เราติดค้ำประกันเงินกู้ธนาคาร เมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน วงเงินล้านสอง มีผู้ค้ำร่วมรวมทั้งหมด 5 คน เมื่อ 3 ปีที่แล้วผู้กู้รายนี้ลา ออกจากงานและเริ่มส่งเงินกู้ช้าทำให้ธนาคารส่งหนังสือทวงหนี้มาที่เราเป็นระยะ  เราเข้าไปถามที่ธนาคาร ทางสินเชื่อแจ้งว่าผู้กู้ชำระเข้ามาอยู่ แต่อาจช้าบ้าง ยอดหนี้คงเหลือเกือบห้าแสนบาท  จนถึงเมื่อวานนี้มีหนังสือทวงมาที่เราแจ้งว่าผู้กู้มียอดเงินเกินบัญชี 2xx,xxx บาท ให้ไปติดต่อชำระหนี้ภายใน 15 วัน 

ถึงวันนี้เราเริ่มแน่ใจแล้วว่าผู้กู้คงไม่ชำระหนี้ต่อแล้ว  ซึ่งเราเองกับผู้กู้นี่คือไม่รู้จักกันเลย ด้วยความซื่อบื้อของเราเอง เข้ามาทำงานใหม่คิดว่ามีคนร่วมเซนต์ค้ำเยอะ คงช่วยกันตามหนี้ไม่ก็ช่วยกันใช้หนี้ได้ ดีกว่าค้ำคนเดียว แต่เรามารู้ทีหลังว่าธนาคารเลือกจะฟ้องยึดทรัพย์ใครก็ได้ที่มันสะดวกกับธนาคาร 

ซึ่งผู้ค้ำรายอื่นต่างย้ายไปทำงานต่างจังหวัด ไกลจนหากันไม่เจอแล้ว มีเราคนเดียวที่ยังอยู่ในพื้นที่

ขอถามคำถามกับผู้ที่มีความรู้ คือ ณ วันนี้ธนาคารยังไม่ฟ้อง (แต่ผู้กู้มีสัญญาณผิดนัดชำระหนี้มา 3 ปีแล้ว)  เรามีอสังหา 1 รายการ ปลอดภาระหนี้ที่เป็นชื่อสามีที่จดทะเบียนสมรส  ราคาประเมินสองล้านบาท (ราคาจริงสูงกว่านั้นเพราะเป็นที่ดิน นส3ก. อยู่ใจกลางเมือง)  เราควรเลือกอะไรดีระหว่าง 
1. โอนเป็นชื่อลูก อายุ 17 ปี กับ 13 ปี
2. จดทะเบียนหย่า
หรือ
3. ไม่ต้องทำอะไรเพราะไม่ทันแล้ว 

ก่อนหน้านี้เราเคยขอให้สามีโอนให้เป็นชื่อแม่เรา แต่สามีไม่ยอม  

ไม่ได้ว่าจะใช้วิธีไม่มีไม่หนีไม่จ่าย เพราะถ้าถึงที่สุดแล้วเรายินดีผ่อนชำระ(ร่วมกับผู้ค้ำรายอื่น ) 

แต่ไม่อยากโดนยึดทรัพย์จริงๆ 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ธนาคารออมสิน สินเชื่อข้าราชการ