คน Gen X สงสารคนรุ่นนี้ ต้องเก่งทุกอย่างถึงจะรอด! ถ้าทำอะไรไม่เป็นสักอย่างก็แข่งกับใครยาก !
ลองคิดดูว่าถ้าคุณเป็นคนไทยในยุคนี้ การใช้ชีวิตให้อยู่รอดและประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่เรื่องของการขยันทำงานหรือมีวุฒิการศึกษาดีๆ อีกต่อไป แต่คุณต้องเก่งรอบด้าน มีทักษะสารพัดชนิด และต้องปรับตัวเร็วจนแทบไม่มีเวลาหายใจ
จากที่เคยมีแค่ "เรียนจบ มีงานทำ" ก็พอแล้ว ตอนนี้มันไม่พออีกต่อไป คุณต้องอดทน ต้องโฟกัส ต้องเรียนรู้เรื่องใหม่เร็ว ต้องเขียนเก่ง ต้องฟังเป็น ต้องดูแลร่างกายและจิตใจ แถมยังต้องแผ่พลังงานบวกให้คนรอบข้างอีก
1. อดทนเข้าไว้ ไม่งั้นไม่มีวันเห็นผล
ความสำเร็จต้องใช้เวลา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่ปัญหาคือ คนยุคนี้ถูกสภาพแวดล้อมหล่อหลอมให้คาดหวังทุกอย่างแบบเร่งด่วน กดปุ่มเดียวก็ได้ของ ส่งข้อความแป๊บเดียวก็ต้องมีคนตอบทันที ทุกอย่างดูเร็วไปหมดจนคนเราเริ่มหมดความอดทนกับการรอสิ่งดีๆ ที่ต้องใช้เวลา
คุณต้องอดทนแบบเดียวกับต้นไผ่ ที่ใช้เวลาสร้างรากใต้ดินนานนับปี ทั้งๆ ที่คนภายนอกไม่เห็นอะไรเลย ถ้าคุณไม่เข้าใจเรื่องนี้ คุณก็จะเป็นอีกคนที่ล้มเลิกกลางทางเพราะคิดว่า "ทำไปก็ไม่เห็นผล" ทั้งที่จริงๆ แล้ว คุณอาจจะใกล้ความสำเร็จแค่อีกก้าวเดียว
2. เรียนรู้เร็ว ลืมเร็ว ปรับตัวเร็ว
ยุคนี้ AI เปลี่ยนโลกแทบทุกวัน สิ่งที่คุณเรียนมาเมื่อปีที่แล้วอาจใช้ไม่ได้แล้วในปีนี้ ถ้าคุณยังใช้วิธีคิดแบบเดิมๆ ไม่ยอมทิ้งความรู้ที่ล้าสมัย หรือเรียนรู้เรื่องใหม่ไม่เร็วพอ คุณก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
คนไทยบางคนยังติดกับดักความคิดเดิมๆ กลัวการเปลี่ยนแปลง หรือคิดว่า "ก็เคยทำแบบนี้มาตลอด" แต่โลกมันไม่รอใครแล้ว ใครที่ปรับตัวช้า = ตาย
3. โฟกัสให้ได้ ไม่งั้นหลงทาง
สมองมนุษย์มีขีดจำกัด แต่ปัจจุบันเราถูกดึงความสนใจตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นมือถือ โซเชียล หรือสิ่งรบกวนรอบตัว ทำให้เราหลุดโฟกัสง่ายมาก คนยุคนี้จึงต้องฝึกตัวเองให้ "จดจ่อ" กับงานที่ทำให้ได้ ไม่งั้นชีวิตจะกลายเป็นการทำทุกอย่างครึ่งๆ กลางๆ ไปหมด
ลองสังเกตตัวเองดู ถ้าคุณรู้สึกว่าสมาธิสั้นขึ้น จำอะไรไม่ค่อยได้ ทำอะไรเสร็จช้าลง นั่นแสดงว่าคุณกำลังถูกโลกยุคใหม่เล่นงานแล้ว
4. ต้องเขียนให้เก่ง เพราะมันคือการคิดเป็น
ยุคนี้ AI เขียนแทนเราได้แล้ว แต่สิ่งที่ AI ทำไม่ได้คือ "การคิดแทนเรา" คนที่เขียนเก่งจริงๆ คือคนที่สามารถเรียบเรียงความคิดตัวเองได้ดี ไม่ใช่แค่ก๊อปอะไรมาแปะๆ แล้วหวังว่าจะดูฉลาด
ใครที่เขียนไม่เป็น แสดงว่าคิดไม่เป็น และถ้าคิดไม่เป็น ก็จะถูกสังคมลากไปทางไหนก็ได้ง่ายๆ โง่ดักดานซ้ำๆ
5. ฟังให้เป็น ไม่ใช่แค่ฟังผ่านๆ
การฟังเป็นเรื่องพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ทำได้แย่ลงเรื่อยๆ เพราะทุกคนเอาแต่พูดและคิดถึงเรื่องของตัวเอง คนที่ฟังเก่งจะมีข้อได้เปรียบมหาศาล เพราะพวกเขาจะเข้าใจคนอื่นลึกซึ้งกว่า และสามารถใช้ข้อมูลที่ได้รับมาสร้างโอกาสให้ตัวเองได้มากกว่า
ถ้าคุณยังเป็นคนที่ฟังคนอื่นแค่ครึ่งๆ กลางๆ แล้วเอาแต่รอพูดเรื่องของตัวเอง ระวังให้ดี คุณอาจจะเสียโอกาสดีๆ ไปโดยไม่รู้ตัว
6. ดูแลตัวเองให้ดี เพราะไม่มีใครทำแทนให้ได้
ไม่มีใครมาบังคับให้คุณนอนพอ ออกกำลังกาย หรือกินอาหารดีๆ นอกจากตัวคุณเอง แต่ปัญหาคือ คนยุคนี้ส่วนใหญ่ทำลายสุขภาพตัวเองกันสุดๆ เพราะต้องทำงานหนัก ใช้ชีวิตหนัก เครียดหนัก
สุขภาพพัง = งานพัง = ชีวิตพัง ต่อให้คุณเก่งแค่ไหน ถ้าร่างกายและจิตใจพัง คุณก็ไปต่อไม่ได้อยู่ดี
7. ต้องแผ่พลังบวกให้ได้ ไม่งั้นคนไม่อยากอยู่ใกล้
คนที่แผ่พลังงานลบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นบ่นเก่ง ดราม่าเก่ง หรือมองโลกในแง่ร้ายเก่ง จะถูกสังคมตีตัวออกห่างโดยไม่รู้ตัว โลกนี้มันเครียดพอแล้ว ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่ทำให้มันเครียดกว่าเดิม
แต่แน่นอนว่า เราไม่สามารถแฮปปี้ได้ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้เท่าทันตัวเองและรู้ว่าเมื่อไหร่ควรถอยออกไปจัดการตัวเองก่อนที่จะไปทำให้บรรยากาศรอบตัวแย่ลง
พูดง่ายๆ คือ คนไทยยุคนี้ต้องอึด ต้องไว ต้องลืมเร็ว ต้องโฟกัส ต้องเขียน ต้องฟัง ต้องดูแลตัวเอง และยังต้องเป็นคนที่มีพลังงานดีๆ ให้คนอื่นด้วย
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนๆ หนึ่งจะต้องเก่งขนาดนี้ถึงจะ "รอด" ในโลกปัจจุบัน นี่แหละที่ทำให้บางครั้งอดสงสารคนยุคนี้ไม่ได้ เพราะแค่ขยันกับมีความสามารถเฉยๆ มันไม่พออีกแล้ว คุณต้อง "เก่งรอบด้าน" ไม่งั้นเสี่ยงตกขบวนแบบไม่รู้ตัว
แต่สุดท้ายแล้ว คนที่อยู่รอดได้จริงๆ คือคนที่เข้าใจโลกและรู้จักปรับตัวให้เร็วที่สุด คุณพร้อมจะเป็นหนึ่งในนั้นหรือยัง?
คน Gen X สงสารคนรุ่นนี้ ต้องเก่งทุกอย่างถึงจะรอด! ถ้าทำอะไรไม่เป็นสักอย่างก็แข่งกับใครยาก !
จากที่เคยมีแค่ "เรียนจบ มีงานทำ" ก็พอแล้ว ตอนนี้มันไม่พออีกต่อไป คุณต้องอดทน ต้องโฟกัส ต้องเรียนรู้เรื่องใหม่เร็ว ต้องเขียนเก่ง ต้องฟังเป็น ต้องดูแลร่างกายและจิตใจ แถมยังต้องแผ่พลังงานบวกให้คนรอบข้างอีก
1. อดทนเข้าไว้ ไม่งั้นไม่มีวันเห็นผล
ความสำเร็จต้องใช้เวลา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่ปัญหาคือ คนยุคนี้ถูกสภาพแวดล้อมหล่อหลอมให้คาดหวังทุกอย่างแบบเร่งด่วน กดปุ่มเดียวก็ได้ของ ส่งข้อความแป๊บเดียวก็ต้องมีคนตอบทันที ทุกอย่างดูเร็วไปหมดจนคนเราเริ่มหมดความอดทนกับการรอสิ่งดีๆ ที่ต้องใช้เวลา
คุณต้องอดทนแบบเดียวกับต้นไผ่ ที่ใช้เวลาสร้างรากใต้ดินนานนับปี ทั้งๆ ที่คนภายนอกไม่เห็นอะไรเลย ถ้าคุณไม่เข้าใจเรื่องนี้ คุณก็จะเป็นอีกคนที่ล้มเลิกกลางทางเพราะคิดว่า "ทำไปก็ไม่เห็นผล" ทั้งที่จริงๆ แล้ว คุณอาจจะใกล้ความสำเร็จแค่อีกก้าวเดียว
2. เรียนรู้เร็ว ลืมเร็ว ปรับตัวเร็ว
ยุคนี้ AI เปลี่ยนโลกแทบทุกวัน สิ่งที่คุณเรียนมาเมื่อปีที่แล้วอาจใช้ไม่ได้แล้วในปีนี้ ถ้าคุณยังใช้วิธีคิดแบบเดิมๆ ไม่ยอมทิ้งความรู้ที่ล้าสมัย หรือเรียนรู้เรื่องใหม่ไม่เร็วพอ คุณก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
คนไทยบางคนยังติดกับดักความคิดเดิมๆ กลัวการเปลี่ยนแปลง หรือคิดว่า "ก็เคยทำแบบนี้มาตลอด" แต่โลกมันไม่รอใครแล้ว ใครที่ปรับตัวช้า = ตาย
3. โฟกัสให้ได้ ไม่งั้นหลงทาง
สมองมนุษย์มีขีดจำกัด แต่ปัจจุบันเราถูกดึงความสนใจตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นมือถือ โซเชียล หรือสิ่งรบกวนรอบตัว ทำให้เราหลุดโฟกัสง่ายมาก คนยุคนี้จึงต้องฝึกตัวเองให้ "จดจ่อ" กับงานที่ทำให้ได้ ไม่งั้นชีวิตจะกลายเป็นการทำทุกอย่างครึ่งๆ กลางๆ ไปหมด
ลองสังเกตตัวเองดู ถ้าคุณรู้สึกว่าสมาธิสั้นขึ้น จำอะไรไม่ค่อยได้ ทำอะไรเสร็จช้าลง นั่นแสดงว่าคุณกำลังถูกโลกยุคใหม่เล่นงานแล้ว
4. ต้องเขียนให้เก่ง เพราะมันคือการคิดเป็น
ยุคนี้ AI เขียนแทนเราได้แล้ว แต่สิ่งที่ AI ทำไม่ได้คือ "การคิดแทนเรา" คนที่เขียนเก่งจริงๆ คือคนที่สามารถเรียบเรียงความคิดตัวเองได้ดี ไม่ใช่แค่ก๊อปอะไรมาแปะๆ แล้วหวังว่าจะดูฉลาด
ใครที่เขียนไม่เป็น แสดงว่าคิดไม่เป็น และถ้าคิดไม่เป็น ก็จะถูกสังคมลากไปทางไหนก็ได้ง่ายๆ โง่ดักดานซ้ำๆ
5. ฟังให้เป็น ไม่ใช่แค่ฟังผ่านๆ
การฟังเป็นเรื่องพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่ทำได้แย่ลงเรื่อยๆ เพราะทุกคนเอาแต่พูดและคิดถึงเรื่องของตัวเอง คนที่ฟังเก่งจะมีข้อได้เปรียบมหาศาล เพราะพวกเขาจะเข้าใจคนอื่นลึกซึ้งกว่า และสามารถใช้ข้อมูลที่ได้รับมาสร้างโอกาสให้ตัวเองได้มากกว่า
ถ้าคุณยังเป็นคนที่ฟังคนอื่นแค่ครึ่งๆ กลางๆ แล้วเอาแต่รอพูดเรื่องของตัวเอง ระวังให้ดี คุณอาจจะเสียโอกาสดีๆ ไปโดยไม่รู้ตัว
6. ดูแลตัวเองให้ดี เพราะไม่มีใครทำแทนให้ได้
ไม่มีใครมาบังคับให้คุณนอนพอ ออกกำลังกาย หรือกินอาหารดีๆ นอกจากตัวคุณเอง แต่ปัญหาคือ คนยุคนี้ส่วนใหญ่ทำลายสุขภาพตัวเองกันสุดๆ เพราะต้องทำงานหนัก ใช้ชีวิตหนัก เครียดหนัก
สุขภาพพัง = งานพัง = ชีวิตพัง ต่อให้คุณเก่งแค่ไหน ถ้าร่างกายและจิตใจพัง คุณก็ไปต่อไม่ได้อยู่ดี
7. ต้องแผ่พลังบวกให้ได้ ไม่งั้นคนไม่อยากอยู่ใกล้
คนที่แผ่พลังงานลบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นบ่นเก่ง ดราม่าเก่ง หรือมองโลกในแง่ร้ายเก่ง จะถูกสังคมตีตัวออกห่างโดยไม่รู้ตัว โลกนี้มันเครียดพอแล้ว ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่ทำให้มันเครียดกว่าเดิม
แต่แน่นอนว่า เราไม่สามารถแฮปปี้ได้ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือคุณต้องรู้เท่าทันตัวเองและรู้ว่าเมื่อไหร่ควรถอยออกไปจัดการตัวเองก่อนที่จะไปทำให้บรรยากาศรอบตัวแย่ลง
พูดง่ายๆ คือ คนไทยยุคนี้ต้องอึด ต้องไว ต้องลืมเร็ว ต้องโฟกัส ต้องเขียน ต้องฟัง ต้องดูแลตัวเอง และยังต้องเป็นคนที่มีพลังงานดีๆ ให้คนอื่นด้วย
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนๆ หนึ่งจะต้องเก่งขนาดนี้ถึงจะ "รอด" ในโลกปัจจุบัน นี่แหละที่ทำให้บางครั้งอดสงสารคนยุคนี้ไม่ได้ เพราะแค่ขยันกับมีความสามารถเฉยๆ มันไม่พออีกแล้ว คุณต้อง "เก่งรอบด้าน" ไม่งั้นเสี่ยงตกขบวนแบบไม่รู้ตัว
แต่สุดท้ายแล้ว คนที่อยู่รอดได้จริงๆ คือคนที่เข้าใจโลกและรู้จักปรับตัวให้เร็วที่สุด คุณพร้อมจะเป็นหนึ่งในนั้นหรือยัง?