ตอน ประถม-ม.3 ผมเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ แข่งทุกฤดูกาลทั่วภาคเหนือ ทำเวลาได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นเหมือนม้ามืดของชมรม แต่ไม่มีใครรู้ว่า ชีวิตในห้องเรียนของผมพังแค่ไหน
เพราะซ้อมหนักขึ้น ผมต้องกินเยอะขึ้น แป้ง น้ำตาล พลังงานสูงตลอดเวลา
🍞 เช้า – ซีเรียล + นมเปรี้ยว
🍚 เที่ยง – ข้าวราดแกง (พิเศษข้าว)
🍜 เย็น – ขนมปัง มาม่า ก่อนซ้อม
🍕 ดึก – พิซซ่า ข้าวอีกจานหลังซ้อม
พลังงานมีจริง แต่สมองพังไปด้วย
สมาธิสั้น ติดเกมหนัก – โฟกัสในห้องเรียนไม่อยู่
อ่านหนังสือเองไม่ได้ – คิดอะไรไม่เป็นระบบ ฟุ้งซ่าน
ผลการเรียนร่วงไป Top 10 จากท้ายรุ่น
เกือบไม่ได้เรียนต่อ เพราะคะแนนไม่ถึง
ผม ไม่เก่งภาษา ถ้าไปสายศิลป์ก็คงไม่รอด
แต่สายวิทย์-คณิตก็ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ เพราะ ตอนนั้นผมเรียนไม่รู้เรื่องเลย
---
"จุดเปลี่ยนที่ทำให้สมองผมกลับมา"
พอ เลิกว่ายน้ำ อาหารที่กินก็เปลี่ยนไป
✅ กินโปรตีน-ไขมันมากขึ้น – ไข่ เนื้อสัตว์ เครื่องใน น้ำซุปกระดูก
✅ ลดข้าว ลดขนม ลดน้ำหวาน
✅ ไม่กินตลอดเวลาแบบเมื่อก่อน
แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือ สมองผมกลับมา
อ่านหนังสือแล้วเข้าใจ จำได้ดีขึ้น
คิดเป็นระบบ ฟุ้งซ่านน้อยลง
ผลการเรียนดีขึ้น จนได้เรียนสายวิทย์-คณิต
ติดค่ายโอลิมปิกวิชาการ สาขาดาราศาสตร์ ค่าย 2 (ไม่ไปต่อค่าย 3 เพราะจะม.6 แล้ว)
---
"จากเด็กท้ายห้อง... สู่บัณฑิตฟิสิกส์ทฤษฎี"
ตอนนี้ผมเรียนจบ ปริญญาตรีฟิสิกส์ทฤษฎี แล้ว ลองคิดดูสิ...
เด็กที่ เกือบไม่ได้เรียนต่อ
เด็กที่ ครูคิดว่าไม่รอดสายวิทย์
เด็กที่ สมาธิสั้น ติดเกม เรียนไม่รู้เรื่อง
มันไม่ใช่โชคชะตาที่พลิกกลับขึ้นมาเอง
แต่มันคือ "การเปลี่ยนอาหาร" เท่านั้นเอง
---
"ถ้าผมรู้เรื่องนี้เร็วกว่านี้… ผมคงไปได้ไกลกว่านี้"
พ่อแม่หลายคนอยากให้ลูกเรียนดี แต่กลับให้กินแป้ง น้ำตาลเยอะเกินไป โดยไม่รู้ว่ามัน ทำลายสมาธิและความสามารถของลูกตัวเอง
❌ กินแป้งเยอะ → น้ำตาลแกว่งทั้งวัน → สมาธิพัง
❌ อินซูลินพุ่ง → หิวบ่อย โฟกัสไม่อยู่
อยากให้ลูกเรียนดีขึ้น?
✔ กินโปรตีน+ไขมันดี (ไข่ เนื้อสัตว์ เครื่องใน)
✔ ลดขนม น้ำตาล ของหวาน
✔ ไม่ต้องกินตลอดเวลา ให้ร่างกายได้พักบ้าง
ผมเสียเวลาไปหลายปี เพราะไม่รู้เรื่องนี้เร็วพอ แต่ถ้าคุณรู้ตอนนี้ ลูกคุณอาจไปได้ไกลกว่าผม 💡
เด็กสมาธิสั้น ติดเกม เรียนไม่รู้เรื่อง… เกือบไม่ได้เรียนต่อ เพราะกินผิด
เพราะซ้อมหนักขึ้น ผมต้องกินเยอะขึ้น แป้ง น้ำตาล พลังงานสูงตลอดเวลา
🍞 เช้า – ซีเรียล + นมเปรี้ยว
🍚 เที่ยง – ข้าวราดแกง (พิเศษข้าว)
🍜 เย็น – ขนมปัง มาม่า ก่อนซ้อม
🍕 ดึก – พิซซ่า ข้าวอีกจานหลังซ้อม
พลังงานมีจริง แต่สมองพังไปด้วย
สมาธิสั้น ติดเกมหนัก – โฟกัสในห้องเรียนไม่อยู่
อ่านหนังสือเองไม่ได้ – คิดอะไรไม่เป็นระบบ ฟุ้งซ่าน
ผลการเรียนร่วงไป Top 10 จากท้ายรุ่น
เกือบไม่ได้เรียนต่อ เพราะคะแนนไม่ถึง
ผม ไม่เก่งภาษา ถ้าไปสายศิลป์ก็คงไม่รอด
แต่สายวิทย์-คณิตก็ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ เพราะ ตอนนั้นผมเรียนไม่รู้เรื่องเลย
---
"จุดเปลี่ยนที่ทำให้สมองผมกลับมา"
พอ เลิกว่ายน้ำ อาหารที่กินก็เปลี่ยนไป
✅ กินโปรตีน-ไขมันมากขึ้น – ไข่ เนื้อสัตว์ เครื่องใน น้ำซุปกระดูก
✅ ลดข้าว ลดขนม ลดน้ำหวาน
✅ ไม่กินตลอดเวลาแบบเมื่อก่อน
แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือ สมองผมกลับมา
อ่านหนังสือแล้วเข้าใจ จำได้ดีขึ้น
คิดเป็นระบบ ฟุ้งซ่านน้อยลง
ผลการเรียนดีขึ้น จนได้เรียนสายวิทย์-คณิต
ติดค่ายโอลิมปิกวิชาการ สาขาดาราศาสตร์ ค่าย 2 (ไม่ไปต่อค่าย 3 เพราะจะม.6 แล้ว)
---
"จากเด็กท้ายห้อง... สู่บัณฑิตฟิสิกส์ทฤษฎี"
ตอนนี้ผมเรียนจบ ปริญญาตรีฟิสิกส์ทฤษฎี แล้ว ลองคิดดูสิ...
เด็กที่ เกือบไม่ได้เรียนต่อ
เด็กที่ ครูคิดว่าไม่รอดสายวิทย์
เด็กที่ สมาธิสั้น ติดเกม เรียนไม่รู้เรื่อง
มันไม่ใช่โชคชะตาที่พลิกกลับขึ้นมาเอง
แต่มันคือ "การเปลี่ยนอาหาร" เท่านั้นเอง
---
"ถ้าผมรู้เรื่องนี้เร็วกว่านี้… ผมคงไปได้ไกลกว่านี้"
พ่อแม่หลายคนอยากให้ลูกเรียนดี แต่กลับให้กินแป้ง น้ำตาลเยอะเกินไป โดยไม่รู้ว่ามัน ทำลายสมาธิและความสามารถของลูกตัวเอง
❌ กินแป้งเยอะ → น้ำตาลแกว่งทั้งวัน → สมาธิพัง
❌ อินซูลินพุ่ง → หิวบ่อย โฟกัสไม่อยู่
อยากให้ลูกเรียนดีขึ้น?
✔ กินโปรตีน+ไขมันดี (ไข่ เนื้อสัตว์ เครื่องใน)
✔ ลดขนม น้ำตาล ของหวาน
✔ ไม่ต้องกินตลอดเวลา ให้ร่างกายได้พักบ้าง
ผมเสียเวลาไปหลายปี เพราะไม่รู้เรื่องนี้เร็วพอ แต่ถ้าคุณรู้ตอนนี้ ลูกคุณอาจไปได้ไกลกว่าผม 💡