือการหยิบจับของที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อนอยู่ รวมทั้งการแกะเกา ทำให้เกิดการแพร่กระจายของหูดไปยังส่วนอื่นๆได้ เชื้อไวรัสชนิดนี้จะกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังเกิดการหนาตัวหรือแข็งตัวนูนขึ้นหรือเป็นติ่งเนื้อให้เห็น ลักษณะของหูดขึ้นอยู่กับสายพันธ์ของไวรัสและบริเวณที่เป็น ผู้ที่มีเชื้อ HPV อยู่ในร่างกาย มักไม่มีอาการแสดงใด ๆ จึงอาจแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว
เชื้อไวรัสชนิดนี้มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
-สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่ำไม่ก่อมะเร็ง ไม่ได้ทําให้เกิดมะเร็งปากมดลูก แต่เป็นสาเหตุของหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศ เช่น HPV สายพันธ์ุ 6 และ สายพันธ์ุ11
-สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงก่อมะเร็ง มีประมาณ 40 สายพันธุ์ ที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ และ 14 สายพันธุ์ ทําให้เป็นโรคร้าย HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ โดยสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกถึงประมาณร้อยละ 70 รองลงมาคือ สายพันธุ์ 45, 31 และ 33
HPV สายพันธุ์ 16 เป็นเชื้อชนิดที่มีความเสี่ยงสูงที่ ผู้ที่ติดเชื้อมักไม่แสดงอาการที่เห็นได้ชัดเจน และส่งผลให้เซลล์ที่ปากมดลูกเปลี่ยนแปลง จนเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งลำคออีกด้วย
HPV สายพันธุ์ 18 มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกับ สายพันธุ์ 16 โดยทั่วไปมักจะไม่แสดงอาการเช่นเดียวกัน และมักเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งต่อมลูกหมาก
HPV ภัยเงียบสำหรับผู้ชาย
-90% ของผู้ชายที่เคยมีเพศสัมพันธ์ เคยได้รับเชื้อ HPV ในช่วงใดช่วงหนึ่ง ของชีวิต
-การติดเชื้อ HPV ในเพศชายไม่ลดลง ตามช่วงอายุ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกายตอบสนองต่อเชื้อ HPV ได้ไม่ดี ทำให้ร่างกายไม่สามารถกําจัดเชื้อออกไปได้ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ
-เชื้อ HPV สามารถแฝงอยู่ในร่างกาย ได้นานกว่า 10 ปี โดยไม่มีอาการใด ๆ ดังนั้นผู้ที่ติดเชื้ออาจแพร่สู่ผู้อื่นได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว
-ไม่มีการตรวจคัดกรองมะเร็งอวัยวะเพศชาย ทำให้ส่วนมากจะตรวจพบเมื่อเป็นโรค หรือมะเร็งระยะลุกลาม แล้วเท่านั้น
คนเราอาจจะเคยได้รับเชื้อ HPV จากการใช้ชีวิตประจำวันสัมผัสและใช้สิ่งของต่างๆ ร่วมกับผู้อื่น เช่น ห้องน้ำสาธารณะ แม้กระทั้งปุ่มกดในลิฟท์ ลูกบิด หรือ กลอนและที่จับประตู หากบริเวณสัมผัสเชื้อโดยตรงนั้นมีแผล หากร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวใดๆ ภูมิคุ้มกันในร่างกายสามารถกำจัดเชื้อไปได้โดยธรรมชาติ และก็มีบางส่วนที่ไม่สามารถกำจัดเชื้อได้ รวมถึงมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกและทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น หูดหงอนไก่ มะเร็งปากมดลูก และอื่นๆ
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่
1. อายุ ส่วนใหญ่มะเร็งปากมดลูกมักพบในผู้มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
2.
*** เปลี่ยนคู่นอนบ่อยมีคู่นอนหลายคน ทำให้มีโอกาสได้รับเชื้อ HPV มากขึ้น เพราะปัจจุบันนี้มีความหลากหลายทางรสนิยมและความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างเปิดกว้าง ทำให้มีความเสี่ยงรับเชื้อที่ค่อนข้างสูง
3. สูบบุหรี่
4. มีบุตรจำนวนมาก
5. ร่างกายมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (โรคเอดส์)
6. ไม่เคยตรวจภายใน เพื่อค้นหารอยโรคระยะก่อนเป็นมะเร็ง (Precancercous lesion) ซึ่งในช่วงเวลานี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ แต่สามารถตรวจพบด้วยการตรวจทางเซลล์วิทยาที่เรียกว่าแป๊ปสเมียร์ (Pap smear) และสามารถรักษาได้ หากตรวจพบรอยโรคในระยะนี้ก็จะสามารถป้องกันการเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกได้
การป้องกัน
-ทางทีดีที่สุดต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงให้ตัวเอง ใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยป้องกันแบบ 100 % เพราะอาจติดเชื้ออยู่บริเวณภายนอกแต่ก็ดีกว่าไม่ใส่เพราะป้องกันอย่างอื่นได้
-รักษาความสะอาด หมั่นล้างมือบ่อยๆในระหว่างวัน สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันตัว จขกท จะพกแอลกอฮอล์และทิชชู่เปียกติดตัวเสมอเวลาออกจากบ้าน หากต้องใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ห้องน้ำ อย่างที่รู้ว่าแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อไวรัสได้ก่อนจะใช้ก็จะฉีดแอลกอฮอล์บริเวณฝาชักโครกแล้วเช็ดด้วยกระดาษทิชชู่ก่อนนั่ง ทำเท่าที่ทำได้ไม่รู้ว่าช่วยได้มั้ยแต่ก็สบายใจ
-สังเกตุตัวเองเมื่อเห็นความผิดปกติอย่านิ่งนอนใจ ควรไปตรวจภายใน หรือ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกๆ 3 ปี หรือ ตรวจเชื้อไวรัส HPV ทุกๆ 5 ปี หากพบเชื้อคุณหมอจะตรวจไปตามขั้นตอนและแนะนำการรักษาอาจจะขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของการติดเชื้อ สำหรับการตรวจ HPV ในเพศชาย สามารถทำได้คล้ายกับผู้หญิง คือการเก็บเซลล์บริเวณองคชาตหรือปากทวารหนัก เพื่อนำเซลล์ที่สงสัยไปดูการเรียงตัวว่าผิดปกติเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหรือไม่
-ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9-45 ปี ทั้งชายและหญิง มีหลายชนิด สามารถศึกษาเพิ่มเติ่มอย่างละเอียดจากแหล่งข้อมูล บทความของโรงพยาบาลและทางการแพทย์อื่นๆ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ความรู้ทั่วไปนี้ จขกท รวบรวมตามความเข้าใจโดยอ้างอิงข้อมูลมาจาก
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/496
https://www.rama.mahidol.ac.th/rama_hospital/th/services/knowledge/08312020-1159
https://piyavate.com
และต่อจากนี้จะเป็นประสปการณ์ตรงล้วนๆที่ จขกท อยากบอกต่อเพื่อนๆให้พึงตะหนักไว้ แม้ว่าจะรักสามีรักแฟนมากแค่ไหนก็อย่าละเลยตัวเองอย่างเด็ดขาดนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เชื่อหรือไม่ เราตรวจเจอเชื้อ HPV สายพันธ์ 16 ชนิดที่มีความรุนแรงสูงที่จะก่อมะเร็งปากมดลูก เมื่อตอนอายุจะครบ 24 พึ่งจะเรียนจบทำงานได้แค่ 2 ปีกว่าเอง ตัวเราไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ณ ตอนนั้นมีแฟนค่ะ มีคนเดียวและเป็นแฟนคนแรกด้วยซ้ำอายุห่างกัน 10 ปี ขอเรียกว่าแฟนเพราะยังไม่ได้แต่งงานกัน เจอกันที่ทำงานเเราเป็นจัดซื้อส่วนแฟนเป็น suplier บุคลิคของเขา สุภาพ แต่งตัวดี เนี๊ยบ สะอาดสะอ้าน ชอบออกกำลังกาย แต่ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ เป็นปกติ ด้วยลักษณะงานและวงสังคมเขาจะต้องเจอลูกค้าและกลุ่มเอนเตอร์เทนเม้นท์ งานจัดแสดง โคโยตี้ พิตตี้ MC ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรคิดแค่ว่าคืองานของเขา คบกันมาสักระยะระหว่างที่คบกันก็ไม่รอดหรอกค่ะโดนอยู่แล้วไม่ต้องเดา555 ยอมรับว่าตัวเองไร้เดียงสาแถมมองโลกในแง่ดีมาตลอด ถุงยาง ยาคุม เคยเรียนแต่ไม่เคยใช้ไม่เคยกิน แฟนบอกอะไรเชื่อเขาหมดเพราะเชื่อใจเขา เป็นความโง่งมของตัวเองอย่างมากในตอนนั้น อยู่มาวันหนึ่งเรารู้สึกว่ามีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้น
อาการ
-มีอาการตกขาวมากกว่าปกติ มีกลิ่นรุนแรง และคัน ในแบบที่ตัวเองไม่เคยเป็นมาก่อนคิดว่าคงอักเสบเดี๋ยวก็หาย ผ่าน 3 วันไม่ลดลง เลยไปหาหมอสูติตรวจภายใน
การตรวจรักษา
-ตรวจกับหมอสูตินารีเวชครั้งแรกตามสิทธิ ปกส. หมอบอกว่าติดเชื้อ HPV ไวรัสหูด ต้องส่งแลบนอกตรวจว่าเป็นเชื้อชนิดไหน เมื่อ 10 ปีก่อน ค่าตรวจ 3,500 บาท หมอให้ยามาสอดช่องคลอดและนัดฟังผลอีก 1 อาทิตย์ ตึงใส่กันมาตลอดทางพอถึงบ้านมาบ้านเกือบแตก ส่วนตัวเรารู้ดีอยู่แล้วว่าไม่เคยคบซ้อนหรือยุ่งคนอื่นเลยแน่นอน เค้นแฟนอย่างหนักหน่วง อะไร ยังไง เขายอมรับว่าตอนอายุ 15 เขาเคยเป็นหูดแต่รักษาหายแล้วผ่านมาก็จะยี่สิบปีแล้ว ด้วยสังคมและลักษณะงานของเขา เราถามตรงๆไม่อ้อมค้อม ไปนอนกับคนอื่นอีกรึป่าว บลา บลา ...?? ปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา เราเชื่อว่าเขาบอกไม่หมดและไม่มีทางยอมรับว่าเขาติดเชื้อจากคนอื่นมา หรือเชื้ออยู่ในตัวเขาอยู่แล้ว หลายเรื่องหลายอย่างวนเวียนยู่ในหัวตอนนั้น
-นัดต่อมาฟังผลพบเชื้อ HPV TYPE 16 ชนิดร้ายก่อมะเร็งปากมดลูก ตอนนั้นเราช็อคมากอายุกำลังจะ 24 เองจะเป็นมะเร็งแล้วหรอ เอาตรงๆตอนนั้นแว็บแรกคิดว่าติดเอดส์ ชื่อมันคล้ายมาก คุยกับหมอนานมากคุยไปน้ำตาไหลไป หมอก็อธิบายและให้ความรู้ไปด้วยเหมือนที่เราเกริ่นในตอนต้นนั้นเลย หมอเห็นเราร้องไห้ก็บอกว่าดีแล้วเจอเร็วก็รักษาดีกว่าเจอตอนที่ลุกลามแล้ว (เป็นคำปลอบใจที่ดีมากเลย) ถ้าจะให้ดีต้องพาสามีมาตรวจรักษาไปพร้อมๆกันด้วยนะ เพราะรักษาคนเดียวอีกคนมีเชื้อหรือเป็นพาหะไม่รักษาเชื้อก็ยังวนเวียนอยู่ ระหว่างรักษาต้องหยุดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าหมอจะบอก หมอทำการคว้านเนื้อ หรือตัดเนื้อบริเวณที่ติดเชื้อออกยัดผ้าก็อต 1 ก้อนเข้าไปซับเลือดผูกด้ายหรือเชือกเล็กๆ โผล่ไว้ดึงผ้าก็อตออก ตอนนั้นหมอใช้คำว่าคว้านเนื้อออกจริงๆ มียาให้กินถ้าจำไม่ผิดคงเป็น พาราลดไข้ หมอยื่นใบผลตรวจใส่ในซองสีขาวมาให้เก็บไว้และนัดมาฟังผลตรวจชิ้นเนื้อในครั้งต่อไป แฟนพามาหาหมอทุกครั้งแต่ไม่ยอมเข้าห้องไปฟังด้วย กลับบ้านมาบอกให้แฟนไปตรวจถ้าเจอก็จะได้รักษาไปพร้อมๆกัน เขาไม่เอาด้วยค่ะไม่ตรวจและก็ไม่ทำอะไรบอกว่ายุ่งเดี๋ยวต้องไปทำงานโน้นนี่นั้น ระหว่างนี้เราก็ไม่ยุ่งกันค่ะเขาก็มีอ้อนขอบ้างจะมาเกาะกะแต่เราไม่ยอม เพราะรักษาตัวอยู่
-นัดต่อมาฟังผลหมอบอกว่าไม่มีอะไร ไม่มียาให้กินนะต่อไปก็ให้ติดตามอาการ ตรวจคัดกรอง 2 ครั้งทุกๆปี ดูแลสุขภาพตัวเองภูมิต้านทานในร่างกายจะได้แข็งแรงต่อสู้เชื้อโรคต่างๆได้ จำไว้ว่ามันไม่ได้ติดได้เฉพาะทางเพศสัมพันธ์ทางเดียวนะ พึ่งสังเกตุตัวเองหากมีอาการผิดปกติให้รีบหาหมออย่าชะล่าใจ การรักษาของเราจบอยู่แค่นี้เลยไม่มีเคมี หรือผ่าตัดใดๆ
เหตุจากการเจ็บป่วยในครั้งนี้ทำให้เราเกิดความระแวงและไม่ไว้ใจแฟนเราอีกเลย กลัวที่จะต้องมีอะไรกันอย่างมากจนกลายเป็นความห่างเหินแบบสุดท้ายก็แยกย้ายกันไปมีชีวิตของใครของมัน หลังจากเลิกลากันไปเราตรวจสุขภาพตัวเองแบบตรวจทุกโรคที่จะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ผลปกติและแม้จะผ่านมา10 กว่าปีแล้วก็ยังติดตามอาการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกมาตลอดทุกปี และพึ่งจะไปตรวจแบบ Liquid Prep+HPV จ่ายไป 1,900 บาท พึ่งไปฟังผลมาค่ะ
จ่ายเพื่อความสบายใจผลตรวจออกมาไม่พบเชื้อ ตรวจแบบนี้พยาบาลบอกทิ้งระยะตรวจได้เลย 3 ปี หรือตรวจได้ทุกปี จขกท ตรวจคัดกรองมาตลอดทุกปีช่วงไหนมีตกขาวจะรู้สึกกังวลหาหมอจนเป็นเรื่องปกติกลายเป็นชอบไปหาหมอแล้วค่ะ น่าเศร้าใจมากบางคนบอกเราว่าเจอระยะที่ 4 ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนรักษา ไม่มีอาการอะไรเลยแต่ไปตรวจคัดกรองแล้วเจอ พอเจอก็มาถึงระยะที่ 4 แล้ว
ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราได้แนะนำเพื่อนสาว พี่ น้อง ทั้งคนสนิท ไม่สนิท ไม่เคยอายที่จะเล่านี้ให้คนอื่นฟังบอกเพื่อให้เขาเหล่านั้นตะหนักและรู้จักระมัดระวัง บางคนมองหน้าเราแปลกๆด้วยซ้ำ แม้กระทั้งเพื่อนสนิทที่พึ่งจะมาเริ่มกลัวและไปตรวจเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ตอนนั้นอาจจะเพราะคนส่วนใหญ่เขาไม่มีความรู้เรื่องนี้คิดว่าเรามีแฟนมาเยอะรึป่าวก็ไม่แน่ เราไม่สนใจถถือว่าหวังดีบอกบุญให้แล้วไม่รับก็เอาที่สะดวก เราใช้ชีวิตโสดมาหลายปีคิดเสมอหากจะมีแฟนอีกครั้งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ละเลยไม่ได้ ปัจจุบันนี้มีความหลากหลายทางรสนิยมและรูปแบบความสัมพันธ์เรื่องคู่ที่เปิดกว้างเอามากๆ ความเสี่ยงสูงขึ้นเยอะ เวลามีคนเข้ามาเราจะคุยแบบเปิดอกคุยหมดบอกในสิ่งที่ตัวเองเคยเจอมาไม่ปิด เขาจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจรับได้หรือรับไม่ได้ก็ช่าง หากคิดจะคบกันจริงจังเราก็แฟร์พอที่จะกล้าบอกและช
เชื้อ HPV ภัยเงียบที่ผู้หญิงและผู้ชายไม่ควรมองข้าม
(HPV : Human papilloma virus) เจ้าไวรัสตัวนี้เรียกง่ายๆ คือ ไวรัสหูด หรือ หูด ที่หลายคนอาจจะเคยเป็น เชื้อตัวนี้เป็นสาเหตุสำคัญของการติดเชื้อเนื้อเยื่อบุผิว และก่อโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนักทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย สามารถติดต่อได้โดยการสัมผัสทางผิวหนังและทางเพศสัมพันธ์ ทางช่องคลอด, ปาก และทวารหนัก โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังที่เกิดการถลอก มีรอยขีดข่วน การเสียดสีมีแผล การสัมผัสกับบริเวณผิวหนังที่เป็นหูดหรือการหยิบจับของที่มีเชื้อไวรัสปนเปื้อนอยู่ รวมทั้งการแกะเกา ทำให้เกิดการแพร่กระจายของหูดไปยังส่วนอื่นๆได้ เชื้อไวรัสชนิดนี้จะกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังเกิดการหนาตัวหรือแข็งตัวนูนขึ้นหรือเป็นติ่งเนื้อให้เห็น ลักษณะของหูดขึ้นอยู่กับสายพันธ์ของไวรัสและบริเวณที่เป็น ผู้ที่มีเชื้อ HPV อยู่ในร่างกาย มักไม่มีอาการแสดงใด ๆ จึงอาจแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว
เชื้อไวรัสชนิดนี้มีมากกว่า 100 สายพันธุ์ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
-สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงต่ำไม่ก่อมะเร็ง ไม่ได้ทําให้เกิดมะเร็งปากมดลูก แต่เป็นสาเหตุของหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศ เช่น HPV สายพันธ์ุ 6 และ สายพันธ์ุ11
-สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูงก่อมะเร็ง มีประมาณ 40 สายพันธุ์ ที่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ และ 14 สายพันธุ์ ทําให้เป็นโรคร้าย HPV สายพันธุ์ 16 และ 18 ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ โดยสายพันธุ์ 16 และ 18 เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกถึงประมาณร้อยละ 70 รองลงมาคือ สายพันธุ์ 45, 31 และ 33
HPV สายพันธุ์ 16 เป็นเชื้อชนิดที่มีความเสี่ยงสูงที่ ผู้ที่ติดเชื้อมักไม่แสดงอาการที่เห็นได้ชัดเจน และส่งผลให้เซลล์ที่ปากมดลูกเปลี่ยนแปลง จนเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งลำคออีกด้วย
HPV สายพันธุ์ 18 มีความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกับ สายพันธุ์ 16 โดยทั่วไปมักจะไม่แสดงอาการเช่นเดียวกัน และมักเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งต่อมลูกหมาก
HPV ภัยเงียบสำหรับผู้ชาย
-90% ของผู้ชายที่เคยมีเพศสัมพันธ์ เคยได้รับเชื้อ HPV ในช่วงใดช่วงหนึ่ง ของชีวิต
-การติดเชื้อ HPV ในเพศชายไม่ลดลง ตามช่วงอายุ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกัน ของร่างกายตอบสนองต่อเชื้อ HPV ได้ไม่ดี ทำให้ร่างกายไม่สามารถกําจัดเชื้อออกไปได้ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อซ้ำ
-เชื้อ HPV สามารถแฝงอยู่ในร่างกาย ได้นานกว่า 10 ปี โดยไม่มีอาการใด ๆ ดังนั้นผู้ที่ติดเชื้ออาจแพร่สู่ผู้อื่นได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว
-ไม่มีการตรวจคัดกรองมะเร็งอวัยวะเพศชาย ทำให้ส่วนมากจะตรวจพบเมื่อเป็นโรค หรือมะเร็งระยะลุกลาม แล้วเท่านั้น
คนเราอาจจะเคยได้รับเชื้อ HPV จากการใช้ชีวิตประจำวันสัมผัสและใช้สิ่งของต่างๆ ร่วมกับผู้อื่น เช่น ห้องน้ำสาธารณะ แม้กระทั้งปุ่มกดในลิฟท์ ลูกบิด หรือ กลอนและที่จับประตู หากบริเวณสัมผัสเชื้อโดยตรงนั้นมีแผล หากร่างกายแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัวใดๆ ภูมิคุ้มกันในร่างกายสามารถกำจัดเชื้อไปได้โดยธรรมชาติ และก็มีบางส่วนที่ไม่สามารถกำจัดเชื้อได้ รวมถึงมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกและทำให้เกิดโรคต่างๆ เช่น หูดหงอนไก่ มะเร็งปากมดลูก และอื่นๆ
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่
1. อายุ ส่วนใหญ่มะเร็งปากมดลูกมักพบในผู้มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
2. *** เปลี่ยนคู่นอนบ่อยมีคู่นอนหลายคน ทำให้มีโอกาสได้รับเชื้อ HPV มากขึ้น เพราะปัจจุบันนี้มีความหลากหลายทางรสนิยมและความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างเปิดกว้าง ทำให้มีความเสี่ยงรับเชื้อที่ค่อนข้างสูง
3. สูบบุหรี่
4. มีบุตรจำนวนมาก
5. ร่างกายมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (โรคเอดส์)
6. ไม่เคยตรวจภายใน เพื่อค้นหารอยโรคระยะก่อนเป็นมะเร็ง (Precancercous lesion) ซึ่งในช่วงเวลานี้ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการ แต่สามารถตรวจพบด้วยการตรวจทางเซลล์วิทยาที่เรียกว่าแป๊ปสเมียร์ (Pap smear) และสามารถรักษาได้ หากตรวจพบรอยโรคในระยะนี้ก็จะสามารถป้องกันการเกิดเป็นมะเร็งปากมดลูกได้
การป้องกัน
-ทางทีดีที่สุดต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงให้ตัวเอง ใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยป้องกันแบบ 100 % เพราะอาจติดเชื้ออยู่บริเวณภายนอกแต่ก็ดีกว่าไม่ใส่เพราะป้องกันอย่างอื่นได้
-รักษาความสะอาด หมั่นล้างมือบ่อยๆในระหว่างวัน สำหรับการใช้ชีวิตประจำวันตัว จขกท จะพกแอลกอฮอล์และทิชชู่เปียกติดตัวเสมอเวลาออกจากบ้าน หากต้องใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น เช่น ห้องน้ำ อย่างที่รู้ว่าแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อไวรัสได้ก่อนจะใช้ก็จะฉีดแอลกอฮอล์บริเวณฝาชักโครกแล้วเช็ดด้วยกระดาษทิชชู่ก่อนนั่ง ทำเท่าที่ทำได้ไม่รู้ว่าช่วยได้มั้ยแต่ก็สบายใจ
-สังเกตุตัวเองเมื่อเห็นความผิดปกติอย่านิ่งนอนใจ ควรไปตรวจภายใน หรือ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุกๆ 3 ปี หรือ ตรวจเชื้อไวรัส HPV ทุกๆ 5 ปี หากพบเชื้อคุณหมอจะตรวจไปตามขั้นตอนและแนะนำการรักษาอาจจะขึ้นอยู่กับระยะและความรุนแรงของการติดเชื้อ สำหรับการตรวจ HPV ในเพศชาย สามารถทำได้คล้ายกับผู้หญิง คือการเก็บเซลล์บริเวณองคชาตหรือปากทวารหนัก เพื่อนำเซลล์ที่สงสัยไปดูการเรียงตัวว่าผิดปกติเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งหรือไม่
-ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV เริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9-45 ปี ทั้งชายและหญิง มีหลายชนิด สามารถศึกษาเพิ่มเติ่มอย่างละเอียดจากแหล่งข้อมูล บทความของโรงพยาบาลและทางการแพทย์อื่นๆ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ความรู้ทั่วไปนี้ จขกท รวบรวมตามความเข้าใจโดยอ้างอิงข้อมูลมาจาก
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/496
https://www.rama.mahidol.ac.th/rama_hospital/th/services/knowledge/08312020-1159
https://piyavate.com