แฉคลิปสุดอำมหิต 'แก๊งคอลเซ็นเตอร์' ทรมานเหยื่อ ทั้งรุมซ้อม ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9625239
 
 
แฉคลิปสุดอำมหิต ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ประเทศเมียนมา ทรมานเหยื่อ ทั้งรุมซ้อม ใช้เครื่องช็อตไฟฟ้า มีคนถูกขังไม่ต่ำกว่า 800 คน 7 สัญชาติ มีบอสใหญ่เป็นคนจีน
 
7 ก.พ. 2568 แฟนเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict เปิดเผยคลิปวิดีโอ ความยาว 3 นาที 40 วินาที ขณะที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กำลังทำร้ายชายคนหนึ่ง โดยระบุข้อความดังนี้
 
“นี่ไม่ใช่หนัง ไม่ใช่ตัวแสดงแทน นี่คือฉากแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ที่เมียนมา กำลังทำร้ายเหยื่อที่ถูกพาตัวไปที่นั่น เป็นคลิปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งมาให้เผยแพร่”
 
โดยตำรวจ PCT ได้รับข้อมูลจากกลุ่มสายลับในตึกสแกมเมอร์ฝั่งประเทศเมียนมา (ชายแดนแม่สอด) ว่ามีตึกสแกมเมอร์บริษัทชื่อว่า “Zhongfa”
ภายในตึกมีพนักงานที่ถูกกักขังอยู่ไม่ต่ำกว่า 800 คน มีหลายสัญชาติ เช่น ปากีสถาน, บังกลาเทศ, เอธิโอเปีย, ยูกานดา, ญี่ปุ่น, เคนย่า และ ไทย โดยมีบอสใหญ่เป็นชาวจีน
 
สายลับภายในตึกให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีการทารุณกรรมที่โหดร้ายมาก สายลับจึงได้แอบปีนขึ้นไปแอบบนฝ้าเพดาน เพื่อถ่ายคลิปวิดิโอนี้มาให้ ขณะที่มีการนำตัวชาวต่างชาติไปทารุณกรรม

https://www.facebook.com/DramaAdd/videos/956245033303331/

---

ฝ่ายค้านลั่นยื่นซักฟอกรัฐบาล 27ก.พ.นี้ ชี้ มีข้อมูลแน่น ปม บริหารไร้ประสิทธิภาพ-ผลประโยชน์ทับซ้อน https://www.matichon.co.th/politics/news_5039340

ฝ่ายค้าน ลั่นยื่นซักฟอกรัฐบาล 27ก.พ.นี้ ขอเวลาถก 5 วัน ชี้มีข้อมูลแน่นปม บริหารไร้ประสิทธิภาพ-ผลประโยชน์ทับซ้อน

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า กรอบเวลาในการยื่นญัตติซักฟอกต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้แน่นอน ซึ่งวันที่คิดว่ามีความเหมาะสม และเป็นวันสุดท้ายของการยื่นญัตติ คือวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นี้ เนื่องจากเป็นวันประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันพฤหัสบดีสุดท้ายของเดือน
 
” แต่ละพรรคมีเนื้อหาที่มีความเข้มข้น ซึ่งพวกเราเองจะให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เป็นผู้ประสานงานเจรจาเบื้องต้นกับฝ่ายรัฐบาลว่าอยากจะขอเวลาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจไว้ที่ 5 วัน ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาลเองไม่น่าจะปิดกั้นการตรวจสอบถ่วงดุลจากพรรคฝ่ายค้าน เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน ”
 
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารราชการแผ่นดิน ขาดประสิทธิภาพ ปล่อยปละละเลย ปัญหาสังคมในหลายเรื่อง รวมถึง ประเด็นที่ส่อเค้าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อน การบริหารราชการแผ่นดินที่ไม่ได้เป็นไปตามธรรมาธิบาลของระบอบประชาธิปไตย ที่ผู้มีอำนาจในรัฐบาลควรจะต้องถูกตรวจสอบถ่วงดุล และชี้แจงได้ในระบบรัฐสภา แต่ส่วนในรายละเอียดการอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจจะยังเปิดเผยมากไม่ได้
 
เมื่อถามว่า เป้าหมายสูงสุดในครั้งนี้คือการล้มรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าสามารถนำไปสู่จุดนั้นได้ แต่หากถามว่าเป้าหมายสูงสุดคืออะไร ก็คือการตีแผ่ความจริงให้ประชาชนเห็น ว่าการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ ขาดความชอบธรรมอย่างไร รวมถึงหลายๆ กรณีที่เราเห็นตามหน้าข่าว ก็อาจจะเห็นความขาดความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งสะท้อนมาถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ทำให้ปัญหาของประชาชนไม่ได้รับการแก้ไขด้วย
 
ส่วนจะมีการยื่นเป็นรายบุคคลหรือยื่นทั้งคณะนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องดูในรายละเอียดที่แต่ละพรรคจะส่งมาก่อนว่าจะยื่นทั้งคณะหรือยื่นเป็นรายบุคคล ตอนนี้สิ่งที่สำคัญก็คือเนื้อหาที่แต่ละพรรคจะยื่นมาให้

---

ณัฐพงษ์ ลั่น สภาไม่ควรปกป้องคนผิด ชี้เป็นสิทธิ ถ้า ปูอัด คิดว่าถูกดิสเครดิต
https://www.matichon.co.th/politics/news_5039150

‘เท้ง’ ลั่น สภาไม่ควรใช้เอกสิทธิ์คุ้มครองการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ชี้ ปูอัด ถูกออกหมายจับคดีข่มขืนเป็นเรื่องส่วนตัว ขอรอหนังสือจากตำรวจก่อน

เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณี นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือปูอัด ส.ส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ถูกออกหมายจับคดีข่มขืนชาวไต้หวันว่า เป็นเรื่องของตัวบุคคลถ้าถามความเห็นส่วนตัวเมื่อเรื่องเข้าถึงสภาผู้แทนราษฎร เราคาดหวังว่าสภาไม่ควรใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. ให้ความคุ้มครองการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่หากต้องมีการลงมติโหวตในสภาในส่วนของพรรคฝ่ายค้านก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค แต่ในส่วนของพรรคประชาชน เห็นว่าไม่ควรใช้ช่องทางนี้มุ่งหวังเพื่อให้ได้รับการคุ้มครอง ส.ส. ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง เรื่องนี้ไม่ควรปกป้อง แต่การโหวตในสภาก็ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรค

ส่วนพรรคประชาชนซึ่งเคยเป็นสังกัดเก่าของนายไชยามพวาน ได้มีการหารือกันในเรื่องนี้หรือไม่นั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้มีการพูดคุยกันและในการประชุมวันนี้ที่ไม่ได้เข้าร่วมนายไชยามพวานก็ได้แจ้งตั้งแต่ล่วงหน้า ตั้งแต่ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว ว่าไม่สามารถมาเข้าร่วมการประชุมได้ ซึ่งในวันนี้เขาไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคแล้วจึงไม่มีความเกี่ยวข้องกัน ดังนั้นการที่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นการดิสเครดิตทางการเมือง ก็บอกว่าเป็นสิทธิที่เจ้าตัวจะสามารถชี้แจงได้ ส่วนความเห็นของพรรคประชาชน คงต้องรอเรื่องที่ตำรวจส่งมายังสภาผู้แทนราษฎร และขอให้ติดตาม