Charlie Javice หลอกขายกิจการ 6,000 ล้าน ให้ธนาคารใหญ่สุดในโลก /โดย ลงทุนแมน

เราคงได้เห็นนักธุรกิจหน้าใหม่หลายราย สร้างชื่อเสียงและฐานะความร่ำรวย มาจากการปั้นกิจการสตาร์ตอัป

แต่มันก็มีบางกรณีที่ถูกเปิดโปงว่า มีการสร้างเรื่องโกหกเพื่อหลอกลวงเงินจากนักลงทุน ยกตัวอย่างเช่น คุณ Elizabeth Holmes ผู้ก่อตั้ง Theranos ที่โด่งดังถึงขนาดเรื่องราวของเธอ ถูกนำไปเขียนเป็นหนังสือ 

ซึ่งมีอีกหนึ่งผู้ประกอบการหญิง ที่เรื่องราวของเธอ ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน 

เธอมีชื่อว่า “Charlie Javice” โดนตัดสินความผิด จากการตกแต่งข้อมูลบริษัทให้ดูดีเกินจริง จน JPMorgan Chase ธนาคารใหญ่สุดในโลก หลงเชื่อ และจ่ายเงินซื้อกิจการถึง 6,000 ล้านบาท.. 

แล้วเธอทำได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง



คุณ Charlie Javice เรียนจบจาก Wharton School คณะบริหารธุรกิจของมหาวิทยาลัย Pennsylvania ซึ่งเป็นสถาบันที่ผลิตบุคคลชื่อดังมากมาย เช่น อีลอน มัสก์, ดอนัลด์ ทรัมป์

ในปี 2016 ตอนเธอมีอายุเพียง 24 ปี ได้เกิดไอเดียทำแพลตฟอร์มวางแผนค่าเทอม สำหรับกลุ่มนักเรียนนักศึกษา ชื่อว่า “Frank” ขึ้นมา

โดย Frank จะให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับ

- ค่าเทอม ของสถาบันต่าง ๆ 
- แหล่งทุนการศึกษาจากภาครัฐและเอกชน 
- รวมทั้งช่วยเหลือผู้ใช้งาน ในการกรอกใบสมัครได้ง่ายขึ้น 
- แถมมีบริการให้ยืมเงิน จ่ายค่าเทอมล่วงหน้าอีกด้วย

ด้วยสตอรีที่น่าสนใจของธุรกิจ เพียง 2 ปีให้หลัง Frank จึงสามารถระดมทุน จากกลุ่มนักลงทุน Private Equity และบริษัท เช่น Lemonade, WeWork ได้เป็นเงินมูลค่าถึง 350 ล้านบาท

ส่งผลให้ซีอีโออย่างคุณ Charlie Javice ติดอันดับนักธุรกิจอายุน้อยกว่า 30 ปีที่มาแรง ของนิตยสาร Forbes เลยทีเดียว

ด้วยเหตุนี้ ชื่อของแพลตฟอร์ม Frank จึงไปเข้าตา “JPMorgan Chase” ธนาคารมูลค่ามากสุดในโลก

ขณะนั้น JPMorgan Chase มีกลยุทธ์ขยายการลงทุนไปยังธุรกิจ Fintech มากขึ้น เพื่อรองรับเทรนด์ในอนาคต และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

ในปี 2021 คุณ Javice เลยเห็นโอกาสนำเสนอดีลขาย Frank ให้กับ JPMorgan Chase และโชว์ตัวเลขผู้ใช้งาน 4.3 ล้านบัญชี ที่เรียนอยู่ในสถาบันการศึกษากว่า 6,000 แห่ง 

ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าว ทำให้ JPMorgan Chase มองว่า Frank น่าจะช่วยขยายฐานลูกค้า กลุ่มนักเรียนนักศึกษา ได้เป็นอย่างดี
จึงตัดสินใจซื้อกิจการของ Frank ด้วยเงินมูลค่า 6,000 ล้านบาท 

รวมทั้งจ้างคุณ Javice และพนักงานคนอื่น ๆ ให้มาทำงานที่ JPMorgan Chase ในแผนกผลิตภัณฑ์กลุ่มลูกค้านักเรียน ต่อด้วย

มีการประเมินว่า ดีลครั้งนี้ ทำเงินให้คุณ Javice ไปไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม หลังจากลองดำเนินธุรกิจ Frank ไปสักพัก JPMorgan Chase กลับพบว่า ข้อมูลที่เคยได้ฟังมานั้น ไม่เป็นความจริงเลย..

เริ่มแรก ทีมได้ส่งอีเมลไปหาลูกค้า 400,000 บัญชี 
ซึ่งปรากฏว่า ระบบแจ้งไม่พบบัญชีถึงกว่า 7 ใน 10..

จึงได้ทำการตรวจสอบโดยละเอียดเพิ่มเติม และพบความจริงว่า รายชื่อผู้ใช้งานของ Frank เป็นบัญชีปลอมกว่า 4 ล้านบัญชี 

เท่ากับว่าที่เคยโชว์กันว่า มีผู้ใช้งาน 4.3 ล้านบัญชีนั้น
Frank มีคนใช้งานจริง ๆ อยู่เพียง 300,000 บัญชีเท่านั้น..

หลังจากนั้น JPMorgan Chase ก็ได้เริ่มดำเนินการสืบสวนภายใน และเจอหลักฐานว่าในช่วงการทำ Due Diligence หรือ การตรวจสอบสถานะกิจการ เพื่อตัดสินใจซื้อกิจการนั้น
ทางคุณ Javice นำเสนอข้อมูลเท็จ หลอกว่าธุรกิจมีขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มมูลค่าประเมินของบริษัท

โดยคุณ Javice ได้ทำการจ้าง Data Scientist ด้วยเงิน 630,000 บาท มาสร้างบัญชีปลอม และเขียนอัลกอริทึมเติมรายละเอียดข้อมูลผู้ใช้งานเอง..

พอเรื่องเป็นแบบนี้ ท้ายที่สุด JPMorgan Chase จึงตัดสินใจประกาศปิดตัวแพลตฟอร์ม Frank เมื่อต้นปี 2023 
รวมทั้งไล่คุณ Javice ออก และดำเนินคดีฟ้องร้อง จนศาลตัดสินให้มีความผิดฐานฉ้อโกง 

ต่อมา JPMorgan Chase ก็ได้ออกมายอมรับว่า ดีลซื้อกิจการ Frank นับเป็นความผิดพลาดของธนาคาร ที่เร่งรีบดำเนินการ และไม่ตรวจสอบข้อมูลที่คุณ Javice นำเสนอให้ดี ทำให้ต้องสูญเงินไป 6,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม มูลค่าเงินดังกล่าว ถือว่าเป็นสัดส่วนน้อย เมื่อเทียบกับกำไรที่ JPMorgan Chase ทำได้ในแต่ละปี ซึ่งอยู่ในช่วง 1.2-1.6 ล้านล้านบาทต่อปี

เท่ากับว่า ธนาคารสามารถหาเงินมาชดเชยได้ภายใน 2 วัน..

จากกรณีนี้ แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของขั้นตอน Due Diligence 
เพราะเมื่อเห็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ สิ่งที่หลายคนทำคือ การพุ่งเป้าไปที่ตัวเลขการเติบโต และงบการเงินที่ดูมีพื้นฐานแข็งแกร่ง จนน่าเข้าไปลงทุน

แต่ในบางครั้ง ข้อมูลเหล่านั้นอาจถูกบิดเบือนด้วยความตั้งใจ เพื่อหลอกล่อให้เราเข้าไปลงทุนก็เป็นได้

ดังนั้น การตรวจสอบ วิเคราะห์สถานะของบริษัทอย่างละเอียดและรอบคอบ ถึงความถูกต้องของตัวเลขต่าง ๆ

จะช่วยให้ตอบได้อย่างมั่นใจว่า มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยงเอาเงินไปลงทุนกับกิจการหรือไม่

ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ก็คือ ขนาดธนาคารมูลค่ามากสุดในโลก มีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินเต็มบริษัท ยังผิดพลาดได้ 
ซึ่งก็เป็นสัจธรรม ที่ใคร ๆ ก็ทำพลาดได้เสมอ

ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยง เราในฐานะนักลงทุนคนหนึ่ง ก็ควรรอบคอบ ลงทุนในสิ่งที่เรารู้จัก เราเคยเห็น เราเคยใช้บริการ 

อย่าเพิ่งไปเชื่อตัวเลขที่สวยหรูที่เห็นโดยทันที 
เพราะไม่อย่างนั้น เราก็อาจจะถูกหลอกได้เหมือนกัน..

https://www.facebook.com/share/p/155ErQUjAw/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่