2J ก็ลูกสูบ RB ก็ลูกสูบ ...VTEC go brrrrr ก็ลูกสูบ
แต่ 13B ไม่มีลูกสูบนะจ๊ะ...
เครื่องยนต์โรตารีในตำนาน Mazda 13B
Mazda 13B เป็นเครื่องยนต์ โรตารีขนาด 1.3 ลิตร ที่กลายเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์โรตารีที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์ ไม่เหมือนกับเครื่องยนต์ลูกสูบทั่วไป มันใช้ ดีไซน์โรตารี ที่มี 2 โรเตอร์แทนลูกสูบ ทำให้มันสามารถ หมุนรอบสูงขึ้น ส่งกำลังได้เรียบเนียน และมีขนาดกะทัดรัด เป็นที่นิยมของนักเล่นรถและนักแข่งตั้งแต่เปิดตัวในยุค 1970s และกลายเป็นเครื่องยนต์โรตารีที่ถูกใช้ยาวนานที่สุดของ Mazda
ประวัติของ 13B
Mazda เปิดตัว 13B ครั้งแรกในปี 1973 เพื่อสืบทอดจากเครื่องยนต์โรตารี 12A โดยออกแบบให้มี สมรรถนะที่ดีขึ้นและความจุเพิ่มขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของเครื่องโรตารีเอาไว้ เครื่องยนต์นี้ได้รับการพัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์โรตารีที่ถูกใช้งานนานที่สุดในประวัติศาสตร์
13B ถูกผลิตต่อเนื่องนานเกือบ 40 ปี ตั้งแต่ 1973 ถึง 2012 และถูกติดตั้งในรถ Mazda หลากหลายรุ่น ตั้งแต่รถสปอร์ตไปจนถึงรถซีดานสุดหรู
รายละเอียดทางวิศวกรรม
13B เป็นเครื่องยนต์ โรตารีแบบ 2 โรเตอร์ มีความจุรวม 1.3 ลิตร (654cc ต่อโรเตอร์) แม้ว่าจะดูเล็ก แต่สามารถ ให้พละกำลังได้สูง เพราะรอบเครื่องที่สูงและแรงบิดต่อเนื่อง
สเปคหลักของ 13B:
- ความจุ: 1.3L (654cc x 2 โรเตอร์)
- อัตราส่วนกำลังอัด: แตกต่างไปในแต่ละรุ่น (8.5:1 - 10:1)
- ระบบจ่ายน้ำมัน: คาร์บูเรเตอร์, หัวฉีด, หรือ เทอร์โบ (แล้วแต่รุ่น)
- ระบบอัดอากาศ: N/A หรือ Turbo (แล้วแต่รุ่น)
- แรงม้า: 100 HP (รุ่นแรก) ไปจนถึง 280+ HP (รุ่นเทอร์โบ)
- รอบสูงสุด: 7,000 - 10,000 RPM
จุดสำคัญของ 13B คือ
Apex Seal ซึ่งเป็นซีลที่ปลายของโรเตอร์ ทำหน้าที่รักษาการอัดของเครื่องยนต์ แต่ก็มักเป็นจุดอ่อนเพราะสามารถสึกหรอได้เร็วหากไม่มีการดูแลที่ดี
รถที่ใช้เครื่อง 13B
Mazda 13B ถูกติดตั้งในรถยนต์ชื่อดังหลายรุ่น เช่น:
- Mazda RX-3 (1973-1978) – หนึ่งในรถรุ่นแรกที่ใช้ 13B
![](https://f.ptcdn.info/014/087/000/m6x2us2xix7c24n6qR3-o.jpg)
- Mazda Cosmo (ปลายยุค 70s - 90s) – รถหรูที่ขับเคลื่อนด้วยโรตารี
![](https://f.ptcdn.info/014/087/000/m6x2uyixiShddDRKxU0-o.png)
- Mazda RX-7 (1978-2002) – รถสปอร์ตที่โด่งดังที่สุดที่ใช้ 13B
RX-7 FB (1978-1985) – ตัวแรกของ RX-7 เครื่อง NA
RX-7 FC (1985-1992) – รุ่นแรกที่มีเทอร์โบ
RX-7 FD (1992-2002) – รุ่นสุดท้ายที่มี Twin-Turbo
![](https://f.ptcdn.info/014/087/000/m6x2x0m1i92onw5IicK-o.png)
- Mazda RX-8 (2003-2012) – รถสุดท้ายที่ใช้โรตารี (13B-MSP Renesis)
ช่วงเวลาการผลิตของ 13B
1973: เปิดตัวครั้งแรกใน Mazda RX-3
1978: เริ่มใช้ใน RX-7
1985-1992: รุ่นเทอร์โบเริ่มถูกนำมาใช้
1992-2002: FD RX-7 มาพร้อม Twin-Turbo
2003-2012: RX-8 ใช้เครื่อง 13B-MSP Renesis
2012: ยุติการผลิตเนื่องจากมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดขึ้น
รุ่นของ 13B และความแตกต่าง
13B (1973-1984): รุ่นแรก ใช้คาร์บูเรเตอร์ ไม่มีเทอร์โบ
13B-DEI (1984-1985): มีระบบหัวฉีด
13B-T (1986-1992): มีเทอร์โบใน RX-7 FC
13B-REW (1992-2002): Twin-Turbo ใน RX-7 FD
13B-MSP Renesis (2003-2012): พัฒนาใหม่ให้ผ่านมาตรฐานไอเสียใน RX-8
จุดแข็ง & จุดอ่อนของ 13B
จุดแข็ง:
✅ รอบสูง กำลังมาไว
✅ เครื่องเล็ก น้ำหนักเบา
✅ เสียงเครื่องยนต์เอกลักษณ์ (เสียง "brap brap")
✅ โมดิฟายได้โหดมาก
✅ มีประวัติการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม
จุดอ่อน:
❌ Apex Seal สึกหรอง่าย (ต้องดูแลดีๆ)
❌ กินน้ำมันเครื่องเยอะ (เป็นดีไซน์ที่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่นไปเผา)
❌ เปลืองน้ำมันมาก เมื่อเทียบกับเครื่องลูกสูบ
❌ ต้องจัดการความร้อนดีๆ โดยเฉพาะรุ่นเทอร์โบ
ทำไม 13B ถึงเป็นตำนาน?
เครื่องยนต์นี้กลายเป็นตำนานเพราะมัน เป็นเครื่องโรตารีที่ถูกใช้ยาวนานที่สุด และเป็นหัวใจของรถ Mazda ที่น่าตื่นเต้นที่สุด
- เครื่องยนต์ไม่เหมือนใคร – มีเอกลักษณ์สูงทั้งเรื่องดีไซน์และเสียง
- มีประวัติการแข่งขันที่โหด – Mazda 787B ชนะเลอม็องปี 1991
- สามารถแต่งแรงได้เยอะ – บางตัวโมดิฟายไปถึง 1,000 HP
ความสำเร็จในมอเตอร์สปอร์ต
🏆 Mazda 787B ชนะ 24 Hours of Le Mans ปี 1991 – รถโรตารีเพียงคันเดียวที่เคยชนะ
![](https://f.ptcdn.info/014/087/000/m6x317r3idvROvTCtkG-o.jpg)
🏆 RX-7 ครองแชมป์ใน IMSA และ Group B Racing
อนาคตของ 13B
แม้ว่า 13B จะเลิกผลิตแล้ว แต่ Mazda ยังไม่ลืมโรตารี!
มีข่าวว่า Mazda นำเครื่องโรตารีกลับมาใช้ใน MX-30 เป็นตัวเพิ่มระยะทางสำหรับรถไฟฟ้า
เสียงเพราะๆ ของ Rotary
เครื่องยนต์ในตำนาน 13B
แต่ 13B ไม่มีลูกสูบนะจ๊ะ...
เครื่องยนต์โรตารีในตำนาน Mazda 13B
Mazda 13B เป็นเครื่องยนต์ โรตารีขนาด 1.3 ลิตร ที่กลายเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์โรตารีที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์ ไม่เหมือนกับเครื่องยนต์ลูกสูบทั่วไป มันใช้ ดีไซน์โรตารี ที่มี 2 โรเตอร์แทนลูกสูบ ทำให้มันสามารถ หมุนรอบสูงขึ้น ส่งกำลังได้เรียบเนียน และมีขนาดกะทัดรัด เป็นที่นิยมของนักเล่นรถและนักแข่งตั้งแต่เปิดตัวในยุค 1970s และกลายเป็นเครื่องยนต์โรตารีที่ถูกใช้ยาวนานที่สุดของ Mazda
ประวัติของ 13B
Mazda เปิดตัว 13B ครั้งแรกในปี 1973 เพื่อสืบทอดจากเครื่องยนต์โรตารี 12A โดยออกแบบให้มี สมรรถนะที่ดีขึ้นและความจุเพิ่มขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของเครื่องโรตารีเอาไว้ เครื่องยนต์นี้ได้รับการพัฒนาเรื่อยมาจนกลายเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์โรตารีที่ถูกใช้งานนานที่สุดในประวัติศาสตร์
13B ถูกผลิตต่อเนื่องนานเกือบ 40 ปี ตั้งแต่ 1973 ถึง 2012 และถูกติดตั้งในรถ Mazda หลากหลายรุ่น ตั้งแต่รถสปอร์ตไปจนถึงรถซีดานสุดหรู
รายละเอียดทางวิศวกรรม
13B เป็นเครื่องยนต์ โรตารีแบบ 2 โรเตอร์ มีความจุรวม 1.3 ลิตร (654cc ต่อโรเตอร์) แม้ว่าจะดูเล็ก แต่สามารถ ให้พละกำลังได้สูง เพราะรอบเครื่องที่สูงและแรงบิดต่อเนื่อง
สเปคหลักของ 13B:
- ความจุ: 1.3L (654cc x 2 โรเตอร์)
- อัตราส่วนกำลังอัด: แตกต่างไปในแต่ละรุ่น (8.5:1 - 10:1)
- ระบบจ่ายน้ำมัน: คาร์บูเรเตอร์, หัวฉีด, หรือ เทอร์โบ (แล้วแต่รุ่น)
- ระบบอัดอากาศ: N/A หรือ Turbo (แล้วแต่รุ่น)
- แรงม้า: 100 HP (รุ่นแรก) ไปจนถึง 280+ HP (รุ่นเทอร์โบ)
- รอบสูงสุด: 7,000 - 10,000 RPM
จุดสำคัญของ 13B คือ Apex Seal ซึ่งเป็นซีลที่ปลายของโรเตอร์ ทำหน้าที่รักษาการอัดของเครื่องยนต์ แต่ก็มักเป็นจุดอ่อนเพราะสามารถสึกหรอได้เร็วหากไม่มีการดูแลที่ดี
รถที่ใช้เครื่อง 13B
Mazda 13B ถูกติดตั้งในรถยนต์ชื่อดังหลายรุ่น เช่น:
- Mazda RX-3 (1973-1978) – หนึ่งในรถรุ่นแรกที่ใช้ 13B
- Mazda Cosmo (ปลายยุค 70s - 90s) – รถหรูที่ขับเคลื่อนด้วยโรตารี
- Mazda RX-7 (1978-2002) – รถสปอร์ตที่โด่งดังที่สุดที่ใช้ 13B
RX-7 FB (1978-1985) – ตัวแรกของ RX-7 เครื่อง NA
RX-7 FC (1985-1992) – รุ่นแรกที่มีเทอร์โบ
RX-7 FD (1992-2002) – รุ่นสุดท้ายที่มี Twin-Turbo
- Mazda RX-8 (2003-2012) – รถสุดท้ายที่ใช้โรตารี (13B-MSP Renesis)
ช่วงเวลาการผลิตของ 13B
1973: เปิดตัวครั้งแรกใน Mazda RX-3
1978: เริ่มใช้ใน RX-7
1985-1992: รุ่นเทอร์โบเริ่มถูกนำมาใช้
1992-2002: FD RX-7 มาพร้อม Twin-Turbo
2003-2012: RX-8 ใช้เครื่อง 13B-MSP Renesis
2012: ยุติการผลิตเนื่องจากมาตรฐานไอเสียที่เข้มงวดขึ้น
รุ่นของ 13B และความแตกต่าง
13B (1973-1984): รุ่นแรก ใช้คาร์บูเรเตอร์ ไม่มีเทอร์โบ
13B-DEI (1984-1985): มีระบบหัวฉีด
13B-T (1986-1992): มีเทอร์โบใน RX-7 FC
13B-REW (1992-2002): Twin-Turbo ใน RX-7 FD
13B-MSP Renesis (2003-2012): พัฒนาใหม่ให้ผ่านมาตรฐานไอเสียใน RX-8
จุดแข็ง & จุดอ่อนของ 13B
จุดแข็ง:
✅ รอบสูง กำลังมาไว
✅ เครื่องเล็ก น้ำหนักเบา
✅ เสียงเครื่องยนต์เอกลักษณ์ (เสียง "brap brap")
✅ โมดิฟายได้โหดมาก
✅ มีประวัติการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม
จุดอ่อน:
❌ Apex Seal สึกหรอง่าย (ต้องดูแลดีๆ)
❌ กินน้ำมันเครื่องเยอะ (เป็นดีไซน์ที่ต้องใช้น้ำมันหล่อลื่นไปเผา)
❌ เปลืองน้ำมันมาก เมื่อเทียบกับเครื่องลูกสูบ
❌ ต้องจัดการความร้อนดีๆ โดยเฉพาะรุ่นเทอร์โบ
ทำไม 13B ถึงเป็นตำนาน?
เครื่องยนต์นี้กลายเป็นตำนานเพราะมัน เป็นเครื่องโรตารีที่ถูกใช้ยาวนานที่สุด และเป็นหัวใจของรถ Mazda ที่น่าตื่นเต้นที่สุด
- เครื่องยนต์ไม่เหมือนใคร – มีเอกลักษณ์สูงทั้งเรื่องดีไซน์และเสียง
- มีประวัติการแข่งขันที่โหด – Mazda 787B ชนะเลอม็องปี 1991
- สามารถแต่งแรงได้เยอะ – บางตัวโมดิฟายไปถึง 1,000 HP
ความสำเร็จในมอเตอร์สปอร์ต
🏆 Mazda 787B ชนะ 24 Hours of Le Mans ปี 1991 – รถโรตารีเพียงคันเดียวที่เคยชนะ
🏆 RX-7 ครองแชมป์ใน IMSA และ Group B Racing
อนาคตของ 13B
แม้ว่า 13B จะเลิกผลิตแล้ว แต่ Mazda ยังไม่ลืมโรตารี!
มีข่าวว่า Mazda นำเครื่องโรตารีกลับมาใช้ใน MX-30 เป็นตัวเพิ่มระยะทางสำหรับรถไฟฟ้า
เสียงเพราะๆ ของ Rotary