รีวิวการบริจาคสเต็มเซลล์ หรือ ปลูกถ่ายไขกระดูก

รีวิวการบริจาคสเต็มเซลล์ 
สวัสดีค่ะเราอยากรีวิวการบริจาคสเต็มเซลล์เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคเลือดให้ทุกคนฟังในแบบที่เราเข้าใจ และเผื่อให้ใครหลายๆคนที่คิดจะบริจาคและกลัวได้เข้าใจมากขึ้นนะคะ ผิดพลาดประการใดขอโทษไว้ก่อนเลยค่า🙏🏻
เราคือผู้บริจาคสเต็มเซลล์ หรือเรียกอีกชื่อว่าปลูกถ่ายไขกระดูกให้พี่สาวแท้ๆ ที่เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันหรือลูคิเมียนั่นเองค่ะ 
เราสเต็มเซลล์ตรงกับพี่สาว 50% (คุณหมอบอก50%ขึ้นไปถือว่าใช้ได้ แต่ก็อาจจะมีความเสี่ยง) 
การปฎิบัติตัวก่อนบริจาคหลังจากตรวจเนื้อเยื่อHLAตรงกับพี่เราแค่ไหน เราต้องเข้าไปตรวจเลือดอีกครั้งก่อนบริจาคว่ามีเชื้อไวรัสอะไรไหม เช็คร่างกาย เอ็กซเรย์ปอด ถ้าปกติหมอก็จะนัดเข้ามาทำการฉีดยากระตุ้นเม็ดเลือดขาว 4 วันแรกก่อนใส่สายที่บริเวณคอ แถวไหปลาร้า เราฉีดตรงแขน วันละ1 ครั้ง 
อาการ-
วันแรก หลังฉีดยังปกติ ไม่มีอะไร
วันที่2 ก็ยังปกติ 
วันที่3 เริ่มปวดกระดูกตามที่หมอแจ้ง เราจะปวดช่วงเอวด้านหลัง ปวดหลัง ปวดแบบตุบๆๆ เหมือนมีอะไรตุ้บๆ อยู่ในกระดูก เป็นๆหายๆ ไม่ได้เจ็บแบบทรมานแต่มีรำคาญนิดหน่อย
วันที่4 เริ่มปวดมากขึ้น จะปวดเวลานั่ง หน่วงๆ คล้ายตอนมีประจำเดือน แต่เวลาเดินหรือยืนจะไม่ค่อยปวด อยู่ในระดับที่ทนได้
วันที่5 วันนี้หมอนัดเข้ามาแอดมิดที่รพ .พร้อมใส่สายที่คอช่วงบ่าย และใส่สายที่มือไว้ มีฉีดยากระตุ้น1 เข็ม ตอนใส่แอบตื่นเต้น+กลัวมากๆ แต่ก็เอาใจเข้าสู้ 55 หมอจะฉีดยาชา ไม่เจ็บเลย ตอนใส่สายลงไปรู้สึกหวิวๆ ในท้องบอกไม่ถูก เหมือนลูกโป่งที่โดนเจาะ555 เสร็จหมอก็จะทำการเย็บสายยึดตามรูปที่แนบ (อาจจะดูน่ากลัวนิดนึง) ใส่เสร็จรู้สึกไม่ชินเลย คืนแรกนอนหลับๆตื่นๆ รู้สึกแปลกๆที่แผล ขอยาแก้ปวดหนึ่งเม็ด 
เราเก็บ3 วัน (วันแรกเก็บแล้วให้พี่เลย วันที่2-3 สำรองในธนาคาเลือด)
วันที่1 ของการบริจาค เราเริ่มให้ตอนเช้าเลยประมาณ8โมง ก่อนให่เค้าก็จะให้กินแคลเซียม1 เม็ด และตรวจเลือดไปตรวจค่าเลือดต่างๆ 
เสร็จก็พาไปที่ห้องปลูกถ่าย ห้องหนาวมาก เพราะต้องเป็นห้องปลอดเชื้อ อุณหภูมิห้องจะปรับไม่ได้ไปถึงเค้าก็จะต่อสายเครื่องเข้ากับสายที่คอของเราแล้วก็ปรับเครื่องค่าต่างๆเราก็ไม่รู้ว่าคืออะไรบ้าง ตอนเริ่มรู้สึกใจสั่นๆ เพราะเครื่องปั่นเสียงจะดังมาก เค้าจะปั่นเลือดของเราออกไปก่อนเพื่อไปปั่นคัดแยกเป็นสเตสเต็มเซลล์อีกครั้งส่วนเลือดที่ไม่ใช้ก็จะคืนกลับมาในร่างกายเรา พี่พยาบาลก็จะคอยถามว่าชาหรือยัง พอเราบอกเริ่มชาปาก เค้าก็จะผสมแคลเซียมแบบเม็ดฟู่ให้เรากิน นอนไปประมาณ4-5 ชม. ตอนใกล้เสร็จเริ่มจะชามาก เหมือนคนเปนตะคริวมือแข็ง เพราะเครื่องจะดูดแคลเซี่ยมของเราไปด้วยในตอนปั่น พอเสร็จเค้าก็พาไปพักที่ห้อง รอประมาณ2-3 ชม. อาการชาถึงหาย
ตอนเย็นเค้าก็แจ้งมาเราเก็บได้น้อยมาก 1.4 ล้านเซลล์ พี่เราต้องการ2-3ล้านเซลล์ 🥹 พรุ่งนี้ก็มาเก็บใช้ใหม่ ฉีดยากระตุ้นเม็ดเลือดขาวเหมือนเดิม1 เข็ม และกินแคลเซียมอีก1 เม็ด
วันที่2ของการเก็บ เช้ามากินแคลเซี่ยมตรวจเลือดเหมือนเดิม มีการให้เกล็ดเลือดเพิ่ม1 ถุง พาไปห้องปลูกถ่ายวันนี้ระหว่างเก็บ มีชาน้อย เพราะพี่พยาบาลดริปแคลเซียมให้เลยชาน้อยลง ให้ไปครึ่งทาง เครื่องดันมีมีปัญหา ต้องเรียกช่างของบริษัทเครื่องมาซ่อมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเราเลยต้องเริ่มให้ใหม่แต่สามารถไปรวมกับครึ่งแรกที่ให้ไปแล้วได้ สรุปวันที่สองเราเก็บใต้รวมสองครั้งประมาณ 1.6ล้านเซล์ =รวมกับวันแรก ได้3ล้านเซล์ ซึ่งพอสำหรับการใส่ให้พี่เรา แต่ก็ยังต้องเก็บไว้สำรองสำหรับวันพรุ่งนี้อีกครั้ง เหมือนเดิมฉีดยากระตุ้นเม็ดเลือดขาวและกินแคลเซี่ยมอีกหนึ่งเม็ด 
วันสุดท้ายของการเก็บ ทำเหมือนเดิมในตอนเช้าและพาที่ปลุกถ่าย วันนี้อาการชาน้อยกว่าทุกวัน เพราะดริปแคลเซียมไปด้วยตลอดการเก็บ ก็นอนดูหนังชิวๆไปเลยจ้า สรุปผลคือวันสุดท้ายเก็บได้น้อยกว่าทุกวันคือได้ประมาณ 8แสนเซล์ แต่ถามหมอแล้ว หมอบอกเพียงพอแล้ว เพราะใช้สำหรับเสริมภูมิในอนาคต เสร็จก็ไปพักรอถอดสายออกวันพรุ่งนี้
วันถอดสาย เราได้ถอดประมาณช่วงเย็น จากที่อ่านรีวิวคนอื่นบางคนบอกว่าขั้นตอนนี้เจ็บสุดก็กลัวแต่ปรากฏว่าไม่เจ็บเลยแทบไม่รู้สึกอะไรเลยตอนถอดไม่มียาชาแต่ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร หรือเพราะเค้าต้องกดแผลไว้แรงมากเพื่อให้เลือดหยุกรึป่าว เพราะถอดเสร็จรู้สึกหน้ามืดมาก จนหมอให้นอนพักอีกคืนเพราะกลัวไปเดินเป็นลมที่ไหนคนเดียว555 ได้แอดมิดเพิ่มอีกคืน เป็นออกวันพรุ่งนี้ เราไม่ได้ถ่ายรูปสายที่ใส่มาให้ทุกคนดูเพราะเราเป็นคนกลัวเลือดมากตอนนั้นเราหน้ามืดพอดีเลยไม่กล้าขอหมอดู มีแต่รูปแผลหลังถอดแล้ว นี่เลยๆๆ จริงๆแผลไม่ได้ใหญ่หรอกแต่มันช้ำที่ม่วงม่วง 
วันอออกก็มีอุปกรณ์ติดแผลให้ ยาบำรุงเลือดให้กิน และให้ติดที่แผลไว้ประมาณสองถึงสามวันเพราะเราค่าเม็ดเลือดแดงเกล็ดเลือดต่ำมากก็เลยอาจจะต้องติดไว้ก่อนกันเลือดไหล (จะฟื้นฟูได้เองประมาณสองสามวันหมอบอก) เสร็จเราก็เดินทางกลับบ้านปกติไม่มีอาการอะไรไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลยณ ตอนนี้ผ่านมาอาทิตย์หนึ่งแล้วเราเลยมารีวิวให้ทุกคนรู้ 
เราอยากให้ทุกคนลองเปิดใจที่จะบริจาคเพราะว่าน้อยคนมากที่จะมีเซลล์ที่ตรงกันเค้าบอกว่าเราโชคดีมากที่เซลล์ตรงกับพี่สาวเพราะคนบางคนไม่มีพี่น้องเขาหากันทั่วโลกเลยนะ มันไม่ได้เจ็บและไม่น่ากลัวขนาดนั้นเลยแต่มันค่อนข้างมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและใช้เวลาหลายวันแต่ก็ก็คุ้มในการที่จะช่วยใครซักคนนึงให้มีโอกาสหายขาดจากโรคพวกนี้ เพราะคนปกติสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่ได้อยู่แล้วแต่คนที่เป็นโรคเซลล์เค้าจะสร้างขึ้นมาไม่ได้ ตอนแรกยอมรับว่ากลัวมากเพราะว่าเป็นคนกลัวเลือดด้วยแต่พอบริจาคเสร็จแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไร แถมได้ช่วยคนที่เรารักถือว่าเล็กน้อยมากจริงๆค่ะ แผลก็เล็กมากขอบคุณทุกคนที่อ่านจบค่ะอยากให้ทุกคนลองศึกษาและไปบริจาคดูอาจจะมีใครสักคนที่มีเซลตรงกับคุณ รอโอกาสในการมีชีวิตใหม่อยู่ก็ได้นะคะ ขอบคุณนะคะที่อ่านจนจบ ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ 
#มะเร็งเม็ดเลือดขาว #ลูคิเมีย 
#บริจาคสเต็มเซล #ปลูกถ่ายไขกระดูก #มะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะเฉียบพลัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่