ประสบการณ์มีลูกกับทอม

กระทู้สนทนา
เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ผมจะขอไม่บอกแล้วกันว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ใครที่เชื่อก็ขอให้อ่านไว้เป็นบทเรียนและหวังว่าจะไม่ทำผิดพลาดเช่นกัน ส่วนคนที่ไม่เชื่อก็คิดซะว่าแค่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนึงละกันนะครับ

เรื่องมันมีอยู่ว่า สมัยมัธยมปลายผมจะมีเพื่อนสนิทอยู่กลุ่มหนึ่ง ในกลุ่มมีทั้งชาย,หญิง,กระเทย,ทอม
บอกไว้ก่อนว่าผมเป็นผู้ชาย100% ผมชอบผู้หญิง แต่ก็รู้สึกชอบทอมด้วยเหมือนกัน ในกลุ่มเพื่อนผมจะมีเพื่อนสนิทที่สุดที่เป็นทอม เราสนิทกันมากจนมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ผมมักจะไปรับเธอทุกเช้าเพื่อไปโรงเรียนด้วยกัน และกลับด้วยกันทุกวัน ผมรู้สึกดีกับเธอมากกว่าเพื่อนอย่างมาก หรือเรียกได้ว่าชอบเขาอยู่ฝ่ายเดียว จนเราเรียนจบแล้วได้ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย เราทั้งคู่ได้ไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยเดียวกันที่กรุงเทพ แต่อยู่คนละคณะ พวกเราตัดสินใจจะอยู่หอนอก เพื่อจะให้ชีวิตได้ง่ายขึ้น
ตอนแรกเราจะเช่าอยู่กันคนละห้อง แต่ค่าห้องก็แพงแสนแพง สุดท้ายเราเลยเลือกจะอยู่ห้องเดียวกันเพื่อนประหยัดเงิน เพราะฐานะทางบ้านเราสองคนก็ไม่ได้รวยอะไร เราช่วยกันหารค่าห้อง แต่โกหกพ่อแม่เราว่าได้ห้องพักราคาถูก คือพ่อแม่เราไม่รู้เรื่องน่ะครับว่าเราอยู่ห้องเดียวกัน คือด้วยความสนิทกันมากเพื่อนผมเธอก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกครับ แต่ผมนี่สิที่ใจเต้นไปหมดที่จะได้อยู่ห้องเดียวกันกับที่ผมชอบ
ถึงแม้เราจะอยู่ห้องเดียวกัน แต่ก็นอนแยกเตียง แล้วเอาผ้าม่านกับตู้เสื้อผ้ามากั้นเอาไว้ เราใช้ชีวิตแบบนี้มากันเรื่อยๆ จนวันหนึ่งพวกเราไปกินเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนคนหนึ่ง เพื่อนผมเธอดื่มจนเมา ส่วนผมเป็นคนไม่ดื่มเหมเล้าดื่มเบียร์ เลยไม่ได้เมาเลยแม้แต่น้อย ตอนที่กลับถึงห้อง เพื่อนผมเมาจนหลับไป ผมก็เป็นคนอุ้มเธอไปขึ้นเตียง แล้วผมก็ยืนมองเธอหลับอยู่พักนึง ตอนนั้นผมก็ได้เกิดความคิดแย่ๆที่ทุกคนก็น่าจะเดากันได้ ผมชอบเธอมากๆมานานแล้ว และผมก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ แล้วคืนนั้นก็ผ่านไป
วันต่อมาเธอโกรธผมมาก ทั้งด่าว่าและทุบตี แต่ผมก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะรู้สึกผิด ตอนนั้นผมพูดกับเธอได้แค่คำเดียว เป็นคำที่ผมอยากบอกกับเธอมานานแล้ว นั่นคือคำว่า"กูรัก" หลังเหตุการนั้นไม่รู้เพราะอะไร แต่เธอไม่ได้แจ้งความเอาผิดผมแต่อย่าใด ตอนนั้นเราแทบจะตัดขาดกัน แต่ก็ยังอยู่ห้องเดียวกันเพราะอย่างที่บอกไว้ว่าค่าห้องมันแพงและอีกไม่กี่เดือนเราก็จะเรียนจบกันแล้ว
จนผ่านไปน่าจะประมาณ 2 เดือน อยู่ดีๆเธอก็มาตะโกรด่าผมอีกครั้ง ผมก็งงมากว่ามาด่าผมเรื่องอะไรอีก จนเธอยื่นที่ตรวจครรภ์มาให้ผมดู ผมเลยรู้ว่าเธอกำลังท้อง เราสองคนเครียดกันมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เรื่องที่ดีคือตอนนั้นเรากำลังจะเรียนจบในอีกไม่กี่สัปดาห์ เรื่องนี้เลยไม่ส่งผลถึงการเรียน
หลังจากที่เราเรียนจบมหาลัย ผมตัดสินใจจะบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ของเธอ แน่นอนว่าในใจผมตอนนั้นก็กังวลอย่างมาก ไม่ใช่เพราะเรื่องที่เธอท้อง แต่กังวลว่าผมจะโดนกระทืบมั้ยหลังจากพูดความจริงออกไป
แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เพราะถึงพ่อแม่เธอจะดูตกใจ รวมถึงจะบ่นเราสองคนอยู่บ้าง แต่มันก็แค่นั้น เพราะตอนที่เรียนมัธยมพ่อแม่เธอก็เห็นว่าผมทำแต่เรื่องดีๆให้เธอและพ่อแม่ของเธออยู่เสมอ เราสองคนเลยได้แต่งงานกันหลังจากนั้น เรียกได้ว่าทั้งพ่อแม่ผมกับเพื่อนๆก็ไม่คาดคิดว่าเราสองคนจะได้ลงเอยกันแบบนี้
บอกตรงๆถึงแม้ผมจะรู้สึกดีที่ได้แต่งงานใช้ชีวิตกับคนที่ผมรัก แต่ช่วงแรกๆเธอก็ยังดูไม่ค่อยถูกใจกับสิ่งนี้ เธอมักจะพูดเสียงแข็งหรือพูดประชดประชันใส่ผม แต่พอเวลาผ่านไปผมทำดีกับเธอมาตลอดจนทำให้เธอก็พูดดีทำดีกับผมมากขึ้น จนถึงวันคลอดลูก วันนั้นเป็นวันที่เราสองคนมีความสุขมากที่สุดในโลก รู้สึกดีใจที่ได้ลูกสาวตัวน้อยเป็นพยานรักของเราสองคน
ปัจจุบันนี้ลูกสาวของเราอายุได้ 3 ขวบแล้ว ภรรยาผมที่ใช้ชีวิตเป็นทอมมาหลายปี ทุกวันนี้เธอก็ยังคงทำตัวเป็นทอมอยู่เหมือนเดิม คือเธอยังปรับตัวไม่ได้นั่นแหละครับ ซึ่งผมคิดว่าเธอเป็นแบบที่เธอเคยเป็นก็น่ารักดี แต่จะมีอยู่บางครั้งที่มักจะแต่งหญิงมาโชว์ให้ผมดูเป็นบางครั้งบางคราว นั่นก็ยิ่งทำให้ดูน่ารักมากขึ้นไปอีก

สุดท้ายนี้ สิ่งที่ผมทำลงไปมันเป็นสิ่งที่ผิด ผมโชคดีที่เธอหรือพ่อแม่ของเธอนั้นไม่เอาเรื่องผม เพราะหากไม่เป็นอย่างนั้น ชีวิตผมคงจะไปลงเอยอยู่ในคุก ไม่ก็โดนกระทืบตาย
ดังนั้นทุกคนก่อนจะทำอะไรก็ควรคิดและตัดสินใจให้ดีๆ อย่าให้อารมณ์ความรู้สึกมาทำให้ขาดสติยั้งคิด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่