ลัทธิรถ EV: เครื่องมือแห่งการหลอกลวงที่จีนครอบงำโลก


EV เป็นเพียงภาพลวงตา – เมื่อ ‘พลังงานสะอาด’ ถูกใช้เป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์

การตลาดของ EV และความจริงที่ถูกปกปิด
ในยุคที่โลกกำลังเดินหน้าสู่พลังงานสะอาด (Green Energy) มีคำถามสำคัญที่หลายคนมองข้ามไป นั่นคือ รถ EV (Electric Vehicle) จริง ๆ แล้วเป็นพลังงานสะอาดจริงหรือ? หรือเป็นเพียง ‘สแกม’ (การหลอกลวง) ที่ถูกผลักดันโดยมหาอำนาจบางประเทศ?
มีการเปิดเผยข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่า รถ EV อาจสร้างมลพิษมากกว่ารถยนต์สันดาป (Internal Combustion Engine – ICE) เพราะกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียม โคบอลต์ และแร่หายากที่ใช้ในรถ EV นั้น ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อม และ คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะในประเทศที่เป็นศูนย์กลางการผลิตวัตถุดิบเหล่านี้ ซึ่งจีนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมนี้

จีนกับบทบาทผู้นำแห่ง EV ที่ไร้ความรับผิดชอบ
จีนเป็นประเทศที่ครองตลาดแบตเตอรี่ EV อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะลิเธียมและแร่หายาก (Rare Earth Metals) ที่ถูกขุดและสกัดในพื้นที่ของจีนเอง รวมถึงประเทศที่จีนมีอิทธิพลสูง เช่น โบลิเวีย และ อินโดนีเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง
สี จิ้นผิง เคยกล่าวว่า “ตะวันออกกลางมีน้ำมัน แต่จีนมีแร่หายาก” ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่าจีนมีแผนใช้ทรัพยากรเหล่านี้เป็นเครื่องมือสร้างอำนาจทางเศรษฐกิจของตนเอง
มีรายงานระบุว่า โรงงานแปรรูปแร่หายากของจีนปล่อยมลพิษในระดับเดียวกับกัมมันตรังสีของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ซึ่งถูกปล่อยลงสู่แม่น้ำและทะเลโดยไม่มีมาตรการควบคุมใด ๆ ยกเว้นในช่วงที่มีเจ้าหน้าที่รัฐมาตรวจสอบ นอกจากนี้ พื้นที่ที่มีการทำเหมืองและสกัดแร่หายากของจีนกลายเป็น “เขตมรณะ” ที่ต้นไม้ไม่สามารถเติบโตได้ และประชากรในพื้นที่ต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพร้ายแรง
ขณะที่จีนกำลังส่งเสริมให้ประชาชนของตนเองหันมาใช้รถ EV แต่กลับ ใช้พลังงานถ่านหินในกระบวนการผลิตแบตเตอรี่และชิ้นส่วนสำคัญของ EV ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ปล่อยมลพิษสูงสุดในโลก

EV: ศาสนาใหม่ที่สร้าง ‘คนดีปลอม ๆ’
ปัจจุบัน EV ได้กลายเป็นเหมือน “ลัทธิ” ที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก โดยเฉพาะในยุโรปและประเทศพัฒนาแล้วที่มองว่าการใช้ EV คือการเป็น “คนดี” และ “ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม” อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ถูกปกปิดคือ
• EV ไม่ใช่ Zero Emission Vehicle (ยานพาหนะปล่อยมลพิษเป็นศูนย์) เพราะ กว่าที่รถ EV จะถูกผลิตขึ้นมา มันได้สร้างมลพิษไปแล้วมหาศาล
• กระบวนการรีไซเคิลแบตเตอรี่ EV แทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเทคโนโลยียังไม่สามารถทำให้แบตเตอรี่ที่รีไซเคิลกลับมามีประสิทธิภาพเทียบเท่าของใหม่ได้
• ประชาชนในประเทศที่เป็นแหล่งผลิตแร่หายากต้องแลกมาด้วยความเป็นอยู่ที่ย่ำแย่ สุขภาพที่เสื่อมโทรม และการเสียชีวิตจากสารพิษ
แม้แต่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังเคยตั้งคำถามกับที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของเขาว่า “EV สร้างมลพิษน้อยกว่ารถยนต์สันดาปจริงหรือ?” ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดกล้ายืนยัน

ความจริงที่ไม่มีใครพูดถึง: EV กำลังทำลายอนาคตของมนุษยชาติ
1. EV ขับเคลื่อนโดยพลังงานสกปรก
• โรงงานผลิตแบตเตอรี่ส่วนใหญ่ใช้ พลังงานจากถ่านหิน ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ปล่อย CO₂ มากที่สุด
• กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ต้องใช้ น้ำสะอาดมหาศาล เช่น โรงงานในชิลีต้องใช้น้ำ 2,000 ลิตร/วินาที ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่
2. จีนครอบครองเหมืองแร่ลิเธียมทั่วโลก
• จีนเข้าควบคุมแหล่งลิเธียมขนาดใหญ่ในโบลิเวีย ทำให้ประเทศอื่น ๆ ต้องพึ่งพาการส่งออกจากจีน
• แร่ลิเธียมที่ถูกสกัดมี กัมมันตรังสีในระดับเดียวกับกากนิวเคลียร์ แต่กลับไม่มีการควบคุมอย่างจริงจัง
3. รีไซเคิลแบตเตอรี่ EV เป็นเรื่องโกหก
• แบตเตอรี่ลิเธียมไม่สามารถรีไซเคิลได้ 100% และต้นทุนในการรีไซเคิลยังแพงกว่าการผลิตใหม่หลายเท่า
• ทองแดงที่ใช้ใน EV กำลังจะหมดจากโลก โดยปริมาณทองแดงที่ถูกใช้ไปแล้วตั้งแต่ยุคอุตสาหกรรมถึงปัจจุบันเท่ากับปริมาณทองแดงที่ EV จะต้องใช้ในอีก 30 ปีข้างหน้า
4. EV ไม่ได้ลด PM 2.5
• แม้ว่ารถ EV จะไม่มีท่อไอเสีย แต่มลพิษจากการผลิตแบตเตอรี่ การขุดแร่ และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานยังคงทำให้ PM 2.5 ไม่ลดลง
• มีนักวิชาการยืนยันว่า หากประเทศไทยเปลี่ยนมาใช้รถ EV 100% PM 2.5 ก็ยังคงเป็นปัญหาเหมือนเดิม

สรุป: รถ EV เป็นเพียงเครื่องมือทางเศรษฐกิจของจีนและลัทธิแห่งการหลอกลวง
ในขณะที่โลกกำลังถูกชักนำให้เชื่อว่า EV คือพลังงานสะอาด แต่ในความเป็นจริง EV คืออุตสาหกรรมที่สร้างมลพิษมหาศาล และจีนเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากอุตสาหกรรมนี้
ประชาชนในประเทศที่เป็นศูนย์กลางการผลิตแร่หายาก ต้องแลกชีวิตของพวกเขาเพื่อให้ประเทศพัฒนาแล้วได้ใช้รถ EV อย่างภาคภูมิใจ ขณะที่ผู้ใช้ EV หลายคนยังคงเชื่อว่าพวกเขากำลังช่วยโลก ทั้งที่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา
เมื่อถึงจุดที่ แหล่งทรัพยากรหมดลง และแบตเตอรี่เก่ากลายเป็นขยะพิษขนาดมหึมา โลกจะเผชิญกับวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แหล่งที่มา: https://www.facebook.com/share/p/16A8sT5wHK/



อันนี้ คิดว่าดราม่าแน่ เพราะ ในเฟสเห็นดราม่ามาหลายวันละ
จะว่าไป ก็เคยอ่านผ่านๆ ว่าผล LCA ของ EV ไม่ได้ดีอะไรเท่าไหร่
ตราบใดที่ พลังงานไฟฟ้า ไม่ใช่ Green หรือ Nuclear
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่