เจ้าสัวลั่น CP ไม่ได้ผูกขาด แค่ทำธุรกิจแบบแนวดิ่ง ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ



3 กุมภาพันธ์ 2568  ‘เจ้าสัวธนินท์ - ธนินท์ เจียรวนนท์’ แห่ง CP ขึ้นกล่าวปาฐกถาหัวข้อ Future Thailand : Next Growth ภายในงาน Chula Thailand Presidents Summit 2025 ว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยมี ‘อนาคต’ เพราะอยู่ในยุคการเปลี่ยนแปลงของโลกและเต็มไปด้วยความปั่นป่วน จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยที่มี่ความได้เปรียบหลายเรื่อง

โดยเฉพาะด้านการเกษตร ที่ถือเป็น ‘น้ำมันบนดิน’ และเป็นทรัพย์สมบัติที่ล้ำค่าของประเทศไทย อย่างอื่นเราต้องซื้อวัสดุดิบจากต่างประเทศ แต่สินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เกือบ 90% เป็นเงินของเมืองไทย

คนอาจมองว่า CP ผูกขาด แต่ไม่ใช่ เราเป็นแนวดิ่งตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อให้ทุกขั้นตอนสอดคล้อง ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพราะผลิตมากขายไม่หมดก็เสียหาย ขายมากถ้าผลิตมาไม่พอก็เสียหาย เป็นเรื่องจำเป็น

นอกจากนี้ ไม่ว่าจะเทคโนโลยีหรือ AI คนใช้คือ ‘ประชาชน’ และถ้าประชาชนไม่มีเงิน จะใช้อย่างไร ดังนั้น ต้องสร้างประชาชนที่มีรายได้ ประเด็นแรกหนีไม่พ้น ต้องเริ่มที่มีการศึกษา ต้องให้คนมีความรู้ และการศึกษาไม่ใช่ ‘ปริญญา’ แต่เป็น ‘ปัญญา’ รวมไปถึงนโยบายของรัฐบาล จะทำยังไงให้ประชาชนมีรายได้สูงขึ้น

นักธุรกิจก็มีหน้าที่เหมือนกัน เราทำธุรกิจหากจะอยู่รอดได้ต้องอาศัยประชาชน หากคนไทยไม่รวยขึ้น จะเอาเงินที่ไหนมาใช้ซื้อสินค้าและบริการของเรา ผลิตสินค้าออกมาจะขายให้ใคร เป็นหน้าที่ของธุรกิจ แต่ก็เป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยในการผลิตคน และหน้าที่ของรัฐบาลในการออกกฎหมายให้เอื้อกับธุรกิจด้วย เนื่องจากปัจจุบันกฎหมายเรายังไม่ค่อยเอื้อ อาทิ กฎหมายยังปิดช่องไม่ให้คนต่างชาติมาทำธุรกิจบางธุรกิจ แต่เราต้องใช้คนที่มีความสามารถ มีความไฮเทค หากคนไม่มีความรู้จะใช้อย่างไร จะผลิตเทคโนโลยีออกมาได้อย่างไร

ขณะที่ค่าแรง 600 บาท มองว่าไปถึงแน่นอน แต่เราต้องสร้างแรงงานให้เท่าทันกับโลก ประสิทธิภาพยิ่งสูง ทำให้คนเราเก่งขึ้น ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น สุดท้ายมีข้อเสนอแนะ คือ จะทำอย่างไรให้ประเทศไทยร่ำรวย เพื่อให้คนไทยแข็งแรง ซึ่งต้องพึ่งพามหาวิทยาลัยเป็นหลัก นักธุรกิจจะทำธุรกิจได้ ประชาชนต้องมีรายได้ รัฐบาลต้องออกกฎเอื้อ ประเทศไทยถึงจะอยู่ได้แบบยั่งยืน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่